พันธกิจแห่งรัก
|
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา
ปี B
|
อมส 6:7-13
อฟ 1:3-14
มก 6:7-13
|
บทนำ
นักบุญฟรังซิส
อัสซีซี เกิดในครอบครัวชาวอิตาเลียนที่มั่งคั่ง
ในวัยหนุ่มได้ใช้ชีวิตเหลวแหลกและสุรุ่ยสุร่าย ปี 1202 เกิดสงครามระหว่างเมืองอัสซีซีกับเปรูจา ฟรังซิสได้เข้าร่วมกองทหารเมืองอัสซีซีในการต่อสู้กับผู้รุกราน
จนถูกจับเป็นเชลยและถูกตีตรวนคุมขังในห้องที่สกปรก ชีวิตในที่คุมขังได้เปลี่ยนชีวิตของฟรังซิสตลอดไป
เลิกใช้ชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย หันมาสวมใส่ชุดคนงานที่ยากจน
หลังสงครามสงบ
ฟรังซิสได้ละทิ้งบ้านออกไปดำเนินชีวิตสมถะแบบฤๅษีในวัดร้างแห่งหนึ่งของเมืองอัสซีซี
และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการรำพึงภาวนาโดยลำพัง ให้ความสนใจคนไร้ที่อยู่และคนที่ถูกสังคมทอดทิ้ง
โดยได้แรงผลักดันจากข้อความในพระคัมภีร์หนังสือปฐมกาลที่ว่า ทุกคนถูกสร้างมาตามพระฉายาของพระเจ้า
(ปฐก 1:27) และจากพระวรสารของนักบุญมัทธิวที่ว่า ทุกสิ่งที่เราทำกับพี่น้องที่ต่ำต้อย
เรากำลังทำกับพระเยซูเจ้า (มธ
25:40)
วันหนึ่งขณะร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ได้ฟังพระวรสารตอนเดียวกับที่เราได้ยินวันนี้
ฟรังซิสรู้สึกสะกิดใจจากคำแนะนำของพระเยซูเจ้า
ให้ประกาศพระวรสารโดยไม่นำสิ่งใดติดตัวไป แม้กระทั่งอาหารและเงินทอง ฟรังซิสได้ยึดแนวทางนี้ในการดำเนินชีวิตของตนและหมู่คณะ
ออกเดินทางไปประกาศข่าวดีในความยากจนตามหมู่บ้านต่างๆ และเป็นที่มาของการก่อตั้งคณะฟรังซิสกันที่เจริญชีวิตในความยากจนและรับใช้คนจน
1. พันธกิจแห่งรัก
พระเยซูเจ้าถูกปฏิเสธจากชาวนาซาเร็ธบ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์
เป็นเหตุให้พระองค์กับบรรดาศิษย์ต้องเสด็จไปยังหมู่บ้านต่างๆ เพื่อเทศน์สอนและรักษาคนเจ็บป่วย
ทรงเตรียมบรรดาศิษย์ให้ล่วงหน้าพระองค์ไปก่อน เพื่อประกาศถึงพระอาณาจักรของพระเจ้าและข่าวดีแห่งการช่วยให้รอดของพระองค์
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงให้คำแนะนำบรรดาศิษย์ สำหรับพันธกิจแห่งรักที่พวกเขาต้องประกาศ
บรรดาศิษย์ต้องประกาศข่าวดีแห่งความรักของพระบิดาเจ้า
ที่ทรงประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอดจากพันธนาการแห่งบาป
ผ่านทางพระบุตรของพระองค์คือพระเยซูเจ้า
พวกเขาต้องประกาศข่าวดีแห่งการกลับใจใช้โทษบาป ด้วยการเปลี่ยนแปลงจิตใจและแสดงออกในภาคปฏิบัติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตสมถะ เรียบง่าย ไม่หวังสิ่งตอบแทน และเป็นหนึ่งเดียวกับคนยากจนและคนถูกทอดทิ้ง
พระเยซูเจ้ายังให้คำแนะนำสำคัญสำหรับบรรดาศิษย์
ในการเผชิญกับความล้มเหลว ความผิดหวัง และการไม่ได้รับการต้อนรับเมื่อไปประกาศข่าวดี
ปัญหาเหล่านี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือวางปัญหาทุกอย่างไว้
สลัดฝุ่นจากเท้าไว้เบื้องหลังและไปประกาศข่าวดียังหมู่บ้านอื่น การสลัดฝุ่นจากเท้าเป็นการไม่นำเอาความล้มเหลวมาเป็นปัญหาบั่นทอนจิตใจอีกต่อไป
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องประกาศพันธกิจแห่งรัก
คริสตชนแต่ละคนถูกเรียกให้มาเป็นศิษย์และอัครสาวก ในฐานะศิษย์เราต้องติดตามและเลียนแบบพระเยซูเจ้าในความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
ในฐานะอัครสาวกเราต้องประกาศข่าวดีแห่งความรักแก่โลก นำทุกคนให้มารู้จักพระเยซูเจ้าผ่านทางชีวิตของเรา
แสดงออกให้เห็นถึงความรัก ความเมตตากรุณา และความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อผู้คนที่อยู่รอบข้าง
ประการที่สอง เรามีพันธกิจที่ต้องขับไล่ปีศาจ
พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้เป็นเครื่องมือและช่วยพระองค์
ในการขับไล่ปีศาจที่ครอบงำชีวิตของผู้คนที่อยู่รอบข้างเรา อาทิ ผีพนัน
ผีเหล้าบุหรี่ ผียาเสพติด ผีการประพฤติผิดทางเพศ ผีวัตถุนิยมและบริโภคนิยม
ผีเหล่านี้ทำให้หลายคนตกเป็นทาสของมัน
เราต้องช่วยพระเยซูเจ้าในการขับไล่ผีเหล่านี้ ผ่านทางการอธิษฐานภาวนา
การตักเตือนกันและแบบอย่างชีวิตที่ดีงามของเรา
ประการที่สาม เราต้องเจริญชีวิตเยี่ยงบุตรของพระเจ้า ตระหนักถึงศักดิ์ศรีของการเป็นบุตรพระเจ้า
ด้วยการดำเนินชีวิตในความรักมากกว่าความเกลียดชังและความเห็นแก่ตัว ให้ความเคารพเพื่อนพี่น้องของเราในพระคริสตเจ้า
ในฐานะบุตรของพระเจ้า เราต้องเจริญชีวิตด้วยความวางใจในความดีของพระบิดาเจ้าสวรรค์
ที่ทรงรู้ว่าสิ่งไหนดีที่สุดสำหรับเรา เราควรมีความยินดีแม้ในห้วงเวลาของความล้มเหลวและผิดหวัง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก นักบุญฟรังซิส
อัสซีซีและนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตต้า
เป็นตัวอย่างของคนที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเยซูเจ้า ในการสานต่อพันธกิจแห่งรักของพระเจ้ากับคนยากจนและคนถูกทอดทิ้ง
แม้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่โลกต้องการคนอย่างนักบุญทั้งสองนี้
ในการช่วยเหลือคนยากจนให้ตระหนักถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ และความรักของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา
เราแต่ละคนได้รับมอบพันธกิจแห่งรักเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่วันที่เรารับศีลล้างบาป “พระเจ้าทรงเลือกสรรเราในพระคริสตเจ้าแล้ว
ตั้งแต่ก่อนเนรมิตสร้างโลก เพื่อให้เราศักดิ์สิทธิ์และปราศจากมลทิน” (อฟ 1:4) ศิษย์พระคริสต์ต้องประกาศข่าวดีของพระเจ้าด้วยชีวิตสมถะ เรียบง่ายและยากจน บนพื้นฐานแห่งความรัก
ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจ และการช่วยเหลือคนยากจนและคนไร้ที่พึ่ง ตามที่พระเยซูเจ้าทรงสอน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@hotmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม
13 กรกฎาคม 2018
ที่มาภาพ: https://bigthink.com/laurie-vazquez/how-people-like-mother-teresa-become-saints
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น