บทอ่านจากพระวรสารโดยนักบุญมัทธิว
12:46-50
ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังตรัสกับประชาชน
พระมารดาและพระญาติของพระองค์มายืนอยู่ข้างนอก ต้องการพูดกับพระองค์
พระองค์จึงตรัสถามผู้ที่มาทูลนั้นว่า “ใครเป็นมารดา
ใครเป็นพี่น้องของเรา” แล้วทรงยื่นพระหัตถ์ชี้บรรดาศิษย์ ตรัสว่า “นี่คือมารดาและพี่น้องของเรา
เพราะผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์
ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและเป็นมารดาของเรา”
พระวาจาของพระเจ้า
บทนำ
คุณพ่อสมรชัย กระแสสิงห์ เจ้าอาวาสที่น่ารักของพวกเรา และพี่น้องชาวป่าพนาวัลย์ที่รักทุกท่าน
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่เชิญพ่อให้มาเทศน์เตรียมจิตใจโอกาสฉลองวัดปีนี้ พ่ออยู่ที่นี่สามปี เป็นเวลาที่มีความสุขมาก
ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้อยู่กับพี่น้อง ยังจำและคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ผ่านไปปีกว่า
หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป บรรดาเด็ก ๆ เริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ที่เห็นชัดคือพระคุณเจ้ามาเยี่ยมเราบ่อย
เรามีเจ้าวัดถึงสามองค์
ประการสำคัญ พี่น้องชาวป่าพนาวัลย์ยังสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ในการเตรียมฉลองวัดและงานต่าง ๆ ของวัด ยังจำได้ปีแรกที่พ่อมาอยู่ ได้เสนอโครงการเตรียมฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งชุมชนวัด พี่น้องเอาด้วยทุกอย่างและให้ความร่วมมือดีมาก
เราเริ่มด้วยการทำซุ้มประตูทางเข้าวัด จากซุ้มประตูมาเป็นซุ้มอนุสาวรีย์
ศาลามีคาแอล และศาลาสันติสุขที่สุสาน ใครมีไม้บริจาคไม้ ใครมีอะไรก็ช่วยกัน ทำให้โครงการทุกอย่างสำเร็จ
แม้กระทั่งงานคริสต์มาส ไม่มีของขวัญให้เด็ก ๆ พ่อเสนอพาเด็กไปร้องเพลงคริสต์มาสอวยพรตามบ้าน
พี่น้องก็เอาด้วย ช่วยแต่งหน้าให้ลูกหลานของเรา ช่วยบริการรถยนต์ ช่วยทำอาหาร
คริสต์มาสจึงเป็นเวลาแห่งความสุขและความชื่นชมยินดีอย่างแท้จริง ซึ่งเราทุกคนมีส่วนในการให้และมอบความรักแก่กัน
ทำให้คริสต์มาสมีความหมายและสัมผัสได้ เพราะ “ทุกครั้งที่เรารักและรู้จักให้
นั่นคือคริสต์มาส”
1.
เครื่องหมายแห่งพระพรและความรัก
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสในการเสด็จเยือนประเทศไทย
เมื่อสองสัปดาห์ก่อน (20-23 พฤศจิกายน 2019) และวัดของเราได้ไปร่วมรับเสด็จ
พระองค์ทรงเป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและความรักหาที่สุดมิได้สำหรับเราชาวไทย นับเป็นเรื่องน่าทึ่งมากที่ชายวัย
83 มีปอดเพียงข้างเดียว เดินเหินลำบากเพราะขาอักเสพเรื้อรัง
แต่ได้เดินทางไกลมาเยี่ยมลูก ๆ ของพระองค์ แม้ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก
ยังปรับเวลาไม่ได้ ภารกิจแน่นทั้งวัน แต่ยังยิ้มแย้มแจ่มใจ พระพักตร์อ่อนโยนเปี่ยมด้วยเมตตาที่ทุกคนสัมผัสได้
แม้แต่พี่น้องชาวพุทธยังพูดเป็นเสียงเดียวกัน
พ่อใคร่นำคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปา
ในมิสซาที่สนามศุภชลาศัยมาแบ่งปันอีกครั้ง “ใครเป็นมารดา
และใครเป็นพี่น้องของเรา” (มธ12:48) ครอบครัวถือเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน
เป็นหน่วยแรกที่สำคัญที่สุด พระสันตะปาปาทรงเน้นย้ำให้เราปรับเปลี่ยนทัศนคติ เพื่อค้นพบ
“สมาชิกของครอบครัว” ในมุมมองใหม่ที่กว้างกว่าการมองเฉพาะคนในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเท่านั้น
และเปิดหัวใจยอมรับว่า “ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์
ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและเป็นมารดาของเรา” (มธ 12:50)
อาศัยพระวาจาของพระเจ้า
พระจิตเจ้าได้ทรงนำให้บรรดาธรรมทูต ออกเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนและความสุขสบายส่วนตน
เพื่อมาแสวงหาและสามารถค้นพบมารดาและพี่น้องชายหญิงของพระเยซูเจ้าในหมู่ชาวไทย บรรดาธรรมทูตได้นำพระวาจา
คำสอน ความเชื่อ ความรักและความหวังมาให้พี่น้องชาวไทย ได้เรียนรู้ถึงความดีงามของเราชาวไทยผ่านทางวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันดีงาม
2.
สองธรรมทูตผู้บุกเบิก
ขอพูดถึงเป็นพิเศษ
คุณพ่อยอห์น บัปติสต์ โปรดม และ คุณพ่อซาเวียร์ เกโก
ซึ่งเรากำลังเตรียมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีมรณกรรมของธรรมทูตผู้บุกเบิกทั้งสอง (10 ธันวาคม 2020) ได้ละทิ้งทุกสิ่งติดตามพระเยซูเจ้าเยี่ยงอัครสาวก
เลียนแบบพระเยซูเจ้าในความรัก ความใจดีมีเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และพร้อมยื่นมือช่วยเหลือทุกคนโดยไม่แบ่งแยก
ภายใต้คติพจน์: “ปลดปล่อย
เมตตา และยุติธรรม”
คุณพ่อโปรดมและคุณพ่อเกโกได้ต่อสู้อย่างเยี่ยงวีรบุรุษ
ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคปัญหา คุณพ่อโปรดมได้ได้บันทึกในเอกสารสำคัญ: 1) ได้ใช้เวลาชำระความทั้งกลางวันกลางคืนนับสิบวัน
ทั้งที่เมืองสกลนครและนครพนม เพื่อช่วยผู้มาขอพึ่งกว่า 200 ราย และ 2) ได้ใช้เงินช่วยเหลือคนจน ไถ่ให้เป็นอิสระ เลี้ยงชีวิต และเลี้ยงชีพ ตลอด
10 ปีแรก เป็นเงิน 3 หาบ เงินหนึ่งหาบเท่ากับ 4,000.- บาท สามหาบเท่ากับ 12,000.-
บาท นับเป็นจำนวนเงินมหาศาล เมื่อเทียบกับค่าเงินสมัยนั้น (ควายตัวละ 3 บาท, วัว 3 ตัว 10 บาท)
ทุกสิ่งที่เรามี
เราเป็นเวลานี้ คือสิ่งที่คนรุ่นก่อนหน้าเราได้สร้างเอาไว้ทั้งสิ้น
ข่าวดีแห่งพระวรสารได้รับการประกาศในแผ่นดินอีสานและประเทศลาว เป็นผลมาจากความร้อนรน
ทุ่มเทเสียสละ และอุทิศตนประกาศข่าวดีของพระสังฆราชโปรดมและคุณพ่อซาเวียร์ เกโก ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวโดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาของท่านทั้งสอง
ได้ทำให้แผ่นดินอีสานและประเทศลาวได้รับข่าวดีแห่งพระวรสาร
พระจิตเจ้าองค์เดียวกันได้นำบรรพชนของเราให้มาตั้งหลักปักฐานที่นี่
จากป่ากลายเป็นบ้าน จากสวนป่ากลายเป็นชุมชนวัดโดยการบุกเบิกของพระอัครสังฆราชมีคาแอล เกี้ยน เสมอพิทักษ์ ซึ่งวันที่
18 ธันวาคม 2020 จะครบ “หนึ่งร้อยปีชาตะกาล” ของท่าน ถือเป็นงานใหญ่สำหรับชาวป่าพนาวัลย์ ดังนั้นปี 2020 เราต้องไม่ลืมพระคุณเจ้าเกี้ยน
เสมอพิทักษ์ ผู้บุกเบิกและสร้างชุมชนวัดของเรา เรามีนัดกันทำบุญใหญ่ให้พระคุณเจ้าอีกครั้ง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ในฐานะที่เราเป็นศิษย์พระคริสต์และศิษย์ธรรมฑูต
พระสันตะปาปาทรงแนะนำให้เราสานต่องานของบรรดาธรรมฑูต
ในการแสวงหาพี่น้องในครอบครัวของเราที่เราเองยังไม่รู้จัก ในการให้กำลังใจซึ่งกันและกันและแบ่งปันชีวิตของเรากับผู้อื่น
ดำเนินชีวิตในความรักต่อกัน ให้ความรักเป็นสะพานทอดไปสู่ผู้อื่น เหมือนเพลง
“ให้ความรักเป็นสะพาน” ที่เราร้อง ในงานเมตตาจิตต่อทุกคนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
เราต้องเป็นผู้สร้างสะพานมากกว่าสร้างกำแพง
พระเยซูเจ้าทรงแสดงความสงสารต่อทุกคนที่กำลังเดือดร้อน
ในรูปแบบของคนยากจน คนพิการ ทุพลภาพ และคนต้องการความช่วยเหลือที่เราคาดไม่ถึง ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้าในการเช็ดน้ำตาคนที่กำลังร้องไห้
อันเนื่องมาจากความยากจน ความหิวโหย และความทุกข์ร้อนจากการถูกกระทำอย่างอยุติธรรม
สืบทอดจิตตารมณ์รักและรับใช้ของพระองค์ ก้าวเดินตามรอยเท้าของบรรดาธรรมทูต เพื่อค้นพบมารดาและพี่น้องของเราและต้อนรับพระเยซูเจ้าผู้สถิตท่ามกลางเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย,
สกลนคร
4 ธันวาคม 2019
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น