วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2560

พระทรงบังเกิดและประทับท่ามกลางเรา

พระทรงบังเกิดและประทับท่ามกลางเรา
25 ธันวาคม
สมโภชพระคริสตสมภพ
(มิสซากลางวัน)
อสย 52:7-10
ฮบ 1:1-6
ยน 1:1-8
บทนำ
ก่อนวันคริสต์มาส ช่างทำรองเท้าคนหนึ่งได้ภาวนาและได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า “ในวันคริสต์มาสองค์พระเจ้าจะเสด็จมาเยี่ยมท่านที่ร้าน” ช่างทำรองเท้ามีความยินดีมาก เขาปัดกวาด ทำความสะอาดร้านเล็ก ๆ ของเขาโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เมื่อวันคริสต์มาสมาถึงเขาได้เตรียมอาหารกลางวันเผื่อองค์พระเจ้าที่จะเสด็จมาเยี่ยมด้วย วันนั้นเป็นวันแห่งความยินดี เขาใส่เสื้อผ้าชุดที่ดีที่สุดที่เขามีอยู่
หญิงชื่อเสียงไม่ดีคนหนึ่งได้เข้ามาในร้าน เขาต้อนรับอย่างดีและพูดจาสุภาพกับเธอ จนกระทั่งเธอจากไป เมื่ออยู่ตามลำพังเขาจินตนาการเกี่ยวกับองค์พระเจ้าและถามตนเองว่า “พระเยซูเจ้ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรหนอ” ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น มีหญิงยากจนคนหนึ่งกับบุตรชายที่ดูหิวโซเข้ามาหา เขาต้อนรับสองแม่ลูกอย่างดี หาอาหารให้กินจนอิ่ม และให้รองเท้าคู่ใหม่เป็นของขวัญคริสต์มาส ถึงตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าองค์พระเจ้าจะเสด็จมาบ้านเขาไหม
มีผู้คนมากมายแวะมาที่ร้านของเขา ที่สุด มีขี้เมาคนหนึ่งโผล่มา เขาเชิญกินอาหารที่เตรียมไว้สำหรับแขกสำคัญ เขารู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับทุกคน แต่รู้สึกผิดหวังที่พระองค์ไม่เสด็จมา เมื่อถึงเวลาอธิษฐานภาวนาเขาได้ถามพระองค์ว่า “ทำไมพระองค์ไม่เสด็จมาวันนี้ ลูกคอยพระองค์ทั้งวัน” เขาได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า “เราได้มาที่ร้านของท่านวันนี้ ไม่ใช่ครั้งเดียว แต่หลายครั้ง” คืนนั้น ช่างทำรองเท้าเข้านอนด้วยความสุขและยินดี เพราะเขาได้เห็นและต้อนรับองค์พระเจ้า
1.        พระทรงบังเกิดและประทับท่ามกลางเรา
วันพระคริสตสมภพเป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี ซึ่งทั่วโลกเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระกุมารเยซู ผู้เป็นของขวัญสุดประเสริฐจากพระเจ้า ทรงเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ที่เสด็จมาในโลกเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด พระองค์เกิดในสภาพยากจนเข็ญใจเพื่อแสดงถึงความนอบน้อมเชื่อฟังต่อพระประสงค์ของพระเจ้า และแสดงให้เห็นว่าความยากจนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความรักของพระเจ้า ข่าวดีแห่งการบังเกิดของพระองค์เป็นความชื่นชมยินดีของโลกทั้งมวล
พระเยซูเจ้าทรงเลือกเสด็จมาหาเราในสภาพขัดสนเพื่อสอนเราว่า ทรงรักเราโดยไม่มีเงื่อนไข และทรงต้องการแบ่งปันชีวิตของพระองค์กับเรา ทรงเป็นเหมือนเราทุกอย่างเว้นแต่บาป ดังนั้น คริสตสมภพเป็นวันฉลองแห่งความยินดี ความหวัง และสันติสุข เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ซึ่งบอกทุกคนให้ทราบว่า พระผู้ไถ่โลกได้บังเกิดแล้วและประทับท่ามกลางเรา เป็นต้นในคนยากจนขัดสนและต้องการความช่วยเหลือ
วันนี้เราทักทายกันด้วยคำอวยพรให้มีความสุข Merry Christmas” มีการแลกเปลี่ยนของขวัญและส่งคำอวยพร เป็นช่วงเวลาแห่งการแบ่งปันความสุขซึ่งกันและกัน เป็นความสุขแห่งความรักที่พระเจ้าได้แสดงให้เราเห็น ด้วยการส่งพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ให้มาบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับท่ามกลางเรา นี่คือ การแสดงความรักขั้นสูงสุดของพระเจ้าสำหรับเรา ทำให้โลกของเรามีความชื่นชมยินดี ความหวัง และสันติสุขอย่างเต็มเปี่ยม
2.        บทเรียนสำหรับเรา
คริสตสมภพเป็นวันแห่งความชื่นชมยินดีเปลี่ยนแปลงโลก และให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ประการแรก เป็นเวลาแห่งการแบ่งปัน การบังเกิดของพระเยซูเจ้าเป็นของขวัญสุดประเสริฐจากพระเจ้า ทรงเสด็จมาเพื่อแบ่งปันข่าวดีแห่งความรัก ความหวัง และสันติสุข เราต้องเป็นเหมือนคนเลี้ยงแกะซึ่งกลับไปเพื่อแบ่งปันข่าวดีที่ได้ยิน ปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากเป็นเหมือนพระกุมารเยซูที่ยากจนขัดสน กำลังทุกข์ระทม สิ้นหวัง และถูกตัดขาดจากสังคม โลกของเราจะน่าอยู่ หากเราแต่ละคนเรียนรู้จักให้และแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่น
ประการที่สอง เป็นเวลาแห่งการเดินในแสงสว่าง พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างแท้ ทรงขับไล่ความมืดและขจัดความขุ่นมัวให้หมดสิ้นไป เราต้องเดินในแสงสว่างของพระองค์ กลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองหันกลับมาหาพระเจ้า ดำเนินชีวิตในความถูกต้องชอบธรรม ปฏิบัติตามบทบัญญัติ และคำสอนของพระองค์ในชีวิตประจำวัน ชีวิตของเราต้องเป็นไฟที่ส่องสว่างและเป็นแสงแห่งความหวังสำหรับทุกคน
ประการที่สาม เป็นเวลาแห่งการเป็นพยาน เราต้องดำเนินชีวิตเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าในโลก ทั้งด้วยคำพูดและการกระทำ เลียนแบบอย่างพระนางมารีย์ที่เก็บทุกสิ่งไว้ในใจและไตร่ตรองออกมาในภาคปฏิบัติ ในความใส่ใจต่อความต้องการของผู้อื่น ในการรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความสุภาพถ่อมตน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การสมโภชพระคริสตสมภพ ไม่ใช่การฉลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อสองพันปีก่อนและผ่านไป แต่เป็นการฉลองการบังเกิดขององค์พระเจ้า ทรงรับเอากายและสามารถมองเห็นได้ และประทับท่ามกลางเรา เป็นต้นในเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ “แม้พระคริสต์เจ้าจะบังเกิดที่เบธเลเฮมเป็นพันครั้ง แต่จะไม่มีประโยชน์อะไรหากพระองค์ไม่ได้บังเกิดในใจของเรา” (Angelus Silesius)
คริสตสมภพต้องเป็นเวลาที่ความคิด กิจการ และชีวิตของเราประกาศถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า เรียนรู้ที่จะให้และแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้อื่น เราไม่เพียงประดับไฟบนต้นคริสต์มาสหรือบ้านเรือน แต่ต้องประดับใจของเราด้วยไฟแห่งความรัก ศิษย์พระคริสต์ต้องเรียนรู้การเป็นผู้ให้และแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่น ดำเนินชีวิตเป็นไฟส่องสว่าง และเป็นแสงแห่งความหวังสำหรับทุกคน สันติสุขในโลกจะบังเกิดขึ้น เมื่อเราดำเนินชีวิตคริสต์มาสทุกวัน” (Helen Steiner Rice)
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
24 ธันวาคม 2017
ภาพ: พระกุมารเยซูเยี่ยมผู้อาวุโสที่สุดของชุมชน, วัดป่าพนาวัลย์, ท่าแร่ สกลนคร; 2017-12-23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น