การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 33
เทศกาลธรรมดา
ปี B
|
ดนล 12:1-3
ฮบ 10:11-14,
18;
มก 13:24-32
|
บทนำ
ในการเรียนคำสอนวันหนึ่ง คุณครูได้ถามนักเรียนในชั้นว่า “เราต้องทำอย่างไรถึงได้เข้าสวรรค์”
แต่ละคนต่างแสดงคำตอบตามความคิดของตน อาทิ ต้องทำความดี ต้องรักเพื่อนพี่น้อง
ต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้า ต้องมาวัดทุกอาทิตย์ ต้องอธิษฐานภาวนาเป็นประจำ
คุณครูเห็นเด็กชายคนหนึ่งนิ่งเงียบ จึงถามคำถามเดิมอีกครั้ง เด็กชายตอบครูประสาซื่อว่า “เราต้องตายก่อนครับ”
ในสัปดาห์ก่อนสุดท้ายของปีพิธีกรรม
พระศาสนจักรให้เราพิจารณาถึง “ความตาย, สิ่งสุดท้าย, การพิพากษา, สวรรค์และนรก”
ซึ่งต้องเกิดขึ้นสักวันหนึ่ง บทอ่านวันนี้จัดอยู่ในวรรณกรรมแบบ “วิวรณ์”
ซึ่งผู้เขียนใช้เพื่อบรรเทาใจและให้กำลังใจผู้ที่กำลังทนทุกข์จากการเบียดเบียนเพราะความเชื่อ
เป็นการเขียนด้วยภาษาสัญลักษณ์
ใช้การพูดเป็นนัยและเอ่ยถึงทางอ้อมที่รู้กันเฉพาะคริสตชน เพื่อให้ความหวังในอนาคตที่สุกใสกว่าสำหรับชนทุกยุคทุกสมัย
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้
ได้ให้หลักประกันว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราทุกวันในชีวิต เพื่อนำทางและปกป้องเราจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
โดยเชิญชวนเราให้พุ่งความสนใจไปที่ “การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า” ทรงเสด็จมาครั้งแรกในการรับเอากายเป็นมนุษย์ในฐานะพระผู้ไถ่
ครั้งที่สองในการเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์ในวาระสุดท้าย เพื่อเพื่อพิพากษาผู้เป็นและผู้ตายนำความรอดมาสู่เรา
และครั้งที่สามทรงเสด็จมาหาเราทุกวันเมื่อเราเจริญชีวิตคริสตชนอย่างแท้จริง
1. การเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
พระวรสารนักบุญมาระโกเขียนขึ้นปี
69 หนึ่งปีก่อนกองทัพโรมันรุกรานกรุงเยรูซาเล็ม
ทำลายพระวิหารและเบียดเบียนกลุ่มคริสตชน ทำให้บรรดาคริสตชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าว่าจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของตน
นักบุญมาระโกได้ให้ความหวังแก่คริสตชนที่กำลังทนทุกข์
โดยย้ำเตือนพวกเขาถึงพระดำรัสของพระเยซูเจ้า เกี่ยวกับการเสด็จกลับมาอีกครั้งอย่างทรงฤทธานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่
เพื่อพิพากษา รวบรวมและให้รางวัลแก่ผู้เชื่อในพระองค์
นักบุญมาระโกได้เตือนพวกเขาถึงคำทำนายของพระเยซูเจ้าว่าสงคราม
ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการทรยศหักหลังที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ การเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์จะชนะทุกอย่างและรวบรวมผู้ที่รักพระองค์
ทั้งนี้เพื่อเตือนว่า ชีวิตเรามิได้สิ้นหวังโดดเดี่ยว ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเรากับพระคริสตเจ้าช่วยให้เรามีจิตใจสงบ
และความหวังท่ามกลางปัญหาต่างๆ ในโลก
สิ่งสำคัญคือการตระหนักในการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน
ในบุคคล เหตุการณ์และสถานการณ์ต่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา บ่อยครั้งพระองค์เสด็จมาในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งเราต้องต้อนรับการเสด็จมาของพระองค์ด้วยการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยความซื่อสัตย์
มองเห็นการประทับอยู่ของพระองค์ในเพื่อนพี่น้อง บนพื้นฐานแห่งความรัก การรับใช้ การคืนดีและให้อภัยต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องในชีวิตประจำวัน
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องมองเห็นพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน ทรงเสด็จมาหาเราในเหตุการณ์ต่างๆ
ในชีวิตประจำวัน
เราต้องเรียนรู้ที่จะจดจำและต้อนรับพระองค์ที่เสด็จมาในแบบที่เราไม่คาดคิด ในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในเวลาแห่งความสุขและความทุกข์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราปฏิบัติต่อกันด้วยความรัก การรับใช้และให้อภัย เราต้องพยายามนำพระองค์ไปสู่โลกเหมือนนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา
ที่ทำสิ่งเล็กน้อยกับทุกคนด้วยความรักยิ่งใหญ่
ประการที่สอง เราต้องไม่หวั่นไหวและวิตกทุกข์ร้อน
วันสิ้นโลกต้องไม่ทำให้เราอกสั่นขวัญแขวน
เพราะชีวิตของเราอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า
การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูเจ้าบอกให้เราทราบว่าพระเจ้าทรงร่วมเดินทางกับเรา ในอุปสรรคปัญหาและสถานการณ์แห่งความยากลำบากในชีวิต
พระองค์ทรงตรัสกับเราทางพระคัมภีร์ ทรงประทับอยู่ท่ามกลางเราทางศีลมหาสนิท เราต้องหมั่นมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณและรับพระองค์ในศีลมหาสนิท
ประการที่สาม เราต้องอ่านเครื่องหมายแห่งกาลเวลา คำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อ เตือนเราให้รู้จักมองดูเครื่องหมายแห่งกาลเวลาว่ามีความหมายอะไรสำหรับเรา
และมอบความวางใจในพระเจ้า เราไม่รู้วันเวลา
วาระสุดท้ายแห่งชีวิตเราและการเสด็จมาของพระองค์ เราต้องเตรียมพร้อมเผชิญกับการพิพากษาโดยไม่สิ้นหวัง
ด้วยการเจริญชีวิตประจำวันของเราในความรักต่อพระเจ้าและผู้อื่น
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเจ้าทรงประสงค์จะอยู่กับเราทุกวันในชีวิต เป็นการประทับอยู่อย่างต่อเนื่องในองค์พระจิตเจ้า
เพื่อนำทางและปกป้องเราจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเรา เมื่อถึงวันที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างรุ่งโรจน์
และพระองค์ทรงเสด็จมาหาเราทุกครั้งที่เราเจริญคริสตชนอย่างแท้จริง ในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
เป็นต้นคนจนและคนต่ำต้อยด้อยค่าในสังคม
เราถูกเรียกร้องให้แสวงหาและพบพระเจ้าในทุกสิ่งที่เรามีและเป็น
ในบุคคลแต่ละคนที่เราพบเห็น ในทุกสถานที่และทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
ศิษย์พระคริสต์ต้องเตรียมเผชิญวาระสุดท้ายของโลกและวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของตน รักและรับใช้พระเจ้าในผู้อื่นในทุกช่วงเวลาของชีวิตในแต่ละวัน
ด้วยความเชื่อวางใจและด้วยความเพียรทนจนถึงวาระสุดท้าย
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
danielkhuan@hotmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม
17 พฤศจิกายน 2018
ภาพ: พระอาทิตย์ตกดิน, หนองน้ำรินถนนสายดอนดู่-ดอนม่วย, พรรณานิคม, สกลนคร; 2018-11-08
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น