กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
อาทิตย์
สมโภชพระคริสตเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
ปี B
|
ดนล 7:13-14
วว 1:5-8
ยน 18:33ข-37
|
บทนำ
โซเรน เคียร์เคการ์ด (Soren Kierkegaard:
1813-1855) นักเทววิทยาและนักปรัชญาชาวเดนมาร์ก ได้เขียนเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับกษัตริย์ตกหลุมรักหญิงสามัญชนลูกชาวนาคนหนึ่ง
กษัตริย์ทราบดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะอภิเษกสมรสกับหญิงสาวลูกชาวบ้าน ตามราชประเพณีกษัตริย์ต้องอภิเษกสมรสกับเชื้อพระวงศ์ในระดับเดียวกันหรือสตรีสูงศักดิ์เท่านั้น
แต่กษัตริย์พระองค์นี้ทรงอำนาจมาก ทรงรู้ว่าสามารถทำได้และรู้ว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
กษัตริย์คิดแผนการสละราชสมบัติเพื่อเป็นชาวนาต่ำต้อย
จะได้แต่งงานกับหญิงคนรักในฐานะเท่าเสมอกัน แต่หากทำตามแผนการนี้ย่อมเกิดผลตรงข้าม
พระองค์ต้องสูญเสียทั้งตำแหน่งกษัตริย์และหญิงคนรัก
เพราะเธอคงปฏิเสธพระองค์และคิดว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลาสิ้นดี ที่สุด
กษัตริย์ทรงตัดสินพระทัยว่าต้องเสี่ยงและทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ความรักแท้ระหว่างพระองค์กับหญิงคนรักเป็นไปได้
เคียร์เคการ์ดไม่ได้เขียนต่อว่าเรื่องนี้จบอย่างไร
ด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรก จุดสำคัญของเรื่องนี้คือ ความรักยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ต่อหญิงสาวลูกชาวนา
ถึงขนาดยอมถ่อมพระองค์และสละได้แม้ราชบัลลังก์ และ ประการที่สอง
เรื่องนี้ไม่มีตอนจบ แต่ยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์
กษัตริย์ในเรื่องนี้คือพระเจ้า และหญิงสาวลูกชาวนาคือเราแต่ละคน
1. กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
พระศาสนจักรให้เราสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล
การเฉลิมฉลองนี้แสดงถึงอำนาจของพระคริสตเจ้าในฐานะกษัตริย์และพระเจ้าแห่งจักรวาล อีกทั้งช่วยเราให้มองไปสู่อนาคตและเป้าหมายสูงสุดของเรา
เมื่อพระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมาอย่างรุ่งโรจน์เพื่อพิพากษาครั้งสุดท้าย และประทานรางวัลหรือการลงโทษแก่เราแต่ละคน
การสมโภชนี้เกิดในพระศาสนจักรปี 1925 โดยพระสันตะปาปาปีอุส ที่ 11 เพื่อช่วยเราให้รำพึงถึงพระคริสตเจ้าผู้เป็นองค์พระเจ้าและกษัตริย์ของเรา
เมื่อพูดถึงกษัตริย์เรามักมองไปที่ความยิ่งใหญ่ มีอำนาจบารมีมากและอยู่เหนือคนอื่น
ทุกคนต้องเกรงกลัวและคอยปรนนิบัติรับใช้ ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากบรรดากษัตริย์เหล่านี้
พระองค์ไม่มีข้าทาสบริวาร ไม่มีวังที่ประทับ ไม่มีคทาที่แสดงถึงการเป็นกษัตริย์
ในทางกลับกัน พระองค์มีมงกุฎหนามสวมพระเศียร ร่างกายเปลือยเปล่า
พระพักตร์ชุ่มไปด้วยเลือด ถูกทิ้งให้อยู่โดยลำพัง ถูกสบประมาทและเยาะเย้ยจากผู้นำชาวยิวและทหาร
พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์ที่ปกครองด้วยความรัก “เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย
ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34) อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรแห่งความรัก
การรับใช้ การให้อภัยและความยุติธรรม ดังนั้น
เมื่อเราฉลองความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ มิใช่ในฐานะผู้ปกครองที่กดขี่และอยู่เหนือคนอื่น
แต่ในฐานะองค์แห่งความรัก ที่รัก รับใช้และให้อภัยโดยยอมตายเพื่อทุกคนบนไม้กางเขน
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
เราต้องอุทิศตนต่อพระคริสตเจ้ากษัตริย์ของเรา พระองค์จะไม่ใช่กษัตริย์ของเราหากเราไม่ฟังพระองค์
ไม่รักพระองค์ ไม่รับใช้พระองค์และไม่ติดตามพระองค์
เราจะเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของพระองค์เมื่อเรากลายเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ ดำเนินชีวิตตามพระวรสาร
นำมาปฏิบัติในชีวิตให้ปรากฏเป็นจริง และพร้อมเลียนแบบจิตใจที่สุภาพถ่อมตนของพระองค์
ประการที่สอง
เราต้องให้พระคริสตเจ้ามีอำนาจเหนือชีวิตของเรา
ให้พระองค์ครอบครองชีวิตของเรา มีอำนาจเหนือร่างกาย ความคิด
จิตใจและน้ำใจของเรา ผู้ที่ดำเนินชีวิตในพระอาณาจักรของพระองค์คือผู้ที่กล่าวว่า “พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์” ให้เราพยายามปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์
มากกว่าน้ำใจของเรา
ประการที่สาม เราต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งความรักของพระคริสตเจ้า ทรงประทานบทบัญญัติแห่งความรักแก่เรา
“ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ
สุดสติปัญญา และสุดกำลังความสามารถ... ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์รักตนเอง” (มก
12:30-31)
เราถูกเรียกร้องให้รักตามมาตรฐานเดียวกับพระองค์ เป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวและไม่มีเงื่อนไข
รักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก เมตตาสงสารและให้อภัยเสมอ
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ความเป็นกษัตริย์ของพระเยซูเจ้าแตกต่างจากบรรดากษัตริย์ทั้งหลาย
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่รักโดยไม่มีเงื่อนไข รักแม้กระทั่งศัตรู
ทรงเป็นกษัตริย์ที่รับใช้และมอบชีวิตเพื่อคนอื่น มิใช่ให้คนอื่นรับใช้ และทรงเป็นกษัตริย์ที่ให้อภัยเสมอแม้คนที่ประหารพระองค์
อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรแห่งความรัก การรับใช้และให้อภัย ดังนั้น ทุกครั้งที่เรารัก
รับใช้และให้อภัย เราได้ทำให้อาณาจักรของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในโลก
อาณาจักรของพระเจ้าเป็นอาณาจักรแห่งความยุติธรรม ความรักและสันติสุข
คริสตชนต้องดำเนินชีวิตเป็นพลเมืองดีในอาณาจักรของพระองค์ ในการรัก รับใช้และช่วยเหลือกันด้วยใจกว้าง ศิษย์พระคริสต์ต้องให้พระเยซูเจ้าทรงเป็นกษัตริย์แห่งชีวิตของเรา
ช่วยเราให้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ ฟังพระองค์ รักพระองค์ รับใช้พระองค์และและติดตามพระองค์
เพื่อทำให้อาณาจักรของพระองค์ปรากฏเป็นจริงในชีวิต ครอบครัว หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย
23 พฤศจิกายน 2018
ภาพ: พระคริสตราชา, วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง, พรรณานิคม, สกลนคร; 2000-01-29
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น