วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า


พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า
1 มกราคม
สมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า
(วันขึ้นปีใหม่ ปี A B C)
กดว 6:22-27
กท 4:4-7
ลก 2:16-21
บทนำ
คำว่า January” ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าเดือนมกราคม มาจากชื่อเทพเจ้าโรมันชื่อ Janus” เป็นเทพเจ้ามีสองหน้า หน้าหนึ่งสำหรับมองย้อนไปในอดีตที่ผ่านมา และอีกหน้าหนึ่งสำหรับมองไปยังอนาคตข้างหน้า ดังนั้น เมื่อเราเริ่มต้นเดือนมกราคม วันที่ 1 วันขึ้นปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่เตือนใจเราให้มองย้อนไปยังขวบปีที่ผ่านมา อีกทั้งมองไปยังปีใหม่ข้างหน้าอย่างมีเป้าหมาย
สิ่งที่เราต้องพิจารณาเป็นพิเศษตลอดปีที่ผ่านมาคือ เราได้ใช้ชีวิตของเราอย่างไร ดำเนินชีวิตตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ได้ใช้เวลาอย่างสมดุลระหว่างเวลาทำงานกับเวลาที่ให้กับครอบครัว กับเพื่อน กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระเจ้าหรือเปล่า มีสิ่งไหนบ้างที่เราคิดว่าเป็นสิ่งดีงามและประสบผลสำเร็จ ควรได้รับการสานต่อให้ดียิ่งขึ้นในปีใหม่นี้ หรือมีสิ่งไหนบ้างที่ล้มเหลวไม่บรรลุผลตามที่วางไว้ ควรได้รับการแก้ไข
วันแรกของปีใหม่ พระศาสนจักรให้เราสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า มารดาของพระเยซูเจ้าผู้เป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ พระนางมารีย์ได้เป็นแบบอย่างแก่เราด้านความเชื่อ ความวางใจ และการรำพึงภาวนา ด้วยการน้อมรับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้าในการเป็นพระชนนีพระเจ้า ทำให้โลกมีองค์พระผู้ช่วยให้รอด พระเจ้าและมนุษย์ที่ประทับท่ามกลางเราจนวาระสุดท้าย
1.        พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า
วันนี้เป็นวันฉลองพิเศษยืนยันสิ่งซึ่งเราคาทอลิกเชื่อเสมอมา นั่นคือ พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความเชื่อทุกอย่างเกี่ยวกับพระนาง เป็นความจริงยิ่งใหญ่ที่พระศาสนจักรให้เราเฉลิมฉลองในวันแรกของปี และได้รับการประกาศอย่างชัดเจนจากสังคายนาเมืองเอเฟซัส ปี 431 ว่า พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า (Theotokos) ซึ่งบรรดาคริสตชนต่างเลื่อมใสและเรียกพระนางเช่นนี้เสมอมา
ข้อความเชื่อนี้มีที่มาจากพระคัมภีร์พระวรสารโดยนักบุญลูกา หลังจากทูตสวรรค์คาเบรียลได้แจ้งข่าวให้พระนางมารีย์ทราบว่าจะเป็นมารดาพระผู้ไถ่ ด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า พระนางได้เสด็จไปเยี่ยมนางเอลีซาเบธเพื่อให้ความช่วยเหลือ ทันทีที่ไปถึงนางเอลีซาเบธได้กล่าวกับพระนางว่า ทำไมหนอพระมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจึงเสด็จมาเยี่ยมข้าพเจ้า”  (ลก 1:43) นางเอลีซาเบธเปี่ยมไปด้วยพระจิตเจ้าและได้ประกาศว่า “พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า”
ต่อมาสังคายนาแห่งเอเฟซัสได้ยืนยันความเป็นหนึ่งเดียวของพระเยซูเจ้า พระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ และพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า เพื่อต่อต้านคำสอนผิดของเนสโตริอุส (Nestorius) ในฐานะพระชนนีพระเจ้า พระนางมารีย์มีบทบาทสำคัญในชีวิตของพระศาสนจักรยุคแรกเริ่ม โดยอยู่ในกลุ่มคริสตชนแรกที่รวมตัวกัน (กจ 1:14) ร่วมส่วนในการอธิษฐานภาวนา ฟังคำเทศน์สอนของบรรดาอัครสาวก และร่วมพิธีบิปัง (กจ 2:42) ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง
2.        บทเรียนสำหรับเรา
การสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้าและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องตระหนักในชีวิตและขอบคุณพระเจ้าทุกวัน ในวันแรกของปี ให้เราได้โมทนาคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตของเราที่อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงปีใหม่ บางคนกำลังเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า แต่ไม่มีโอกาสได้อยู่ถึงปีใหม่เพราะเสียชีวิตก่อนจากการทะเลาะเบาะแว้ง ตีรันฟันแทงจนถึงแก่ชีวิต บางคนกำลังเดินทางมาฉลองปีใหม่ แต่มาไม่ถึงเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างทาง ชีวิตที่เหลืออยู่ของเราเป็นพระพรซึ่งต้องขอบคุณพระเจ้าทุกวัน
ประการที่สอง เราต้องตอบรับแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า พระศาสนจักรให้เราได้เริ่มต้นเช้าวันปีใหม่ด้วยการถวายเกียรติแด่พระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า และ “มารดาของเรา” ที่ปรารถนาช่วยเหลือเราเยี่ยงมารดาที่ไม่มีวันทอดทิ้งลูก ให้เราได้เลียนแบบอย่างของพระนางในการทำทุกอย่างตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38)
ประการที่สาม เราต้องวางใจพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม พระนางมารีย์มอบทุกอย่างไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า เป็นต้นแบบแห่งชีวิตใหม่ในพระเจ้าที่เราทุกคนต้องการในปีใหม่นี้ พระนางได้เก็บเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นไว้ในใจ (ลก 2:19, 51) มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพระเจ้า ให้เราได้ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระนาง ในการฟังเสียงของพระเจ้าและปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ทำให้ปีใหม่เป็นชีวิตใหม่แห่งการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
บทสรุป
พี่น้องที่รัก วันเริ่มต้นปีใหม่ เราต้องสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้าสำหรับเวลาแห่งชีวิต ซึ่งเป็นของขวัญล้ำค่าที่ประทานแก่เรา เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพระนางมารีย์วอนขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับตัวเรา ครอบครัว และหมู่คณะของเรา เพื่อเรียนรู้จักพระเยซูเจ้า รัก และรับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ตามบทบาทและฐานะของเรา อย่างที่พระนางมารีย์ที่ได้กระทำตลอดชีวิต มองไปข้างหน้าอย่างมีเป้าหมายและทำหน้าที่ของเราในแต่ละวันให้ดีที่สุด
ขอพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้าที่เราสมโภชวันนี้ และพระเยซูเจ้า พระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ บุตรสุดที่รักของพระนาง ได้ประทานพรแก่เราในวันปีใหม่นี้และตลอดไป ให้เต็มเปี่ยมไปด้วยพระพร ความรัก และสันติสุขของพระองค์ เป็นต้น พระพรแห่งการรู้จัก “รัก” และรู้จัก “ให้” ที่ทำให้เราพบความสุขแท้ พระพรแห่งการรู้จัก “พอ” และรู้จัก “รอ” ที่ทำให้เราพบความพอเพียงและพอดีในชีวิต
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 127-130.
ภาพ : เด็กคำสอนวัดดอนม่วย-โนนค้อ, สกลนคร; 2019-12-21

วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2562

วันสุดท้ายของปี


วันสุดท้ายของปี
31 ธันวาคม
อัฐมวารพระคริสตสมภพ
1 ยน 2:18-21
ยน 1:1-18
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีปฏิทิน และคืนนี้หลายคนคงชวนกันไปนับถอยหลังต้อนรับปีใหม่ ด้วยการเลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน บ้างจุดพลุไฟ ประทัด ยิงปืน เปิดประตูบ้าน หรือติดเครื่องรถยนต์เพราะเชื่อว่านำมาซึ่งความโชคดี ในขณะที่ปฏิทินของพระศาสนจักรจบด้วยการเริ่มต้นพระวรสารของนักบุญยอห์น พระศาสนจักรเชิญชวนเราให้มองดูพระกุมารเยซู พระวจนาตถ์ ผู้เป็นแสงสว่างขับไล่ความมืด นำความยินดีและความหวังมาสู่เรา
วันสุดท้ายของปี เราต้องขอบคุณพระเจ้าในความเมตตาและพระทัยกว้างของพระองค์ ผู้ประทานเวลาและชีวิตแก่เรา บ่อยครั้งเราดำเนินชีวิตในทางตรงข้ามกับพระประสงค์ของพระองค์ เราเป็นเหมือน “แกะพลัดฝูง” แต่พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งเรา ยังทรงตามหาเรา ประทานพระหรรษทานเพื่อนำเรากลับมาหาพระองค์และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง การเริ่มต้นใหม่เป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและความหวัง เราต้องพร้อมเริ่มต้นใหม่กับพระองค์ทุกวัน
พระวรสารวันนี้ นักบุญยอห์นได้ทำเสนอพระเยซูเจ้าว่าทรงเป็นพระวจนาตถ์ เมื่อแรกเริ่มนั้น พระวจนาตถ์ทรงดำรงอยู่แล้ว พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้า และพระวจนาตถ์เป็นพระเจ้า” (ยน 1:1) ยอห์นชี้ให้เห็นว่า พระเยซูเจ้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลก แต่ทรงเป็นอยู่กับพระเจ้าตั้งแต่นิรันดรก่อนการสร้างสรรพสิ่งและก่อนกาลเวลา ทรงเป็นศูนย์รวมของสรรพสิ่ง “ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้างโดยทางพระวจนาตถ์” (ยน 1:3)
พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างที่เผยให้ทราบว่า เราเป็นใคร ทรงรับธรรมชาติมนุษย์และประทับท่ามกลางเรา หลายคนลืมนึกถึงสิ่งนี้ “แต่ประชากรของพระองค์ไม่ยอมรับพระองค์” (ยน 1:11) มีบางคนยอมรับและเชื่อในพระองค์ ทรงทำให้คนเหล่านี้กลายเป็น “บุตรของพระเจ้า” (ยน 1:13) พระองค์ทรงกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา เพื่อช่วยเราให้เป็นเหมือนพระองค์สักวันหนึ่ง ทรงประสงค์ให้เราได้แบ่งปันสภาวะพระเจ้าและเป็นเหมือนพระองค์
คริสตชนต้องตระหนักว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระวจนาตถ์ และแสงสว่างแห่งชีวิตของเรา ดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงแสงสว่างเช่นเดียวกับยอห์นบัปติสต์ ศิษย์พระคริสต์ต้องให้พระเยซูเจ้าเป็นแสงสว่างแห่งชีวิตของตน ด้วยการแก้ไขความบาดหมาง แบ่งปันความยินดีที่มีกับผู้อื่น ฟังและเข้าใจผู้อื่นด้วยจริงใจ แสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และให้เวลาในการอธิษฐานภาวนาทุกวันเพื่อสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 113-114.
ภาพของขวัญคริสต์มาส-ปีใหม่, เด็กคำสอนวัดดอนม่วย-โนนค้อ, สกลนคร; 2019-12-28

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ประกาศกหญิงอันนา


ประกาศกหญิงอันนา
30 ธันวาคม
อัฐมวารพระคริสตสมภพ
1 ยน 2:12-17
ลก 2:36-42
ประกาศกหญิงอันนาอายุ 84 ปี เคยแต่งงานตอนเป็นสาว แต่ใช้ชีวิตอยู่กับสามีเพียง 7 ปี สามีได้เสียชีวิตทำให้กลายเป็นม่าย นางอันนาพบความสุขในการรับใช้พระเจ้าในพระวิหารทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่เคยออกจากพระวิหารเลย ใช้เวลาแต่ละวันในการจำศีลอดอาหารและอธิษฐานภาวนา นางอันนาเป็นเหมือนกับผู้เฒ่าสิเมโอนที่เติบโตในหนทางสู่ความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้าให้พบพระผู้ไถ่
นางอันนามุ่งดำเนินชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าและทำให้พระองค์เป็นที่รู้จัก โดยไม่หวังรางวัลตอบแทน เราแต่ละคนได้รับการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์ สู่ชีวิตแห่งการอธิษฐานภาวนาและชีวิตแห่งการอุทิศตนเพื่อพระเจ้าด้วยความรัก เราได้ไปวัดและใช้เวลาอธิษฐานภาวนาบ่อยแค่ไหน เราได้ปฏิบัติกิจเมตตาต่อพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือบ้างหรือเปล่า
นางอันนาแม้อายุมาก แต่ยังคงรับใช้พระเจ้าในการอดอาหารและอธิษฐานภาวนา อีกทั้ง พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์และทรงหาเวลาในการอธิษฐานภาวนาติดต่อกับพระเจ้าอยู่เสมอ “จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะได้ไม่เข้าสู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง” (มธ 26:41) ทรงบอกเราชัดเจนว่า การอธิษฐานภาวนาสามารถเอาชนะปิศาจได้ “ปิศาจชนิดนี้ขับไล่ออกไม่ได้เลย นอกจากด้วยการอธิษฐานภาวนาเท่านั้น” (มก 9:29)
คริสตชนต้องปฏิบัติกิจเมตตาต่อผู้เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นพระเยซูเจ้าผู้ประทับท่ามกลางเราและทำให้เราเติบโตยิ่งขึ้นในชีวิตฝ่ายจิต ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการจำศีลอดอาหาร การอธิษฐานภาวนา  และการแสวงหาพระเยซูเจ้าอย่างนางอันนาและสิเมโอน เพื่อพบและมีประสบการณ์กับพระองค์
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 111-112.
ที่มาภาพ : https://mylordkatie.wordpress.com/2018/06/19/anna-new-testament-prophet/#jp-carousel-3242

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562

สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ, ปีที่ 2 ฉบับที่ 85


สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ

ปีที่ 2 ฉบับที่ 85, อาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2019 (2562): http.//dondaniele.blogspot.com

107 หมู่ 6 บ้านดอนม่วย ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 47130È086-231-3231

ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
พิธีแห่ดาวคริสต์มาสวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย; 24 ธันวาคม 2019
พี่น้องที่รัก สัปดาห์สุดท้ายของปีพระศาสนจักรให้เราฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ที่ประกอบด้วยพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ ให้เราได้ถวายครอบครัวของเราและสมาชิกทุกคนในครอบครัวในพิธีบูชาขอบพระคุณ เพื่อขอพระพรจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ วันฉลองนี้เตือนใจเราถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพระศาสนจักรสากลและการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์
พระคัมภีร์บอกให้เราทราบน้อยมากเกี่ยวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า มีพูดถึงเพียงระยะเริ่มแรกของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่เรื่องราวการบังเกิดของพระเยซูเจ้าที่เบธเลเฮม การหนีไปประเทศอียิปต์ การหายไปของพระเยซูเจ้าขณะไปนมัสการที่พระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม บทอ่านวันนี้พูดถึงครอบครัวในฐานะที่เป็นของประทานจากพระเจ้า
 ร้องเพลงอวยพรคริสต์มาส ศูนย์ภาษา อ.พรรณานิคม 22 ธันวาคม 2019
บทอ่านที่ 1: เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้พระผู้ไถ่โลกบังเกิดและเติบโตในครอบครัว หนังสือบุสิราได้ให้ภาพครอบครัวชาวยิวในพันธสัญญาเดิม บุตรต้องรักและให้ความเคารพนับถือบิดามารดา ซึ่งเตือนเราถึงความสำคัญและประโยชน์สูงสุดของการถือปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้าประการที่สี่
บทอ่านที่ 2: นักบุญเปาโลได้ให้ภาพครอบครัวคริสตชน ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกสรรให้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่รักของพระเจ้า สมาชิกในครอบครัวต้องเจริญชีวิตดังคนที่รักพระเจ้า ซึ่งได้รับการเรียกให้แสดงความเห็นใจ ความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความอดทนต่อกัน รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาและยกโทษกัน เหมือนพระเจ้าทรงให้อภัยความผิดของตน
พระวรสาร: นักบุญลูกาได้เล่าเรื่องการหนีไปประเทศอียิปต์ของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วยพระกุมารเยซู พระนางมารีย์ และนักบุญยอแซฟ เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกษัตริย์เฮโรดสังหาร และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งเฮโรดสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้นพระเยซูเจ้าทรงเสด็จกลับไปยังนาซาเร็ธพร้อมกับพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ ทรงเคารพเชื่อฟังท่านทั้งสอง
 ร้องเพลงอวยพรคริสต์มาสห้างโฮมโปร สกลนคร 22 ธันวาคม 2019
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1.          ขอบคุณพี่น้องที่ช่วยกันเตรียมฉลองคริสต์มาส ทำดาว แห่ดาว ประดับตกแต่งวัดและบ้านเรือนของตน และขอบคุณพี่น้อง ที่สนับสนุนปัจจัยและของขวัญคริสต์มาสสำหรับเด็กวัดดอนม่วย-โนนค้อ
2.          อังคารที่ 31 ธันวาคม 2019 พิธีบูชาขอบพระคุณโมทนาคุณพระเจ้าส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่: วัดโนนค้อ เวลา 7.00 น. และวัดดอนม่วย เวลา 19.30 น.
3.          พุธที่ 1 มกราคม 2020 พิธีบูชาขอบพระคุณสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเป็นเจ้า และฉลองปีใหม่: วัดโนนค้อ เวลา 7.00 น. และวัดดอนม่วย เวลา 8.30 น.
4.          พฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2020 ฉลองวัดพระนามเยซู โพนสวาง พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
5.          เสาร์ที่ 11 มกราคม 2020 ฉลองวัดพระนามเยซู นาคำ พิธีบูชาขอบพระคุณ เวลา 10.00 น.
6.          อาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2020 เวลา 8.30 น. เทศน์เอกวารฉลองวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย โดยคุณพ่อขวัญชัย เกษแก้ว คณะภารดาน้อย กาปูชิน (ฉลองวัด เสาร์ที่ 18 มกราคม 2020)
7.          เงินทาน อาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2019: วัดดอนม่วย 2,380.- บาท,; วัดโนนค้อ 1,335.- บาท และทำบุญทัวร์คุณนฤมลเพื่อโครงการสร้างวัด 9,280.- บาท ยอดคงเหลือในบัญชี  478,796.32 บาท, เงินทาน 24 ธันวาคม: ดอนม่วย 1,726.- บาท, โนนค้อ 2,019.- บาท และ 25 ธันวาคม: ดอนม่วย 4,236.- บาท, โนนค้อ 1,000.- บาท
8.          ขอบคุณ กลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 1-2 ที่มาทำความสะอาดวัด สัปดาห์หน้ากลุ่มที่ 3-4 (โนนค้อ: กลุ่มที่ 1)
 ร้องเพลงอวยพรคริสต์มาสคุณยายแก้ว คำผาเยือง ท่าแร่
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
                                   ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
29
07.00 น.
08.30 น.
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
สุขสำราญพี่น้องชาวโนนค้อ
สุขสำราญพี่น้องชาวดอนม่วย
จันทร์
30
06.00 น.
อฐมวารพระคริสตสมภพ

อังคาร
31
19.00 น.
ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

พุธ
1
07.00 น.
สมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเป็นเจ้า

พฤหัสบดี
2
06.00 น.
ระลึกถึง น.บาซิลและ น.เกรโกรี แห่งเมืองนาซีอันเซน

ศุกร์-เสาร์
3-4
06.00 น.
เทศกาลพระคริสตสมภพ

 บรรยากาการแห่ดาวและฉลองคริสต์มาสที่ดอนม่วย 24 ธันวาคม 2019





















ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ แบบอย่างครอบครัวคริสตชน


ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ แบบอย่างครอบครัวคริสตชน
อาทิตย์
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
ปี A
บสร 3:3-7, 14-17
คส 3:12-21
มธ 2:13-15, 19-23
บทนำ
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเล่าเรื่องครอบครัวหนึ่ง มีคุณปู่อาศัยอยู่ด้วย เวลารับประทานอาหารชอบทำอาหารหล่นและเปรอะเปื้อน บุตรชายกับบุตรสะใภ้รู้สึกรังเกียจและรำคาญ บุตรชายจัดโต๊ะให้พ่อได้กินคนเดียวเพื่อไม่รบกวนคนอื่น วันหนึ่งบุตรชายกลับบ้านพบลูกชาย (หลานปู่) กำลังตอกไม้กระดาน จึงถามว่า ลูกกำลังทำอะไร ลูกชายตอบว่า ผมกำลังทำโต๊ะสำหรับพ่อนั่งกินอาหาร เมื่อพ่ออายุมากเหมือนปู่ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา บุตรชายได้จัดให้ปู่รับประทานอาหารร่วมโต๊ะและคอยช่วยเหลือเวลารับประทานอาหารอย่างมีความสุข
สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า ปู่ย่าตายายเป็นสมบัติอันล้ำค่า แม้ว่าผู้อาวุโสเหล่านี้จะไม่หล่อไม่สวย มีแต่โรคภัยไข้เจ็บ แต่ปรีชาญาณของปู่ย่าตายายเป็นมรดกที่เราต้องรักษาไว้ สังคมใดไม่เห็นคุณค่า ไม่ให้ความเคารพ และไม่ดูแลเอาใจใส่ผู้อาวุโสเหล่านี้ เป็นสังคมไร้รากและไม่มีอนาคตเพราะขาดความทรงจำที่ดี ครอบครัวเป็นหน่วยแรกและสำคัญที่สุด เพราะเป็นการแผนการของพระเจ้าตั้งแต่แรกสร้างโลก ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นครอบครัว และทรงประทานพระบุตรให้เกิดมาเป็นมนุษย์ในครอบครัว
สัปดาห์สุดท้ายของปี พระศาสนจักรให้เราฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วยพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ และนักบุญยอแซฟ ให้เราได้มอบถวายครอบครัวของเราและสมาชิกทุกคนในครอบครัว บนพระแท่นบูชาเพื่อขอพระพรจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ วันฉลองนี้เตือนใจเราถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพระศาสนจักรสากล แต่ละครอบครัวได้รับการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
1.    ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ แบบอย่างครอบครัวคริสตชน
การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นการระลึกถึงชีวิตครอบครัวของพระเยซูเจ้าซึ่งดำเนินชีวิตในความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และเคารพซึ่งกันและกัน เป็นแบบอย่างในการแบ่งปันความยินดี ความรับผิดชอบ  และการร่วมทุกข์ร่วมสุขในครอบครัว และพระศาสนจักรยกย่องให้เป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นแบบอย่างของครอบครัวทั้งหลาย นอกนั้น การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ยังเรียกเราให้มุ่งความสนใจไปที่ครอบครัวคริสตชนทุกครอบครัว และวอนขอพระพรจากพระเจ้าสำหรับครอบครัวของตน
พระวรสารไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มากนัก แต่เราเข้าใจว่า นักบุญยอแซฟเป็นคนยำเกรงพระเจ้า ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข เป็นบุคคลซึ่งมีหัวใจเปิดสู่พระเจ้า เชื่อฟัง และพร้อมเผชิญความยากลำบากทุกอย่าง เพื่อปกป้องพระกุมารและพระนางมารีย์ให้ได้รับความปลอดภัย ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น ผู้ชอบธรรม มีความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัว ขณะที่พระนางมารีย์รับผิดชอบดูแลครอบครัว และมีส่วนในความยากลำบากต่าง ๆ ในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเงียบ ๆ
พระวรสารนักบุญมัทธิวได้แสดงภาพความเป็นหนึ่งเดียวของครอบครัวนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวลึกซึ้งของพระตรีเอกภาพ อันเป็นความสัมพันธ์แห่งความรักสมบูรณ์ ซึ่งแสดงออกให้เห็นในชีวิตของพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ และนักบุญยอแซฟ นั่นคือ พระเยซูเจ้า องค์สันติราชาได้ทรงส่องสว่าง และทำให้ชีวิตของท่านทั้งสองมีชีวิตชีวา เป็นครอบครัวที่มีสันติสุข ความกลมเกลียว และร่าเริงยินดี
2.    บทเรียนสำหรับเรา
การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์และพระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ประการแรก เราต้องเลียนแบบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการมองดูแบบอย่าง การส่งเสริมและให้กำลังใจกันของครอบครัวนี้ ซึ่งพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟต่างทำงานหนัก ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เข้าใจ และยอมรับซึ่งกันและกัน อีกทั้ง ช่วยกันดูแลพระเยซูเจ้าให้เติบโตขึ้นในความเป็นมนุษย์และการเป็นบุตรของพระเจ้า บิดามารดาต้องเป็นครูคนแรกที่สอนลูกให้รู้จักพระเจ้า ประการสำคัญ ต้องมีความรับผิดชอบในการเป็นตัวอย่างดีแก่บุตรของตน
ประการที่สอง เราต้องทำให้ครอบครัวของเราศักดิ์สิทธิ์ ทุกครอบครัวได้รับการเรียกสู่ความศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลศีลสมรส เพื่ออวยพรคู่บ่าวสาวและครอบครัวให้ศักดิ์สิทธิ์ สามีภรรยาบรรลุความศักดิ์สิทธิ์เมื่อต่างทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์ วางใจในพระเจ้า และทำให้พลังของพระจิตเจ้าปรากฏในชีวิต ผ่านทางการรำพึงภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ และการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ครอบครัวจะศักดิ์สิทธิ์เมื่อมีพระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลาง
ประการที่สาม เราต้องเคารพเชื่อฟังและเลี้ยงดูบิดามารดา พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปยังนาซาเร็ธพร้อมกับพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟ และเคารพเชื่อฟังท่านทั้งสอง ทรงทำงานช่างไม้ สานต่อกิจการของนักบุญยอแซฟเพื่อเลี้ยงครอบครัว คนเป็นบุตรต้องเคารพเชื่อฟังและให้เกียรติบิดามารดา หนังสือบุตรสิราบอกเราว่า บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน... บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า (บสร 3:6, 16) เรามีหน้าที่ต่อบิดามารดา ดูแล และเลี้ยงดูท่านยามชรา มิใช่ปล่อยให้อยู่ตามลำพังและตายอย่างโดดเดียว
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ควรเป็นโอกาสให้เราได้พิจารณาไตร่ตรองถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของเรา การอยู่ร่วมกันระหว่างบิดา มารดา บุตร เป็นไปตามรูปแบบของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มากน้อยเพียงใด เราต้องมีความรักต่อกันตามแบบอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์  โดยเฉพาะคนที่เป็นสามีภรรยาต้องรักและซื่อสัตย์ต่อกันจนวันตาย ตามคำสัญญาที่เราได้ให้ไว้ในวันรับศีลสมรส
บิดามารดาต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รับผิดชอบต่อครอบครัวและทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์เพื่อบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ ของขวัญยิ่งใหญ่ที่สุดที่บิดามารดาให้แก่บุตรได้คือความรักที่พวกเขามีต่อกัน (Anon) คนที่เป็นบุตรเช่นเดียวกัน ต้องเคารพเชื่อฟังบิดามารดา ไม่ทำให้ท่านเสียใจ กตัญญู และดูแลท่านยามแก่เฒ่า ทั้งนี้เพื่อความผาสุกของสังคม ประเทศชาติ และพระศาสนจักร ดังคำกล่าวที่ว่า ครอบครัวดี คนดี สังคมดี
ขอพระเจ้าประทานพระพรอันอุดมแก่ทุกครอบครัวโอกาสปีใหม่นี้ และตลอดไป
ขวัญ ถิ่นวัลย์, ของขวัญสุดประเสริฐ ความชื่นชมยินดีแห่งการบังเกิด, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 107-108.
ภาพ : ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า, ถ้ำพระกุมารวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร; 2019-12-28