วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ความอดทนและการให้โอกาสของพระเจ้า

 

ความอดทนและการให้โอกาสของพระเจ้า

เสาร์

สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

ยรม 7:1-11

มธ 13:24-30

บทอ่านแรก ประกาศกเยเรมีย์ตระหนักถึงอันตรายของการนับถือศาสนาและการนมัสการที่แยกจากชีวิตประจำวัน เยเรมีย์เรียกร้องงานเมตตาจิตและความยุติธรรมที่จับต้องได้ เราควรปฏิบัติต่อเพื่อนบ้านอย่างยุติธรรม โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อคนต่างด้าว เด็กกำพร้า และหญิงม่าย พระเจ้าทรงเรียกร้องให้พวกเขาซื่อสัตย์ในการรักษาพระบัญญัติ ไม่ลักขโมย ฆ่าคน ล่วงประเวณี สาบานเท็จ ไม่กราบไหว้รูปเคารพและนมัสการเทพเจ้าที่พวกเขาไม่รู้จัก

พระวรสารวันนี้เตือนเราให้เลียนแบบพระเจ้า ผู้ทรงอดทนและให้โอกาสทุกคน เราต้องมองเห็นความดีของกันและกัน ไม่ตัดสินใคร อุปมาเรื่องข้าวละมานสอนเราว่า เราเป็นเนื้อนาของพระเจ้าที่ทรงหว่านเมล็ดพันธุ์ดีให้เจริญเติบโต และเป็นหมู่คณะที่ทรงเจิมด้วยพระจิตเจ้า ทรงปล่อยให้คนดีกับคนไม่ดีอยู่ด้วยกันในโลก เพื่อให้โอกาสได้กลับใจก่อนถึงวาระสุดท้ายและรับการลงโทษ “จงปล่อยให้ข้าวสองชนิดงอกงามขึ้นด้วยกันจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว” (มธ 13:30)

พระเจ้าทรงเรียกร้องให้เรามีความอดทนต่อความผิดพลาดของกันและกัน ไม่มองใครว่าเป็นคนชั่ว เป็นวัชพืชที่ต้องกำจัดทิ้ง เพราะในความเป็นจริงตัวเราเองก็มีทั้งความดีและความไม่ดี นักบุญเปาโลเป็นผู้ที่ตระหนักถึงธรรมชาติของความดีและความชั่วในตัวท่าน “เมื่อใดข้าพเจ้าอยากทำดี เมื่อนั้นความชั่วก็มาอยู่ใกล้ข้าพเจ้าเสมอ...” (รม 7:21-25) และตระหนักว่าในความอ่อนแอมีความช่วยเหลือ “พระหรรษทานของเราเพียงพอสำหรับท่าน” (2 คร 12:9)

อุปมาบอกให้เราทราบว่า การพิพากษายังมาไม่ถึงโดยทันที ต้องรอถึงวาระสุดท้ายและเป็นหน้าที่ของพระเจ้า เป็นเวลาของการเก็บเกี่ยวที่มีการแยกข้าวละมานออกจากข้าวพันธุ์ดี แยกปลาดีจากปลาเน่าเสีย (มธ 13:47-50) แยกแกะออกจากแพะ (มธ 25:31-46) สิ่งที่เราพึงกระทำคือร่วมมือกับพระหรรษทานของพระเจ้า ในการกำจัดข้าวละมานแห่งความเห็นแก่ตัว ความโลภ ความอิจฉาริษยา และความเกลียดชังให้ออกไปจากใจเรา

ผู้หว่านอนุญาตให้ข้าวพันธุ์ดีและข้าวละมานเติบโตขึ้นด้วยกัน แสดงถึงความอดทนและให้โอกาส รอจนถึงเวลาเก็บเกี่ยวถึงแยกข้าวพันธ์ดีและข้าวละมานออกจากกัน ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระเจ้า อดทนต่อความผิดบกพร่องของกันและกัน ไม่ตัดสินคนอื่นโดยเบาความ และให้โอกาสกับคนทำผิดได้ปรับปรุงแก้ไขตนเอง บนพื้นฐานแห่งความรักไม่มีเงื่อนไขและการให้อภัยไม่สิ้นสุด ตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

26 กรกฎาคม 2024

ภาพ : การปลงศพ, สุสานศักดิ์สิทธิ์วัดดอทอย-หนองสนุก, สกลนคร; 2024-07-10

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

อุปมาเรื่องผู้หว่าน

 


อุปมาเรื่องผู้หว่าน

พุธ

สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

อพย 16:1-5, 9-15

มธ 13:1-9

บทอ่านแรก พระเจ้าทรงเรียกเยเรมีย์ให้เป็นประกาศก พระดำรัสตอนนี้ได้รับการอ้างถึงบ่อยมากเมื่อพูดถึงการเรียกของพระเจ้า “ก่อนที่เราปั้นท่านในครรภ์มารดา เราก็รู้จักท่านแล้ว ก่อนที่ท่านจะเกิด เราก็แยกท่านไว้เป็นของเราแล้ว เราแต่งตั้งท่านให้เป็นประกาศกสำหรับนานาชาติ” (ยรม 1:5) เยเรมีย์ไม่อยากเป็นประกาศกโดยอ้างเหตุผลว่า พูดไม่เป็นและยังเป็นเด็ก แต่พระเจ้าตรัสกับเรเรมีย์ว่า “อย่ากลัวเขาเลย เพราะเราอยู่กับท่านเพื่อป้องกันท่าน” (ยรม 1:8)

อุปมาเรื่องผู้หว่าน เป็นอุปมาที่งดงามของพระเยซูเจ้า ซึ่งทรงสั่งสอนประชาชนจากเรื่องราวในชีวิตจริงซึ่งพวกเขาคุ้นเคย ผู้หว่านออกไปหว่านเมล็ดพืชโดยมุ่งหวังว่า คงมีบางเมล็ดตกในที่ดินดีและเกิดผล เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของปาเลสไตน์มีลักษณะเป็นถิ่นทุรกันดาร เต็มไปด้วยเนิน หรือภูเขาหิน จึงมีดินแบบ “ทางเดิน, พื้นหินที่มีดินเล็กน้อย, พงหนาม และที่ดินดี” เราเป็นดินชนิดไหนใน 4 ประเภทนี้

ชาวยิวคุ้นเคยเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อผู้หว่านออกไปหว่านย่อมมีบางเมล็ดตกตาม

1)            “ริมทางเดิน” เป็นพื้นแข็งเนื่องจากผู้คนเดินย่ำไปมา เมล็ดพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้

2)            “พื้นหินที่มีดินเล็กน้อย” เป็นพื้นที่โดยส่วนใหญ่มีหินอยู่ทั่วไปและมีดินอยู่บ้างเมล็ดพืชไม่สามารถหยั่งรากลึกได้และเหี่ยวเฉาไปเมื่อแดดจัด

3)            “พงหนาม พบอยู่ทั่วไปในทุกพื้นที่ เมื่อพงหนามขึ้นปกคลุม เมล็ดพืชย่อมเติบโตไม่ได้ ทำให้เหี่ยวเฉาและตายไป

4)            “ที่ดินดี” เป็นความมุ่งหวังของผู้หว่านในการออกไปหว่านเมล็ดพืช บางเมล็ดตกในที่ดินดีจึงเกิดผล “ร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”

ผู้หว่านไม่ปฏิเสธการหว่านเมล็ดพืช แม้รู้ว่าบางเมล็ดต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่มีโอกาสเติบโต หรือเกิดผลใด ๆ แต่เขามั่นใจว่าจะมีบางเมล็ดที่ตกในที่ดินดีและเกิดผล เราไม่ควรท้อถอยในการเป็นคริสตชนและในการทำความดี อีกทั้งต้องยอมเสี่ยง ไม่รอให้ทุกอย่างพร้อมเสียก่อนถึงกลับใจมาหาพระเจ้า เราต้องให้พระองค์พรวนดินรดน้ำดินที่แข็งให้ร่วนซุย ขุดหินขึ้นมาและตัดหนามทิ้งไป เพื่อทำให้ใจเรากลายเป็นใจเนื้อเหมือนที่ดินดีที่เกิดผล

คริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นที่ดินดี ทำให้เมล็ดพืชแห่งพระวาจาของพระเจ้าหยั่งรากลึกในใจ เติบโตอย่างมั่นคง และเกิดผลอย่างสมบูรณ์ในชีวิต ศิษย์พระคริสต์ต้องตอบสนองการเรียกของพระเจ้า ดำเนินชีวิตเป็นเนื้อดินดีที่ฟังพระวาจาด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ไตร่ตรองความหมายและเจริญชีวิตตามพระวาจาในชีวิตประจำวัน เลียนแบบและปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้า และแบ่งปันชีวิตที่มีพระวาจาเป็นหลักยึดกับผู้อื่น

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

23 กรกฎาคม 2024

ที่มาภาพ : https://mjdasma.blogspot.com/2020/07/reflection-for-sunday-july-12-fifteenth.html