วันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ต้นแบบของครอบครัว

ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ต้นแบบของครอบครัว
31 ธันวาคม
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
ปี B
บสร 3:3-7, 14-17
คส 3:12-21
ลก 2:22-40
บทนำ
บ้านเป็นเสียงหัวเราะของทารก เป็นบทเพลงที่ไพเราะของมารดา เป็นความเข้มแข็งของบิดา เป็นความอบอุ่นแห่งความรักในหัวใจ เป็นประกายแห่งความสุขในดวงตา เป็นความใจดี ความภักดี และมิตรภาพ
บ้านเป็นโรงเรียนและวัดหลังแรกของคนหนุ่ม เป็นที่ที่พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งถูกต้อง สิ่งดีงาม และความเมตตา
บ้านเป็นที่ที่พวกเขาพบความช่วยเหลือเมื่อบาดเจ็บและป่วยไข้ เป็นที่ที่ได้แบ่งปันความยินดีและทำให้ความทุกข์หมดสิ้นไป เป็นที่ที่บิดามารดาให้ความเคารพและรัก เป็นที่ที่บุตรเป็นที่ต้องการและมีค่ายิ่ง เป็นที่ที่เงินไม่มีความสำคัญเท่ากับความรักเมตตา... นี่คือที่ที่เรียกว่าบ้าน ที่พระเจ้าทรงอวยพระพร (Anon)
1.        ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ต้นแบบของครอบครัว
พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมาในครอบครัว ทรงเคารพเชื่อฟังบิดามารดาของพระองค์ และได้รับการอบรมเลี้ยงดูในบรรยากาศแห่งพระหรรษทาน ในครอบครัวที่มีพระนางมารีย์และนักบุญยอแซฟที่รักกันมาก เห็นอกเห็นใจ และเคารพซึ่งกันและกัน ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขและเป็นแบบอย่างแห่งการแบ่งปันความความยินดี ความรับผิดชอบ และความทุกข์ในชีวิตครอบครัว พระศาสนจักรยกย่องครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เป็นต้นแบบของครอบครัวทั้งหลาย
พระวรสารไม่ได้ให้รายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับครอบครัวของพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ และนักบุญยอแซฟมากนัก แต่เราเข้าใจว่ายอแซฟเป็นคนยำเกรงพระเจ้า และปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข เป็นบุคคลที่มีหัวใจเปิดสู่พระเจ้า เชื่อฟัง ทำตาม และพร้อมเผชิญความยากลำบากทุกอย่างเพื่อพระองค์ ยอมทิ้งบ้านอันอบอุ่นที่นาซาเร็ธเดินทางไกลไปอียิปต์เพื่อความปลอดภัยของพระกุมารเยซู
มีสามครั้งในพระวรสารที่ยอแซฟตื่นขึ้นมากลางดึก เพื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า ในการปกป้องพระกุมารเยซูและพระนางมารีย์ให้ปลอดภัย ยอแซฟได้ชื่อว่าเป็น “ผู้ชอบธรรม” ที่มีความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัว ได้ใช้ความสามารถทุกอย่างเพื่อครอบครัว ขณะที่พระนางมารีย์เป็นคู่ชีวิตที่รับผิดชอบดูแลครอบครัว และมีส่วนในความยากลำบากต่างๆ ในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเงียบๆ
มีเพียงพระวรสารนักบุญลูกาที่เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าในวัยเยาว์ ทรงเป็นเหมือนเด็กชาวยิวทั่วไปที่ทำหน้าที่ปกติในครอบครัว ทรงเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย เคารพเชื่อฟังบิดามารดา แต่มีสิ่งหนึ่งที่ลูกาให้ข้อสังเกตและเน้นความสำคัญ “ทรงปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตกับพระองค์” (ลก 2:40)  ทรงเป็นเด็กที่น่ายกย่องและเป็นศูนย์กลางแห่งความรักของครอบครัว
2.        บทเรียนสำหรับเรา
การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าและพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก พระเยซูเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางของครอบครัว ชีวิตครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ต้องเผชิญมรสุมหนักแสนสาหัส แต่ครอบครัวนี้มีพระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลาง ทำให้สามารถดำรงความเป็นครอบครัวและฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาต่างๆ มาได้ ความสำเร็จของครอบครัวไม่เพียงขึ้นอยู่กับความรักของสมาชิกที่มีต่อกันเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพระเจ้าด้วย ต้องให้พระเยซูเจ้าประทับอยู่ท่ามกลาง ด้วยการอธิษฐานภาวนาร่วมกันในครอบครัว
ประการที่สอง ครอบครัวเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน เราอยู่ในพระศาสนจักร ครอบครัวใหญ่ของผู้มีความเชื่อในพระเยซูเจ้าและข่าวดีของพระองค์ พระศาสนจักรเป็นพระกายทิพย์ที่มองเห็นได้ของพระเยซูเจ้า ซึ่งแต่ละคนเป็นส่วนหนึ่งของพระกายทิพย์นี้ เราต้องสานต่อพันธกิจของพระองค์ในครอบครัวซึ่งเป็นพระศาสนจักรระดับบ้าน โดยยึดพระองค์เป็นศูนย์กลาง และติดตามพระองค์ทั้งในคำพูดและกิจการด้วยความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว
ประการที่สาม การเคารพเชื่อฟังและเลี้ยงดูบิดามารดา พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปยังนาซาเร็ธพร้อมครอบครัว ทรงเคารพเชื่อฟังและทรงทำงานช่างไม้ช่วยนักบุญยอแซฟเลี้ยงครอบครัว บุตรต้องเคารพเชื่อฟังและให้เกียรติบิดามารดา หนังสือบุตรสิราบอกเราว่า “บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน... บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า” (บสร 3:6, 16) บุตรมีหน้าที่ต่อบิดามารดา ดูแลและเลี้ยงดูท่านยามชรา ไม่ปล่อยให้อยู่ตามลำพังและตายอย่างโดดเดี่ยว
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เป็นโอกาสให้เราได้ไตร่ตรองถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของเรา การอยู่ร่วมกันของสมาชิกในครอบครัวเป็นเหมือนครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มากน้อยเพียงใด เรามีความรักต่อกันตามแบบอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ไหม  สามีภรรยาต้องรักและซื่อสัตย์ต่อกันจนวันตาย ตามคำสัญญาที่เราได้ให้ไว้  “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พ่อแม่สามารถให้แก่ลูกได้คือความรักที่พวกเขามีต่อกัน” (Anon)
สามีภรรยาต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการรับผิดชอบครอบครัว และทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตรซึ่งเป็นพระพรของพระเจ้าอย่างดี คนที่เป็นบุตรเช่นเดียวกัน ต้องเคารพเชื่อฟังบิดามารดา ไม่ทำให้ท่านเสียใจและกตัญญูดูแลท่านยามแก่เฒ่า ให้เราได้เลียนแบบครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่มีพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลาง ในการอธิษฐานภาวนาร่วมกันในครอบครัว เพื่อทำให้พระพรอันอุดม ความรัก และสันติสุขของพระองค์ปรากฎเป็นจริงในครอบครัวของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
30 ธันวาคม 2017
ภาพ: ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้คนเป็นตัวแสดง, ชุดประจำชาติเวียดนาม, อาสนวิหารฯ ท่าแร่, สกลนคร; 2017-12-23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น