วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

อาศัยพระเยซูเจ้า

อาศัยพระเยซูเจ้า
เสาร์
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
กจ 18:23-28
ยน 16:23-28
บทภาวนาของประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ เริ่มต้นด้วยการอธิษฐานภาวนาถึงพระบิดาเจ้า แต่จบลงด้วยการวอนขอพระเยซูเจ้า “ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำเริญและครองราชย์ เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวกับพระองค์และพระจิต ตลอดนิรันดร” เมื่ออธิษฐานภาวนาเราต้องอธิษฐานภาวนาถึงพระบิดาเจ้าผ่านทางพระเยซูเจ้า เรามีอิสระในการอธิษฐานภาวนาถึงพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ และบรรดานักบุญ แต่พระบิดาเจ้าทรงเป็นจุดหมายสูงสุดของการอธิษฐานภาวนา
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดา พระองค์จะประทานให้ท่านในนามของเรา” (ยน 16:23) พระองค์ทรงบอกเราว่า คำอธิษฐานภาวนาของเราควรเสนอต่อพระบิดาเจ้า แต่ในนามของพระองค์ นี่เป็นรูปแบบวิธีอธิษฐานภาวนาในพิธีกรรมของพระศาสนจักร ทั้งนี้เพราะการอธิษฐานภาวนาในนามของพระเยซูเจ้าช่วยเราให้พบพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า  และเราต้องแสวงหาพระประสงค์ของพระองค์
เหนือสิ่งอื่นใด พระเยซูเจ้าทรงบอกบรรดาศิษย์ว่า พระองค์เป็นพระเจ้า (I am Divine) ทรงอยู่ในสวรรค์กับพระบิดาเจ้า ทรงลงมาในโลก และกำลังจากโลกนี้กลับไปหาพระบิดาเจ้า พระองค์ทรงกระทำทุกอย่างตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ดังนั้น การยืนยันความรักของเราต่อพระเยซูเจ้าต้องเชื่อว่า พระองค์ทรงลงมาจากพระบิดาเจ้า และกำลังเสด็จกลับไปหาพระบิดาเจ้าองค์แห่งความรักผู้ทรงรักเรา พระองค์ไม่มีวันทอดทิ้งและลืมเรา
คริสตชนแต่ละคนได้รับการเรียกให้บอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูเจ้าให้คนอื่นรู้จัก เพื่อช่วยพวกเขาได้ทราบพระประสงค์และความรักของพระบิดาเจ้า พระเจ้าทรงเป็นทั้งพระบิดาเจ้าและองค์แห่งพระสิริรุ่งโรจน์ เราสามารถมาหาพระองค์ในการอธิษฐานภาวนาด้วยความวางใจ เพราะเราเป็นบุตรที่พระองค์ทรงรัก แต่เราต้องไม่ลืมว่า พระองค์ทรงความยิ่งใหญ่สูงสุด ทรงเป็นผู้ปกครองของจักรวาล
พระเจ้าทรงทราบว่า เราอยู่ที่ไหน เราต้องมอบทุกอย่างในพระหัตถ์ของพระองค์ เพื่อรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์สำหรับชีวิตของเรา พระองค์ไม่เคยทอดทิ้ง หรือลืมเรา ศิษย์พระคริสต์ต้องอธิษฐานภาวนาสม่ำเสมอผ่านทางพระเยซูเจ้า และมีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ผู้เป็นท่อธารแห่งพระพร เพื่อเติบโตยิ่งขึ้นในความเชื่อที่เป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งตระหนักว่า เราเป็นสิ่งสร้าง ผู้รับใช้ และเป็นบุตรของพระองค์
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 138-139.
ภาพ :  25 ปีชีวิตสงฆ์, วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม, สกลนคร; 2019-03-31

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความยินดีในความโศกเศร้า

ความยินดีในความโศกเศร้า
พฤหัสบดี
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
กจ 18:1-8
ยน 16:16-20
บทอ่านแรก หนังสือกิจการอัครสาวกบอกให้เราทราบความล้มเหลวของการประกาศพระวรสารที่กรุงเอเธนส์ เนื่องจากชาวเอเธนส์ภูมิใจในความฉลาดรอบรู้ของตนและไม่ต้องการพระเจ้า นักบุญเปาโลได้เดินทางกลับไปเมืองโครินธ์ ที่ซึ่งทำให้เปาโลกลับสู่ความเป็นจริงแห่งชีวิตและได้พบกับชาวยิวชื่ออาควิลาและปริสซิลลา สองสามีภรรยาซึ่งเคยใช้ชีวิตที่กรุงโรมและมีอาชีพทำกระโจมขาย
เปาโลได้พักอยู่กับอาควิลาและปริสซิลลาและทำกระโจมอาชีพเดิมของตน แม้ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่สิ่งที่เปาโลไม่เคยทิ้งคือการประกาศข่าวดี ทุกวันสับบาโตได้ไปที่ศาลาธรรม ชักชวนชาวยิวและชาวกรีกให้เชื่อในพระเจ้า แม้ประสบความล้มเหลว แต่ไม่ละความพยายาม ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ เปาโลทำให้เราตระหนักว่า “การทำงานทำให้คนมีเกียรติ มีคุณค่าและไม่เป็นภาระใคร” อีกทั้ง เป็นพยานถึงข่าวดีด้วยชีวิต
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “อีกไม่นาน” เพื่อบอกสิ่งที่จะเกิดกับพระองค์ บนเส้นทางสู่เขากัลวารีโอ เพื่อรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ก่อนหน้านั้นทรงบอกพวกเขาให้ทราบล่วงหน้าแล้วว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบแก่คนต่างศาสนา... เขาเหล่านั้นจะโบยตีพระองค์และฆ่าพระองค์เสีย แต่ในวันที่สามพระองค์จะกลับคืนพระชนมชีพ” (ลก 18:32-33) แต่พวกเขาไม่เข้าใจ
ความเชื่อของบรรดาศิษย์กำลังถูกท้าทาย เมื่อพวกเขามีประสบการณ์พระทรมานและการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า ตอนนี้พวกเขารู้สึกเป็นทุกข์โศกเศร้า ขณะที่โลกยินดี แต่อีกไม่นานความโศกเศร้าจะเปลี่ยนเป็นความยินดี เป็นความยินดีที่จีรังยั่งยืน  นี่คือธรรมล้ำลึกปัสกาอันเป็นความเชื่อและความหวังของคริสตชน ซึ่งต้องมีประสบการณ์ด้วยตนเองและแบ่งปันกับคนอื่น
“ผ่านทางไม้กางเขนสู่แสงสว่าง” ในความยินดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพ ซึ่งบรรดาศิษย์มีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งและเต็มเปี่ยมด้วยความยินดี ศิษย์พระคริสต์ต้องเลือกและดำเนินชีวิตบนหนทางแห่งไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า มอบถวายความยากลำบากในชีวิต เพื่อร่วมส่วนในความยินดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ผู้เปลี่ยนความโศกเศร้าของเราให้กลายเป็นความยินดี
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 134-135.
ที่มาภาพ : https://www.desiringgod.org/articles/five-truths-about-christian-suffering

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

พระจิตแห่งความจริง

พระจิตแห่งความจริง
พุธ
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
กจ 17:15, 22-18:1
ยน 16:12-15
หนังสือกิจการอัครสาวก ได้บอกเล่าเรื่องราวการประกาศพระวรสารของนักบุญเปาโลให้เราทราบ เปาโลได้นำข่าวดีไปยังคนต่างศาสนาที่เอเชียน้อย (ตุรกี) ยุโรป และที่กรุงเอเธนส์ ศูนย์กลางทางปัญญาของโลกยุคโบราณ เวลาพูดกับชาวยิวเปาโลเริ่มจากพระวาจาของพระเจ้าที่ทรงเผยแสดง แต่เมื่อพูดกับคนต่างศาสนาเปาโลเริ่มจากผลงานของพระเจ้าที่ทรงแสดงให้เห็นในรูปแบบต่าง ๆ
ในการพูดกับสมาชิกอภิรัฐสภาของกรุงเอเธนส์เปาโลได้อ้างถึง “พระเจ้าที่เราไม่รู้จัก (The unknown God)” ซึ่งเป็นแท่นบูชาหนึ่งของชาวเอเธนส์สร้างถวายแด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก เนื่องจากไม่ต้องการพลาดพระพรจากพระเจ้าองค์ใด เปาโลได้เริ่มจากสิ่งที่พวกเขารู้จักดีและคุ้นเคยนำไปสู่ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพระเจ้า โดยบอกชาวเอเธนส์ว่า พระเจ้าที่เราไม่รู้จักเป็นพระเจ้าแท้ ผู้สร้างโลกและทุกสิ่งในโลก
เรื่องราวของศิษย์สองคนที่เอมมาอูสบอกให้เราทราบว่า “พระเจ้าที่เราไม่รู้จัก” ได้เปิดเผยพระองค์ให้พวกเขาได้รับรู้ตอนบิขนมปัง ผ่านทางการรับฟังพระวาจาและพิธีศีลมหาสนิท พระองค์ได้กลายเป็นพระเจ้าที่เรารู้จักและประทับอยู่ท่ามกลางเรา พระองค์ไม่ปล่อยให้เราดำเนินชีวิตโดยลำพัง ทรงสัญญาประทานพระจิตแห่งความจริงแก่เรา เรามีความกล้าดำเนินชีวิตตามความจริงและความถูกต้องไหม
พระจิตแห่งความจริงช่วยเราให้รู้ว่า อะไรคือความจริงและสิ่งถูกต้อง พระองค์ทรงทำให้เราเข้าใจพระวาจาทุกคำของพระเยซูเจ้า ทำให้เราได้รับการกระตุ้นจากความศักดิ์สิทธิ์ ความเมตตากรุณา การให้อภัย และความรักของพระเยซูเจ้า อีกทั้ง ประทานพลังให้เราสามารถดำเนินชีวิตตามฉายาของพระเจ้า เปลี่ยนแปลงตนเองและเลียนแบบพระองค์ในชีวิตประจำวัน
พระจิตแห่งความจริงทรงนำเราสู่ความจริงทุกอย่าง ช่วยเราให้เข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับสารของพระเยซูเจ้า และย้ำเตือนเราถึงการเปิดเผยของพระบิดาเจ้าในพระเยซูเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องร่วมมือกับพระจิตเจ้าในการอธิษฐานภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ และการนำพระวาจาสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ในความรัก การให้อภัย การรับใช้ และการแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 132-133.
ที่มาภาพ : https://www.pptgrounds.com/religious/8433-holy-spirit-backgrounds

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

จงเชื่อพระเยซูเจ้า

จงเชื่อพระเยซูเจ้า
อังคาร
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
กจ 16:22-34
ยน 16:5-11
นักบุญเปาโลเริ่มงานที่เมืองฟิลิปปีอาณานิคมของอาณาจักรโรมัน และเมืองเอกของแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลได้ขับไล่จิตออกจากทาสหญิงคนหนึ่งผู้มีความสามารถทำนายอนาคต และสร้างรายได้มหาศาลให้นายของตน การเสียประโยชน์หมดโอกาสสร้างรายได้ของนายทาสหญิงคนนั้น เป็นสาเหตุทำให้เปาโลและสิลาสถูกจับกุม ถูกนำตัวไปขึ้นศาลปรักปรำว่าสร้างความวุ่นวาย ถูกเฆี่ยน ถูกล่ามโซ่ และถูกขังคุก
ขณะอยู่ในคุกเปาโลและสิลาสได้อธิษฐานภาวนาและขับร้องสรรเสริญพระเจ้า เกิดแผ่นดินไหว ประตูคุกทุกบานเปิด ทำให้ผู้คุมคิดว่านักโทษหนีไปหมดแล้วจึงคิดฆ่าตัวตาย แต่เปาโลได้ห้ามไว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คุมกลัวและถามเปาโลว่าต้องทำอย่างไร เปาโลตอบว่า “จงเชื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ท่านและครอบครัวจะได้รอดพัน” (กจ 16:31) ความเชื่อในพระเยซูเจ้าเป็นสิ่งสำคัญของผู้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงบอกบรรดาศิษย์ว่า พระองค์กำลังไปเฝ้าพระบิดาเจ้า พวกเขาต้องเรียนรู้การเจริญชีวิตความเชื่อในโลก อาศัยความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าทำให้พระศาสนจักรเติบโตและมีชีวิต “พระองค์จะทรงแสดงให้โลกเห็นความหมายของบาป ของความถูกต้องและของการตัดสิน” (ยน 16:8) พระจิตเจ้าทรงเป็นผู้ชี้แนะและนำทางในการดำเนินชีวิตตามความเชื่อในโลกและเผชิญหน้ากับโลก
คริสตชนได้รับพระจิตเจ้าเช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวก ทรงให้คำแนะนำและชี้ทางสว่าง ทำให้เราเข้มแข็งและกล้าหาญในการเจริญชีวิตเพื่อพระเยซูเจ้า ใครปฏิเสธความเชื่อในพระเยซูเจ้าและไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์จะถูกกล่าวโทษ เราเลือกอยู่ฝ่ายไหน เราพร้อมดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ด้วยความนอบน้อมเชื่อฟังและความรักต่อพระเยซูเจ้าหรือเปล่า ชีวิตของเราได้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าบ้างไหม
เราต้องอนุญาตให้พระจิตเจ้าทรงครอบครองชีวิตเรา ทำให้เราเป็นอิสระจากบาปและบันดาลให้เราเกิดร้อนรนด้วยไฟแห่งความรักของพระเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องเชื่อในพระเยซูเจ้า ผู้ประทับอยู่กับเราในศีลมหาสนิท และร่วมมือกับพระจิตเจ้าในการสานต่องานของพระองค์ในโลก ในการปฏิบัติตามบทบัญญัติและเป็นพยานถึงพระองค์ในชีวิตประจำวัน
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 130-131.
ที่มาภาพ : https://www.pinterest.com/pin/195062227581841734/

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

พยานแห่งความจริง

พยานแห่งความจริง
จันทร์
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
กจ 16:11-15
ยน 15:26-16:4
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงบอกเราว่า พระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงพระองค์ ซึ่งพระองค์จะส่งพระผู้ช่วยเหลือ หรือพระจิตแห่งความจริงมายังบรรดาศิษย์ ทำให้พวกเขาเข้าใจความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับพระองค์ และสามารถเป็นพยานถึงความจริงเกี่ยวกับพระวาจาที่ช่วยให้รอด และกิจการแห่งความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวันของตนได้ โดยอาศัยความช่วยเหลือของพระจิตเจ้า
พระจิตเจ้าทรงเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าและเป็นผู้สานต่องานของพระองค์ในโลก พระจิตเจ้าทรงทำให้เราเข้าใจความจริงเกี่ยวกับคำสอนของพระเยซูเจ้าและความจริงเกี่ยวกับพระองค์ เมื่อเราได้ยินพระวาจาของพระองค์ พระจิตเจ้าทรงทำงานในความคิดและจิตใจของเรา โดยทางสติปัญญาเราสามารถเข้าใจความหมายและยึดเอาคำสอนของพระองค์มาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
คริสตชนได้รับการเรียกให้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าในสองลักษณะ ด้วยแบบอย่างชีวิต และการพลีชีพเป็นมรณสักขี ในยุคสมัยของเรามีคริสตชนเป็นจำนวนมากได้หลั่งเลือดเป็นมรณสักขี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลางซึ่งถูกกลุ่มไอซิสฆ่าตายเพราะการเป็นคริสตชน พวกเขาได้เป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าด้วยชีวิตของตน โดยได้รับพลังและความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวจากพระจิตเจ้า
เราไม่สามารถเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าได้หากไม่รู้จักพระองค์เป็นการส่วนตัว มีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ทางการอธิษฐานภาวนาและศีลศักดิ์สิทธิ์ ดำเนินชีวิตตามคุณค่าพระวรสารโดยมีพระจิตเจ้าทรงนำทางและช่วยเหลือ “การเป็นพยานที่ดีเป็นเหมือนป้ายชี้ทาง จะเก่าหรือใหม่ สวยหรือไม่สวย แต่สามารถบอกทิศทางถูกต้องและทุกคนเข้าใจ เราเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้า เราต้องชี้บอกพระองค์”  (John White)
พระเยซูเจ้าทรงสัญญาจะส่งพระจิตแห่งความจริงมายังบรรดาศิษย์ ซึ่งพวกเขาต้องเปิดใจและฟังเสียงของพระองค์ อีกทั้งเป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้องชอบธรรม ศิษย์พระคริสต์ต้องเปิดใจต่อพระจิตแห่งความจริง ให้พระองค์ทรงเพิ่มพูนความเชื่อและนำทาง ให้สามารถดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าได้ในแต่ละวัน พร้อมเผชิญทุกสิ่งและก้าวเดินไปพร้อมกับพระองค์ทุกสถานการณ์
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 128-129.
ที่มาภาพ : https://www.americamagazine.org/issue/call-conversion-0

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ, ปีที่ 2 ฉบับที่ 54


สารวัดดอนม่วย-โนนค้อ

ปีที่ 2  ฉบับที่  54;  อาทิตย์ที่  26  พฤษภาคม  2019  (2562): http.//dondaniele.blogspot.com

107 หมู่ 6 บ้านดอนม่วย ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร 47130È086-231-3231

สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
คริสตชนวัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทานดอนม่วยถวายพระพรชัยมงคล
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2019
พี่น้องที่รัก สิ่งที่พระเยซูเจ้าบอกเราในพระวรสารวันนี้ หากเรารักพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามพระวาจา พระองค์จะประทับอยู่กับเราพร้อมกับพระบิดาและพระจิต ทำให้เรากลายเป็นที่พระทับของพระเจ้าสามพระบุคคล บทอ่านวันนี้แสดงให้เราเห็นถึง ผลแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้าในพระศาสนจักรของพระองค์ และการประทับอยู่ของพระองค์ในเราแต่ละคน
พระเยซูเจ้าทรงสอนเราว่าเงื่อนไขแห่งการประทับอยู่ของพระตรีเอกภาพในเราคือ การที่เราแสดงความรักต่อพระเจ้าและปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ซึ่งพระจิตเจ้าทรงช่วยเราให้สามารถปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ได้ง่ายขึ้น ทรงยืนยันกับบรรดาศิษย์ว่าแม้พวกเขาไม่เห็นพระองค์อีกต่อไปแล้ว แต่พระองค์ทรงอยู่กับพวกเขาผ่านทางพระจิตเจ้า ผู้สอนและช่วยพวกเขาให้เข้าใจทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสอน
 ญาติพี่น้องเปาโล สมพงษ์ มณีนพ เลี้ยงอาหารพี่น้องชาวโนนค้อ; 19 พฤษภาคม 2019
บทอ่านที่หนึ่ง หนังสือกิจการอัครสาวกบอกเราถึงบทบาทของพระจิตเจ้าในพระศาสนจักร และช่วยบรรดาอัครสาวกในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการก่อตั้งพระศาสนจักรในระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะคนต่างศาสนาที่กลับใจมาเป็นคริสตชน ก่อให้เกิดปัญหาตามมาว่าควรถือปฏิบัติตามธรรมเนียมยิวหรือไม่
บทอ่านที่สอง หนังสือวิวรณ์ได้บรรยายเกี่ยวกับพระศาสนจักร ดังเช่นนครเยรูซาเล็มสวรรค์ที่สร้างบนรากฐานของบรรดาอัครสาวก นครศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็มเป็นรูปหมายถึงบรรดานักบุญที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เป็นพระจิตเจ้าที่เปิดเผยพระศาสนจักรที่ได้รับเกียรติรุ่งโรจน์แก่เรา
พระวรสาร พระวรสารวันนี้เตือนเราว่าพระจิตเจ้าทรงประทับอยู่กับเรา ทรงเป็นอาจารย์และแหล่งที่มาแห่งสันติภาพทั้งมวล เป็นตอนที่ทำให้เรามีความหวัง พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับผู้ติดตามพระองค์ว่า พระจิตเจ้าจะเสด็จมาและแนะนำพวกเขาทุกอย่างที่จำเป็นต้องรู้
 การประชุมสภาภิบาลวัดและผู้นำกลุ่มคริสตชนพื้นฐาน; 20 พฤษภาคม 2019
°ข่าวสารและประชาสัมพันธ์
1.          ขอความร่วมมือจากบรรดาผู้ปกครองได้ส่งบุตรหลานให้มาวัดเรียนคำสอน และขอให้กลุ่มคริสตชนพื้นฐานหาเวลาจัดประชุมและอธิษฐานภาวนาร่วมกัน
2.          ขอคำภาวนาเพื่อแม่กาโรลา ฮ้อม ถิ่นวัลย์ มารดาของคุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ ซึ่งป่วยหนักแพทย์ให้มาพักที่บ้าน และบรรดาคนเจ็บป่วยในเขตวัดของเรา ขอพระเจ้าเสริมกำลังและเยียวยารักษา
3.          มติที่ประชุมสภาภิบาลวัด: 1) เห็นชอบการบูรณะศาลาไม้ข้างวัดเพื่อเป็นห้องทำงาน ห้องพักและห้องประชม รอช่างเขียนแบบแปลน และ 2) เห็นชอบการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อปีโอ ไอศวรรย์ จันทร์ลือชัย อาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2019 เพื่อหาทุนสร้างอนุสรณ์สถานและทำให้เป็นประเพณีทุกปีให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึง
4.          เสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2019 เชิญร่วมพิธีเสก-เปิดศาลายวงสต๊อกแกร์ ที่สุสานวัดนักบุญยอแซฟดอนทอย-หนองสนุก
5.          อาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2019 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์
6.          เงินทาน อาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2019: วัดดอนม่วย 2,267.- บาท และครอบครัวนางสุภาภรณ์ นำสุย สมทบทุนสร้างบ้านพักพระสงฆ์ 2,000.- บาท; วัดโนนค้อ 1,302.- บาท และเงินต้นอุทิศให้เปาโล สมพงษ์ มณีนพ เพื่อโครงการสร้างวัด 1,050.- บาท
7.          ขอบคุณ กลุ่มคริสตชนพื้นฐานกลุ่มที่ 9-10 ที่มาทำความสะอาดวัด สัปดาห์หน้ากลุ่มที่ 1-2 (โนนค้อ: กลุ่มที่ 3)
 พี่น้องชาวดอนม่วยเยี่ยมคุณพ่อสุดใจ แสนพลอ่อนที่ห้วยหวด; 20 พฤษภาคม 2019
พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์
วัน
ที่
เวลา
ผู้ขอ/วันฉลอง
จุดประสงค์
อาทิตย์
26
07.00 น.
08.30 น.
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
สุขสำราญพี่น้องชาวโนนค้อ
สุขสำราญพี่น้องชาวดอนม่วย
จันทร์-พฤหัส
27-30
06.00 น.
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา

ศุกร์
31
06.00 น.
ฉลองพระนางมารีย์เสด็จเยี่ยมเยียน

เสาร์
1
06.00 น.
ระลึก น.ยุสติน มรณสักขี


 พิธีอธิฐานภาวนาและถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2019











การประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา

การประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
ปี C
กจ 15:1-2, 22-29
 วว 21:10-14, 22-23
ยน 14:23-29
บทนำ
 นักบุญฟรังซิส อัสซีซี เป็นผู้ร้อนรนในการสนับสนุนคำสอนเรื่องการประทับอยู่ของพระเจ้าในมนุษย์ ทำให้ท่านรักทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าอยู่ในฐานะไหน วันหนึ่งท่านได้พบคนไม่เชื่อพระเจ้า ขณะที่ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน ได้พบขอทานตาบอดและเป็นอัมพาตคนหนึ่ง ท่านได้ถามชายตาพิการคนนั้นว่า หากฉันทำให้ท่านมองเห็นได้และหายจากอัมพาต ท่านจะรักฉันไหม
ชายขอทานตอบทันทีว่า ผมไม่เพียงรักท่านเท่านั้น แต่ผมจะขอเป็นทาสรับใช้ท่านตลอดชีวิต นักบุญฟรังซิสได้กล่าวกับชายผู้ไม่เชื่อพระเจ้าว่า ดูซิ ชายตาบอดคนนี้ยังรู้จักรักฉัน หากฉันทำให้เขามองเห็นและมีสุขภาพดี ทำไมท่านไม่รักและเชื่อในพระเจ้า ผู้สร้างท่านมาให้มีตาดีและสุขภาพแข็งแรงเล่า
นี่คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงต้องการบอกเราวันนี้ หากเรารักพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ พระองค์จะประทับอยู่กับเราพร้อมกับพระบิดาและพระจิต ทำให้เรากลายเป็นที่ประทับของพระเจ้าสามพระบุคคล บทอ่านวันนี้แสดงให้เราได้เห็นผลแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้าในพระศาสนจักรของพระองค์ และการประทับอยู่ของพระองค์ในตัวเราแต่ละคน
1.  การประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา
พระวรสารวันนี้ เป็นตอนต่อเนื่องจากคำสั่งสอนสุดท้ายหลังการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย โดยอธิบายคำสอนเรื่องการประทับอยู่ของพระตรีเอกภาพในใจมนุษย์ และบทบาทของพระจิตเจ้าในชีวิตประจำวันของเรา พระเยซูเจ้าทรงบอกเราว่า มีสิ่งหนึ่งช่วยให้เราเชื่อในการประทับอยู่ของพระเจ้า นั่นคือ พระเจ้าทรงพำนักอยู่ในใจเราอย่างใกล้ชิดและลึกซึ้ง เพื่อทำให้เรากลายเป็นที่ประทับของพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงสอนเราว่า เงื่อนไขแห่งการประทับอยู่ของพระตรีเอกภาพในเราคือ การที่เราแสดงความรักต่อพระเจ้าและปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ซึ่งพระจิตเจ้าทรงช่วยเราให้สามารถปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ได้ง่ายขึ้น ทรงยืนยันกับบรรดาศิษย์ว่า แม้พวกเขาไม่เห็นพระองค์อีกต่อไปแล้ว แต่พระองค์ทรงอยู่กับพวกเขาผ่านทางพระจิตเจ้า ผู้สอนและช่วยพวกเขาให้เข้าใจทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสอน
พระเยซูเจ้าทรงมอบของประทานสี่ประการแก่ผู้ที่ติดตามพระองค์: 1) ทรงประทานความรักของพระองค์แก่เรา เพื่อช่วยเราให้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์; 2) ทรงประทานพระจิตเจ้าแก่เรา เพื่อสอนเราทุกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้และช่วยเราเลียนแบบพระองค์; 3) ทรงประทานสันติสุขแก่เรา เพื่อทำให้เราเข้มแข็งปราศจากความกลัวเมื่อต้องเผชิญความยากลำบาก, และ 4) จะทรงประทานรางวัลแก่เราในการเสด็จมาครั้งสุดท้าย
2.   บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในเรา การดำเนินชีวิตแต่ละวันของเราต้องเผชิญกับสิ่งไม่แน่นอน ความขัดแย้งและการทดลองในรูปแบบต่าง ๆ การประทับอยู่ของพระเจ้าในตัวเราช่วยเราให้สามารถเผชิญกับทุกสถานการณ์ของชีวิต โดยไม่สิ้นหวังและด้วยความกล้าหาญเยี่ยงคริสตชน
ประการที่สอง เราต้องอธิษฐานภาวนาและฟังเสียงของพระจิตเจ้า เราต้องใช้เวลาแต่ละวันเพื่อการอธิษฐานภาวนา สนทนากับพระเจ้าและฟังเสียงของพระองค์ เพื่อมีชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระองค์และรักพระองค์ด้วยจริงใจ อีกทั้ง ฟังเสียงของพระจิตเจ้าที่ตรัสกับเราในลักษณะต่าง ๆ เพื่อรู้ถึงแผนการและความช่วยเหลือของพระองค์ ช่วยเราให้รักเพื่อนพี่น้องและมีสันติสุขในจิตใจ
ประการที่สาม เราไม่ได้อยู่ตามลำพัง ปัญหาใหญ่ที่สุดในสังคมปัจจุบันคือความรู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง แต่ละคนต่างดำเนินชีวิตเหมือนคนแปลกหน้าต่อกัน พระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางเราตลอดเวลา ทรงแบ่งปันความยินดีของพระองค์กับเราและทรงให้อภัยบาปเรา ให้พระองค์นำทางชีวิตเราเพื่อขจัดความรู้สึกโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งให้หมดสิ้นไป
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ผู้มีความเชื่อแท้คือผู้เจริญชีวิตปฏิบัติตามพระวาจาด้วยใจรัก ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขา จะทรงพำนักอยู่กับเขา (ยน 14:23) มิใช่เราขึ้นไปพบพระเจ้าในสวรรค์ แต่เป็นพระเจ้าทั้งสามพระบุคคลเสด็จมาประทับอยู่กับเรา ใครดำเนินชีวิตในความรักได้สัมผัสความจริงนี้และได้อยู่กับพระเจ้าแล้ว
พระเจ้าทรงรักเราด้วยความรักนิรันดร เพื่อเป็นบุตรที่ดีของพระเจ้าเราต้องดำเนินชีวิตในความรักนี้ พระเยซูเจ้าทรงสั่งเราให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรัก เหมือนพระองค์ทรงปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้าในความรักไม่มีเงื่อนไข การให้อภัยไม่สิ้นสุด และการรับใช้ด้วยใจสุภาพ เพราะทุกคนต่างเป็นลูกของพระบิดาเจ้าองค์เดียวกันและเป็นพี่น้องกัน
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร: สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 124-127.
ที่มาภาพ : https://en.wahooart.com/@@/AQR7RE-Fritz-Von-Uhde-The-Last-Supper