พระคุณครู
เราทุกคนล้วนมีคุณพ่อคุณแม่
และตระหนักดีว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างใหญ่หลวงต่อเรา ในฐานะที่เป็นผู้ให้กำเนิด
อบรมเลี้ยงดูและเอาใจใส่ดูแลเรามาตั้งแต่เล็กจนโต ความรักและความห่วงใยของท่านที่มีต่อเราโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
ไม่มีวันจืดจางและเลือนหายไป แม้ในวันที่เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม
คุณพ่อคุณแม่จึงเป็นดั่ง “ครูคนแรก” ที่เราจะต้องสำนึกพระคุณของท่านอยู่เสมอ
นอกเหนือไปจากคุณพ่อคุณแม่ของเราแล้ว
เรายังมีคุณครูที่โรงเรียนที่คอยดูแล อบรมสั่งสอนและประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเรา
ครูเป็นทั้งผู้ให้และผู้ชี้ทางสว่าง กล่าวคือให้ความรู้แก่สติปัญญาที่เขลาของเราในวัยเยาว์จนกระจ่างแจ้ง
อีกทั้ง ช่วยชี้ทางสว่างและนำเราเดินในหนทางที่ถูกต้องดีงาม คุณครูจึงเป็นดัง “คุณพ่อคุณแม่คนที่สอง”
ที่เราต้องรำลึกพระคุณอยู่เสมอเช่นกัน
บางคนเปรียบครูเป็นเหมือนกับ
“แสงเทียน” หรือ “เรือจ้าง” เป็นแสงเทียนที่ละลายแท่งเพื่อส่องสว่างให้ศิษย์ที่ยังขลาดเขลาได้เดินในทางที่ดีงาม
เป็นดังเรือจ้างที่นำพาศิษย์ไปสู่จุดหมายปลายทางข้างหน้าอย่างปลอดภัย ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักและมุ่งมั่น ด้วยดวงตาที่ห่วงใยและปรารถนาดี เพื่ออบรมสั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติ
ด้วยความทุ่มเท เสียสละและพากเพียร
ดังนั้น
คุณครูจึงเป็นผู้ประเสริฐที่เราต้องสำนึกพระคุณอยู่เสมอ พระคุณครูจะต้องติดตรึงในใจเราทุกคนตลอดไป เราจะต้องรักและเคารพครูด้วยหัวใจ บทเพลงที่เราเพิ่งร้อง
(รางวัลของครู) บอกเราว่า ความภูมิใจของครูมิได้อยู่ในพานไหว้ครู แต่อยู่ในวันที่รู้ว่าศิษย์นั้นไปได้ดี
และสิ่งที่ครูต้องการจากเรามากที่สุดคือ การเป็นคนดี “รู้ถูกรู้ผิดมีชีวิตที่สดใส
สิ่งนั้นที่ครูฝันใฝ่เพื่อเป็นแรงใจให้ครู รู้ถูกรู้ผิดมีชีวิตที่ก้าวไกล
เป็นคนที่ดีให้ได้ นั่นคือรางวัลให้ครู”
เราคงเคยได้ยินคำกล่าวว่า “ได้ดีเพราะมีครู” ถือเป็นคำพูดที่กลั่นมาจากประสบการณ์ของคนที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตทั้งหลาย
ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขามีวันนี้ได้เพราะครู”
หากเราต้องการประสบผลสำเร็จและยืนอยู่ในจุดที่สูงสุดของชีวิต
เหมือนผู้ที่ประสบผลสำเร็จในชีวิตทั้งหลาย เราต้องเคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์ เอาใจใส่ ตั้งใจเรียนและปฏิบัติตามคำแนะนำสั่งสอนของท่านอยู่เสมอ
และเราจะประสบผลสำเร็จในชีวิตเช่นเดียวกัน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกุฉินารายณ์
12 มิถุนายน 2557
ยอดเยี่ยม
ตอบลบ