วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ไขข้อข้องใจผู้ปกครอง



ไขข้อข้องใจผู้ปกครอง
ในวันประชุมผู้ปกครอง โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
คำถาม
1.            ผู้ปกครองอยากให้ลูกเรียน IEP (Intensive English Program) แต่ลูกไม่ยอมเรียน อยากให้ครูหาวิธีชักจูงให้เด็กๆ อยากเรียน
คำตอบ  ควรเปิดโอกาสให้บุตรหลานของท่านได้ทดลองเรียนร่วมกับเพื่อนที่เรียนห้อง IEP (Intensive English Program) ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อน เพื่อให้เด็กได้มีประสบการณ์ตรง ปรับตัวและเกิดความคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกสนาน น่าสนใจ และไม่ได้ยากอย่างที่คิด

2.            ในระดับเตรียมอนุบาลอยากทราบว่ามีการพัฒนาการอย่างไรบ้าง ให้กับเด็กในช่วงวัยนี้คะ
คำตอบ  ในการจัดประสบการณ์สำหรับเตรียมอนุบาล ทางโรงเรียนจะฝึกให้เด็กเรียนรู้การปรับตัวเข้ากับเพื่อน สิ่งแวดล้อมและสังคมรอบตัว  บอกความต้องการของตนเองในเบื้องต้น บุรณาการกิจกรรมต่างๆ ในรูปของเพลง  การเคลื่อนไหว ฯลฯ ผ่านทางครูผู้สอนและดนตรี

3.            อยากให้ทางโรงเรียนมีกิจกรรมสอนว่ายน้ำ เพราะคิดว่าการสอนว่ายน้ำเป็นประโยชน์กับตัวเด็กให้รู้จักช่วยเหลือตนเอง
คำตอบ            ทางโรงเรียนตระหนักถึงประโยชน์ของการว่ายน้ำเป็น และมีแผนจะสร้างสระว่ายน้ำในโรงเรียนอย่างแน่นอน เมื่อโรงเรียนมีความพร้อมในอนาคตอันใกล้ อีกทั้งจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเมื่อเริ่มโครงการนี้

4.            ขอทราบการบริหารจัดการเกี่ยวกับเรื่อง Tablet  ที่แจกแล้วเก็บคืนหรือดำเนินการอย่างไรต่อ
คำตอบ              นี่เป็นนโยบายของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่ต้องการให้นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 มี Tablet ใช้ในการเรียนการสอน ทางโรงเรียนได้ปฏิบัติตามนโนบายและระเบียบของกระทรวง โดยได้แจก Tablet ที่ได้รับจากรัฐบาลแก่นักเรียนในปีแรก (ปีการศึกษา 2555) ในกรณีที่นักเรียนทำ Tablet สูญหายหรือเสียจะต้องชำระเงินให้ทางโรงเรียนเครื่องละ 3,000 บาท (เพราะเป็นทรัพย์สินของทางราชการ) ปัจจุบัน โรงเรียนยังคงเก็บรักษา Tablet ทั้งหมดไว้ที่โรงเรียน และโรงเรียนจะปฏิบัติตามระเบียบของเขตพื้นที่การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

5.            เมื่อเน้น 3 วิชาหลักเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ด้านวิชาการยังเข้มข้นหรือเปล่า
คำตอบ  แนวทางการจัดการเรียนการสอนในสามรายวิชาหลัก คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ  เป็นการเพิ่มความเข้มข้นทางด้านวิชาการให้กับผู้เรียน เพราะเนื้อหาของบทเรียนในสามรายวิชาจะคู่ขนานกับบทเรียนที่นักเรียนกำลังเรียนอยู่ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เรียนเรื่องส่วนประกอบของต้นไม้ซึ่งสอนเป็นภาษาไทย   เมื่อถึงวิชา Science   ครูผู้สอนจะทบทวนเรื่องเดิมเป็นภาษาอังกฤษ แม้นักเรียนจะไม่คุ้นเคยกับคำศัพท์แปลกๆ แต่ครูผู้สอนได้เตรียมสื่อมัลติมีเดียต่างๆ มาช่วยในการเรียนการสอน ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาบทเรียนมากขึ้น อีกอย่าง หากผู้ปกครองให้บุตรหลานของท่านเรียน Intensive English Program (IEP) แต่เนิ่นๆ    จะส่งผลให้บุตรหลานของท่านเกิดการพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษ และพร้อมสำหรับการเข้าสู่กลุ่มประเทศอาเซียน (AEC)
ข้อเสนอแนะ
1.            ขอความร่วมมือจากทางโรงเรียนหากนักเรียนไม่ส่งการบ้านขอให้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบด้วย
2.            ลูกติดเกมส์ (Tablet ) อยากให้ครูช่วยกำชับหรือขู่ก็ได้คะ เพราะเด็กจะเชื่อฟังครูมากกว่าผู้ปกครอง เด็กขาดสมาธิในการอ่านหนังสือในขณะที่ผู้ปกครองสอนเสริม
3.            นักเรียนที่เรียนค่อนข้างช้า หากนักเรียนทำการบ้านไม่เสร็จทันเวลา ขอความกรุณาให้คุณครูแต่ละวิชา เขียนกำกับในสมุดจดการบ้านว่าให้นักเรียนทำอะไรเพิ่มเติมอีก ผู้ปกครองจะได้ช่วยลูกอีกทางหนึ่ง
4.            หากนักเรียนมีปัญหา ไม่สนใจเรียน ไม่ทำงานส่ง ด้อยหรือเด่นในด้านใด ขอความกรุณาคุณครูแจ้งให้ผู้ปกครองทราบก็จะเป็นการดี เพราะผู้ปกครองจะได้ช่วยเสริมเติมเต็มให้กับนักเรียน
5.            อยากให้ครู Debby มาสอนจังเลย
6.            เด็กไม่กล้าแสดงออก อยากให้กระตุ้นด้านนี้
7.            อยากให้คุณครูนำเสนอ Intensive English Program (IEP)   กับเด็กๆ ในชั้นเรียน
8.            กิจกรรมมากเกินไปอยากให้อ่านเขียนมากกว่านี้ ความปลอดภัยดีกว่านี้ อย่างอื่นดีแล้ว ขอบคุณล่วงหน้าคะ
9.            อยากเสนอให้โรงเรียนกวดขันเรื่องวิชาการและควบคู่ไปกับคุณธรรม จริยธรรมและมารยาททางสังคมของนักเรียนทุกห้อง  ฝึกให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าคิด กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อมอบการบ้านให้นักเรียนแล้วครูควรตรวจทุกครั้งและตรวจให้ถูกต้อง
คำตอบ            โรงเรียนน้อมรับข้อเสนอแนะทั้งหมด และจะปรับปรุงแก้ไขโดยทันที เพื่อจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามความมุ่งหวังของผู้ปกครองครับ
คำชมเชย
1.         การจัดกิจกรรมตอนเช้าดีมากคะ สอนเสริมหลังเลิกเรียนดีมากคะ ต้องขอขอบคุณทางโรงเรียนที่จัดกิจกรรมส่วนนี้ขึ้นเพราะผู้ปกครอง (พ่อแม่) ไม่มีเวลาดูแลในเรื่องการทำการบ้านเพราะงานเยอะ ส่วนใหญ่เด็กอยู่กับคุณปู่ คุณย่า และขณะนี้คุณปู่ คุณย่า ตาเริ่มมัว มองเห็นไม่ชัด สอนการบ้านไม่ค่อยได้
2.            ขอบคุณทางโรงเรียนที่จัดหลักสูตร IEP สำหรับนักเรียนในปีนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษคะ
คำตอบ            ขอบคุณสำหรับคำชมเชย สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจที่ดียิ่งสำหรับคนทำงาน และทำให้การเรียนการสอนดียิ่งๆ ขึ้น
หมายเหตุ         ขออภัยที่ตอบช้า เนื่องจากอินเตอร์เน็ตที่โรงเรียนใช้การไม่ได้ เป็นความผิดพลาดทางเทคนิคที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2557 จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
18 พฤษภาคม 2557

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คำกล่าววันประชุมผู้ปกครอง



คำกล่าวโอกาสประชุมผู้ปกครอง
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์ วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2557
เรียน   ท่านผู้ปกครองที่เคารพทุกท่าน
ก่อนอื่น ขอกราบขอบพระคุณผู้ปกครองทุกท่าน ที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับโรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์ โดยการส่งบุตรหลานมารับการศึกษาอบรมที่โรงเรียนแห่งนี้ เพื่อวางรากฐานทางการศึกษาที่มั่นคงให้กับพวกเขา อีกทั้งได้เสียสละเวลาอันมีค่าของท่านมาร่วมการประชุมในวันนี้ด้วย
อย่างที่ท่านผู้ปกครองทราบดีว่าโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนคาทอลิก ในเครืออัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ภายใต้การนำของมุขนายกหลุยส์ จำเนียร สันติสุขนิรันดร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้นำสูงสุดของคริสตศาสนาในประเทศไทยแล้ว พระคุณเจ้ายังเป็นประธานสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ที่ดูแลโรงเรียนคาทอลิกกว่า 350 โรงทั่วประเทศ
ดังนั้น จึงขอให้ความมั่นใจกับผู้ปกครองทุกท่านว่า คณะผู้บริหารและคณะครูทุกคน มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ภายใต้สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ตามหลักปรัชญาที่ว่า “คุณธรรม นำความรู้” ที่มุ่งพัฒนาคนทั้งครบ ให้เป็นผู้มีความรู้ มีทักษะชีวิตทุกด้าน มีคุณธรรมจริยธรรม มีความประพฤติดีเรียบร้อย และสามารถดำรงตนในสังคมอย่างมีความสุข สมดังคติพจน์ของโรงเรียนที่ว่า “ความรู้ดี มีคุณธรรม นำความสุข”
ในปีการศึกษานี้ทางโรงเรียนได้มีการปรับปรุงและพัฒนาหลายอย่าง เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้
1.                 ด้านบุคลากร เรามีบุคลากรใหม่ที่มีคุณภาพและมากประสบการณ์มาร่วมงาน
1)                 ซิสเตอร์ซูซาน ศิรารัตน์ แสนพลอ่อน ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกโรงเรียนเซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ และโรงเรียนของเราในระยะเริ่มแรก ซิสเตอร์ได้กลับมาช่วยงานที่นี่อีกครั้งในฐานะ “รองผู้อำนวยการระดับก่อนประถมศึกษา” ซิสเตอร์จะทำหน้าที่ดูแลแผนกอนุบาลทั้งหมดแบบเต็มเวลา
2)                 ดร.สุดาพร พงษ์พิษณุ การศึกษาดุษฎีบัณฑิต (กศ.ด.) สาขาหลักสูตรและการสอน จากมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเคยบริหารงานโรงเรียนในเครือสารสาสน์ โรงเรียนแม่พระฟาติมา ดินแดงและ โรงเรียนมารีย์แก้งค้อ จะมาเป็น “รองผู้อำนวยการ” ทำหน้าที่ดูแลงานด้านวิชาการ การจัดการเรียนการสอนทั้งหมด
3)                 MR. REAGAN L. REPUNTE, Master of Arts in Education, Southwestern University and MRS. MARILOU V. TEROL, Master of Arts in Education (Major in English) Southwestern University, Cebu City, Philippines ทั้งสองมีประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมัธยมบ้านนาคูพัฒนา อำเภอนาคู เป็นเวลา 6 ปี ฟังภาษาไทยออก รู้ปัญหาของเด็กๆ เป็นอย่างดี
§  Teacher REAGAN จะสอน Sound Lab ระดับ ป.1-6
§  Teacher MARILOU สอนระดับอนุบาล เพื่อวางพื้นฐานความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับบุตรหลานของท่าน
4)                 MRS. FERLYN F. LABASTIDA, Bachelor in Elementary Education ซึ่งมีประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเซนต์ปอลหนองคาย ในเครือเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร์ เป็นเวลา 5 ปี จะสอนภาษาอังกฤษเสริม (English for Communication) ระดับ ป.1-6 เพื่อเพิ่มพูนทักษะความรู้ภาษาอังกฤษแก่บุตรหลานของท่านให้สามารถใช้งานได้
2.                  เรื่องการเรียนการสอน ในปีการศึกษานี้โรงเรียนได้นำหลักสูตรภาษาอังกฤษสำเร็จรูป หรือที่เรียกว่า Intensive English Program (IEP) ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษใน 3 วิชา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เดี๋ยวทางสถาบันผลิตปัญญา (MAKE A WIT) ที่รับผิดชอบหลักสูตรนี้จะพูดในรายละเอียดให้ท่านผู้ปกครองทราบอีกที ในส่วนของโรงเรียนได้มีการปรับห้องเรียนและจัดซื้อโทรทัศน์ขนาด 50 นิ้วสำหรับห้อง IEP ทุกห้อง
3.                  ด้านอาคารสถานที่ โรงเรียนกำลังก่อสร้างอาคารเรียนอนุบาลซึ่งก้าวหน้าเป็นลำดับ เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีการศึกษา 2558 ก็จะย้ายแผนกอนุบาลมารวมกันทั้งหมด ซึ่งสถานที่กว้างขวางและพร้อมมากกว่า
§  ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณท่านผู้ปกครองที่มีส่วนสนับสนุนโครงการนี้ด้วยการซื้อสลากการกุศล “ยอแซฟผู้ชอบธรรม” เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา
§  และอีกโครงการหนึ่งคือ โครงการพัฒนาห้องสมุดเพิ่มพูนปัญญา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้วยสื่อสมัยใหม่สำหรับบุตรหลานของท่าน ด้วยงบประมาณ 1,480,000.- บาท ซึ่งจะเริ่มในไม่ช้านี้
4.            ด้านการให้บริการ โรงเรียนได้เพิ่มวันทำงานสำหรับงานธุรการในวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 น.ถึง 15.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ปกครองในการมาติดต่อกับทางโรงเรียน นอกเหนือจากเวลาทำการ ซึ่งจะเริ่มในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
5.            การเรียนพิเศษ โรงเรียนจะเปิดเรียนพิเศษวันเสาร์ วิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และวิชาดนตรี (ไวโอลิน กีตาร์และอูกูเลเล่) ระหว่างเวลา 08.00 น.-16.00 น. ดังนั้น ผู้ปกครองที่สนใจสามารถมาติดต่อกับทางโรงเรียน และนำบุตรหลานมาเรียนพิเศษได้ในวันเสาร์ ซึ่งจะเริ่มในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคมนี้เป็นการนำร่อง ก่อนเริ่มเรียนจริงในเดือนมิถุนายน
จึงเรียนชี้แจงให้ผู้ปกครองทุกท่านได้รับทราบ และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่ง เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา เพราะโรงเรียน บ้าน และชุมชน คือหัวใจของความสำเร็จของทุกสถานศึกษา ที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อให้เป้าหมายของโรงเรียนบรรลุผลสำเร็จ
ขอท่านนักบุญยอแซฟ องค์อุปถัมภ์ของโรงเรียน ได้ปกป้องคุ้มครองและอำนวยพรผู้ปกครองและผู้มีอุปการคุณต่อโรงเรียนทุกท่าน ให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และประสบผลสำเร็จในชีวิตตามที่มุ่งหวังทุกประการ ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านครับ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
17 พฤษภาคม 2557

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การทำงานเป็นทีม



การทำงานเป็นทีม


การทำงานเป็นทีม หมายถึงการร่วมกันทำงานของสมาชิกที่มากกว่าหนึ่งคน โดยที่สมาชิกทุกคนจะต้องมีเป้าหมายเดียวกันว่าจะทำอะไร ทุกคนต้องยอมรับร่วมกันและมีการวางแผนร่วมกัน การทำงานเป็นทีมมีความสำคัญต่อทุกองค์กร เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน การทำงานเป็นทีมมีบทบาทสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของงาน ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของกลุ่มสมาชิกเป็นอย่างดี
ลักษณะของการทำงานเป็นทีม 4 ประการ
1)           การมีปฏิสัมพันธ์ของบุคคล หมายถึงสมาชิกตั้งแต่สองคนขึ้นไป มีความเกี่ยวข้องในกิจกรรมของกลุ่ม ทีมให้ความตระหนักในความสำคัญของกันและกัน แสดงออกซึ่งการยอมรับ การให้เกียรติกัน สำหรับกลุ่มขนาดใหญ่มักมีปฏิสัมพันธ์กันเป็นเครือข่ายมากกว่าการติดต่อกันแบบตัวต่อตัว
2)           มีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายร่วมกัน การที่สมาชิกกลุ่มจะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมร่วมกันของทีม โดยเฉพาะจุดประสงค์ของสมาชิกกลุ่มต้องสอดคล้องกับองค์การ จะช่วยให้งานประสบความสำเร็จได้ง่าย
3)           การมีโครงสร้างของทีมหรือกลุ่ม หมายถึงระบบพฤติกรรมที่เป็นระเบียบแบบแผนของกลุ่ม ซึ่งสมาชิกของกลุ่มปฏิบัติตาม
4)           สมาชิกมีบทบาทและมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน รักษาบทบาทหน้าที่มั่นคงในแต่ละทีมหรือกลุ่ม มีการจัดแบ่งมอบหมายหน้าที่ให้ตามความเหมาะสมและความสามารถ
การทำงานเป็นทีม ต้องยึดหลักประชาธิปไตย มีความเสมอภาค เคารพให้เกียรติ ยอมรับฟังความคิดเห็น สร้างความสามัคคีในทีมหรือกลุ่ม จะช่วยให้งานประสบความสำเร็จ และสมาชิกทำงานร่วมกันในบรรยากาศแห่งความรัก มีความสุขในการทำงาน
คุณลักษณะของทีม
ทีมจะประสบความสำเร็จในการทำงาน ทีมที่ทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของงาน ทีมจะต้องยึดสิ่งต่อไปนี้เป็นกรอบในการทำงานร่วมกัน คือ
1)           มีความเป็นหนึ่งเดียว มีความเข้าใจแผนงานหรือโครงการตรงกัน
2)           จัดการด้วยเหตุผล การดำเนินการให้ทุกคนมีส่วนร่วมและมีส่วนรับผิดชอบ
3)           พึ่งพาตัวเอง โดยนำความถนัดและความสามารถที่แต่ละคนมีออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์
4)           ขนาดของกลุ่มพอเหมาะ จำนวนสมาชิกไม่มากเกินไป หากเป็นจำนวนคี่จะง่ายต่อการออกเสียง
การรู้จักเพื่อนร่วมทีม
การรู้จักนิสัยใจคอ ความรู้ความสามารถ จะช่วยให้การทำงานเป็นทีมราบรื่น สมาชิกทุกคนต้องมีความเข้าใจว่า สมาชิกแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ในความรู้ความสามารถ นั่นคือมีบุคลิกภาพแตกต่างกัน ทุกคนต้องใจกว้าง ยึดหยุ่นและให้อภัยความผิดพลาดหรือความบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างลักษณะของสมาชิก
1)           เป็นนักคิด ชอบแสดงความคิดเห็น เป็นเจ้าความคิด ชอบแสดงความคิดเห็นในงานของผู้อื่น
2)           เป็นนักจัดองค์กร เป็นเจ้าระเบียบ ชอบจัดแจงสิ่งต่างๆ อาจไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของทีมงาน
3)           เป็นนักปฏิบัติการ เป็นคนมีความรับผิดชอบ ชอบทำงาน มุ่งสู่ความสำเร็จ มักไม่พอใจกับความล่าช้า ความไม่เป็นระบบระเบียบ
4)           เป็นนักตรวจสอบ ชอบจับตาดูความก้าวหน้า หรือความบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นในการทำงาน บางคนเห็นว่าคอยจับผิด อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในทีมได้
5)           เป็นนักประเมิน อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของสมาชิก เพราะการวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน
การทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ
การทำงานในสมัยปัจจุบันหรือการบริหารงานในแนวใหม่จะทำแบบ “ข้ามาคนเดียว” หรือ “วันแมนโชว์” หรือ “ศิลปินเดี่ยว” หรือ “อัศวินม้าขาว” ดูจะเป็นไปได้ยาก และสำเร็จยากด้วย กลุ่มงานที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการ หรือ 3Ps ได้แก่
1)           มีวัตถุประสงค์ (Purpose) ชัดเจน
2)           มีการจัดลำดับความสำคัญ (Priority) ในการทำงาน
3)           มีผลการทำงาน (Performance)
การทำงานเป็นทีม ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากกว่าการทำงานคนเดียว เช่น
1)           ต้องมีการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น
2)           ต้องบริหารความขัดแย้งระหว่างกัน
3)           ต้องมีการจัดการประชุม
4)           ต้องมีค่าใช้จ่าย
เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน
1.           วัตถุประสงค์ชัดเจน และมีเป้าหมายที่เห็นพ้องต้องกัน
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ที่ต้องการให้องค์กรบรรลุผลสำเร็จ ที่คาดหวังไว้ในการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามภารกิจขององค์กร
1.1.     การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ดี ต้องให้ผู้นำและสมาชิกในทีมมีส่วนในการกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบและวัตถุประสงค์ร่วมกัน
1.2.     ประโยชน์ของการกำหนดวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ใช้เป็นการรวมพลังในการทำงาน และเป็นเครื่องมือวัดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของงาน
1.3.     วัตถุประสงค์ที่ดี ต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร เข้าใจง่าย สามารถปฏิบัติได้ ไม่ขัดกับระเบียบข้อบังคับอื่นๆ ในองค์กร
2.           มีความเปิดเผยต่อกันและการเผชิญหน้าเพื่อแก้ปัญหา
มีความสำคัญต่อการทำงานเป็นทีมเพื่อให้งานเกิดประสิทธิภาพ
2.1.     สมาชิกจะต้องแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา แก้ปัญหาอย่างเต็มใจและจริงใจ
2.2.     การแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยของสมาชิกในทีมจะต้องได้รับความปลอดภัย พูดถึงปัญหาอย่างสบายใจ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
3.           การสนับสนุนและความไว้วางใจต่อกัน
สมาชิกในทีมต้องมีความไว้ใจกันและกัน โดยทุกคนมีเสรีในการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ต้องเกรงว่าจะมีผลร้ายตามมาภายหลัง ทำให้กล้าที่จะเผชิญกับปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สมาชิกจะต้องให้การสนับสนุนช่วยเหลื่อในการทำงาน
4.           ความร่วมมือและการใช้ความขัดแย้งในทางสร้างสรรค์
4.1.     การสร้างความร่วมมือกับบุคคลอื่น ในการสร้างความร่วมมือเพื่อความเข้าใจซึ่งกันและกัน การขอความร่วมมือมีสองฝ่ายคือ ฝ่ายขอความร่วมมือและฝ่ายให้ความร่วมมือ ความร่วมมือจะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายให้มีความเต็มใจและยินดีให้ความร่วมมือ เหตุผลการขาดความร่วมมือเป็นเพราะการขัดผลประโยชน์ไม่อยากให้ผู้อื่นได้ดีกว่า สัมพันธภาพไม่ดี  วัตถุประสงค์ทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกัน ไม่เห็นด้วยกับวิธีการทำงาน ไม่มีความพร้อมในการให้ความร่วมมือ
4.2.     ความขัดแย้ง หมายถึงความไม่ลงรอยกันในความคิด หรือการกระทำที่เกิดขึ้นระหว่างสองคนขึ้นไปหรือระหว่างกลุ่ม เพราะขัดผลประโยชน์ ความคิดไม่ตรงกัน ผลประโยชน์ขัดกัน องค์กรขัดแย้งกัน ฯลฯ
4.3.     วิธีแก้ความขัดแย้ง ควรใช้วิธีแก้ปัญหาร่วมกัน ให้เกิดความเสมอภาค ไม่ให้เกิดการได้หน้าหรือเสียหน้า เป็นการเจรจาแบบประนีประนอม
5.           กระบวนการทำงานและการตัดสินใจที่ถูกต้องและเหมาะสม
งานที่มีประสิทธิภาพนั้นสมาชิกทุกคนจะต้องโฟกัสไปที่งานและผลของงานเป็นลำดับแรก ต่อมาก็เป็นการวางแผนว่าทำอย่างไรงานจึงจะออกมาดี ขั้นตอนในการตัดสินใจ
5.1.     ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนในเหตุผลสำหรับการตัดสินใจ
5.2.     วิเคราะห์ลักษณะปัญหาที่จะต้องตัดสินใจ
5.3.     ตรวจสอบทางเลือกในการแก้ปัญหา
5.4.     นำผลการตัดสินใจไปปฏิบัติ
6.           ภาวะผู้นำที่เหมาะสม
จะต้องเป็นผู้ชี้แนะประเด็นสำคัญในการทำงานตามบทบาทผู้นำ การแบ่งงาน การกระจายงานให้สมาชิกตามความรู้ความสามารถ ส่งเสริมบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกันเป็นทีม มีการพัฒนาทีมงานและบุคลากร
7.           การตรวจสอบทบทวนผลงานและวิธีในการทำงาน
ทีมงานที่ดีไม่เพียงแต่ดูจากลักษณะของทีม แต่ดูที่วิธีการทำงาน ดูจากข้อมูลป้อนกลับในการปฏิบัติงานของแต่ละคนและของทีมงานด้วย
8.           การพัฒนาตนเอง
การทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพจะพยายามรวบรวมและใช้ทักษะต่างๆ ของแต่ละคน และยังต้องการพัฒนาให้มีความสามารถสูงขึ้น ผู้บริหารหรือผู้นำต้องมีความรู้ในการบริหารคน สามารถสอนหรือพัฒนาบุคลากรให้มีลักษณะที่ดีขึ้น

ประโยชน์ของการทำงานเป็นทีม
1)           สร้างขวัญและกำลังใจแก่สมาชิก ทำให้เกิดความไว้ใจ บรรยากาศในการทำงานดี ช่วยให้การทำงานได้ผลดีมีประสิทธิภาพ
2)           สร้างความมั่นคงในอาชีพ เพราะมีการพัฒนาความรู้ ประสบการณ์และทักษะ ทำให้ความก้าวหน้าในอาชีพการงาน
3)           สร้างความสัมพันธ์ในงาน มีการช่วยกัน ระดมความรู้ ความสามารถของสมาชิกเข้าเป็นหนึ่งเดียว ทำให้เกิดความผูกพันใกล้ชิดและบรรลุเป้าหมายที่ต้องการพร้อมกัน
4)           เพิ่มพูนการยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน ในทีมงานมีการกำหนดให้สมาชิกมีบทบาทต่างๆ เช่น ผู้นำทีม หัวหน้ากลุ่ม ผู้ประสานงานและบทบาทอื่นๆ ทำให้เกิดความเข้าใจในการทำหน้าที่ตามบทบาทที่ได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมาย ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และเกิดผลงานที่ดี