วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

การเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
ปี C
กจ 13:14, 43-52
วว 7:9, 14-17
ยน 10:27-30
บทนำ
ในระหว่างสงครามเวียดนาม ทหารอเมริกันจำนวนมากถูกจับไปเป็นเชลยที่ค่ายแห่งหนึ่งของเวียดนามเหนือ เรียกว่า “ฮาวลาว” แต่ทหารอเมริกันเรียกว่า “ฮานอย ฮิลตัน” (Hanoi Hilton) ในคืนก่อนวันคริสต์มาสปี 1971 ผู้คุมค่ายได้มอบหนังสือพระคัมภีร์เล่มหนึ่งแก่บรรดาเชลยเป็นของขวัญคริสต์มาส และบอกพวกเขาว่าจะเก็บคืนในวันคริสต์มาส
บรรดาเชลยวางแผนใช้เวลาให้คุ้มค่า พวกเขาทำปากกาด้วยเส้นลวด ทำหมึกจากอิฐทุบจนเป็นฝุ่นผสมน้ำ และใช้กระดาษชำระในห้องน้ำเป็นกระดาษเขียนข้อความจากพระคัมภีร์ที่ได้รับ เพื่อใช้อธิษฐานภาวนาระหว่างถูกจองจำ ข้อความที่พวกเขาคัดลอกคืออุปมาเรื่องแกะพลัดฝูงและบทเพลงสดุดีที่ 23 “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจลูกแกะ” พวกเขาเหมือนแกะเดินในความมืด แต่ไม่รู้สึกกลัวเพราะรู้ว่า พระเจ้าทรงอยู่กับพวกเขา
ในดินแดนปาเลสไตน์อาชีพเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหลักและสำคัญมาก ชาวยิวเลี้ยงแกะไว้เพื่อตัดขนมากกว่าเป็นอาหาร  แกะแต่ละตัวอายุยืนและอยู่กับคนเลี้ยงจนจดจำได้หมดและนิยมตั้งชื่อแกะตามลักษณะภายนอก แกะมักฟังเสียงและติดตามคนเลี้ยงเสมอ  ภาพพจน์เรื่องผู้เลี้ยงและฝูงแกะเป็นภาพพจน์แพร่หลายในพระคัมภีร์ ต่อมาคำว่า “ผู้เลี้ยงแกะ” ได้ใช้หมายถึงผู้นำชาวยิว ซึ่งเป็นตัวแทนของพระยาห์เวห์ในโลก
1.         การเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสว่า พระองค์เป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล “เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา... เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา” (ยน 10:14-15) พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่บรรดาประกาศกในพันธสัญญาเดิมกล่าวถึง พระวรสารได้ให้ภาพชัดเจนเรื่องการเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีของพระเยซูเจ้าใน 3 ลักษณะ 
ประการแรก พระองค์ทรงรู้จักศิษย์ของพระองค์เป็นอย่างดี “แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา” (ยน 10:27) เป็นเรื่องของความรักความผูกพันระหว่างกัน โดยมีรากฐานมาจากความรักระหว่างพระองค์กับพระบิดาที่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง การรู้จักหมายถึงรัก การรักจึงหมายถึงการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดา หรือดำเนินชีวิตตามที่พระบิดาพึงประสงค์
ประการที่สอง พระองค์ประทานชีวิตนิรันดรแก่ศิษย์ของพระองค์ “เราให้ชีวิตนิรันดรแก่แกะเหล่านั้น” (ยน 10:28) ชีวิตนิรันดรที่พระองค์ประทานให้คือชีวิตใหม่ในความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งพระองค์ประทานให้เราแล้วตั้งแต่ในโลกนี้หากเราดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน “เราก็รู้ว่าเราพ้นจากความตายมามีชีวิตใหม่แล้ว เราทราบดังนี้เพราะเรารักพี่น้องของเรา คนใดที่ไม่มีใจรักคนอื่นก็เป็นเหมือนคนตาย” (1 ยน 3:14)
ประการสุดท้าย พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา “เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน” (ยน 10:30) ความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระบิดาเกิดจากการปฏิบัติตามพันธกิจที่พระบิดาทรงมอบหมาย “เรามาเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระบิดา” โดยมีพื้นฐานอยู่บน ความรัก ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด (ยน 13:34) ความรักเป็นพื้นฐานของความเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่า เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน ทรงต้องการบอกเราว่า พระองค์ทรงรักพระบิดาจนถึงที่สุด ด้วยการนอบน้อมเชื่อฟังพระบิดาจนกระทั่งสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ความเป็นหนึ่งเดียวกันหมายถึงความรักและการนบนอบเชื่อฟัง ดังนั้น หากเราอยากเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ด้วยการรักซึ่งกันและกันและนบนอบเชื่อฟังต่อพระประสงค์ของพระองค์มิใช่น้ำใจของเรา
2.         บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องเป็นผู้เลี้ยงและผู้นำที่ดี เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดีได้ในความรักต่อเพื่อนมนุษย์ อธิษฐานภาวนาเพื่อเขา ให้เวลาและใช้พระพรพิเศษต่าง ๆ ที่มีเพื่อผู้อื่น ส่งเสริมความรักและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า หากเราต้องการเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเช่นเดียวกับพระองค์ เราต้องมีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้า ในการรักซึ่งกันและกันและนบนอบเชื่อฟังพระองค์
ประการที่สอง เราต้องเป็นแกะดีในฝูงของพระเยซูเจ้า ด้วยการฟังเสียงผู้เลี้ยงของเรา อย่างบิดามารดา ครูบาอาจารย์ เจ้าอาวาส หรือพระสังฆราช ปฏิบัติตามคำแนะนำและร่วมมือกับท่านในงานหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ ไม่หลงไปตามเสียงอื่น เช่น  เสียงความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง ความมักได้เห็นแก่ตัว หรือความสะดวกสบายฝ่ายโลก ซึ่งทำให้เราสับสนและหันเหไปจากการนำของพระองค์
ประการที่สาม เราต้องอธิษฐานภาวนาเพื่อกระแสเรียกและชีวิตผู้อภิบาล พระศาสนจักรให้เราใช้สัปดาห์นี้อธิษฐานภาวนาเพื่อกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์ และชีวิตแห่งการอุทิศตนเพื่อพระเจ้า คริสตชนแต่ละคนมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนกระแสเรียก แม้เราเป็นนักบวช หรือพระสงฆ์ไม่ได้ แต่เราสามารถสนับสนุนใครบางคนให้เป็นนักบวช หรือพระสงฆ์ที่ดีได้
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ทรงรักและรู้จักแกะทุกตัว ทรงดูแลเอาใจใส่แกะแต่ละตัวอย่างดี และทรงปกป้องฝูงแกะจากสุนัขป่าและอันตรายด้วยชีวิตของพระองค์ ไม่ทิ้งฝูงแกะ ปล่อยให้เผชิญอันตรายตามลำพังเหมือนลูกจ้างทั่วไป แต่ทรงทำทุกอย่างให้แกะทุกตัวปลอดภัยและไม่กระจัดกระจาย เราเป็นแกะในฝูงซึ่งมีพระเยซูเจ้าเป็นผู้เลี้ยงหรือเปล่า หรือเรากำลังหลงทางไปฟังเสียงอื่นที่มิใช่เสียงของพระองค์
ใครที่มาหาพระเยซูเจ้าและฟังเสียงของพระองค์จะไม่หลงทางและได้รับชีวิตนิรันดร คริสตชนต้องเลียนแบบความรักของผู้เลี้ยงแกะที่ดี ดำรงตนในความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวัน “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นผู้เลี้ยงที่ดีเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า มีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระบิดาเจ้า ในความนบนอบเชื่อฟังพระองค์และการรักซึ่งกันและกัน
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร: สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 76-79. 
ภาพ : คนเลี้ยงแกะ, วัดน้อยทุ่งเลี้ยงสัตว์, อิสราเอล; 2018-04-18

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น