วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ตายแล้วไปไหน

ตายแล้วไปไหน
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 33 เทศกาลธรรมดา
1 มคบ 4:36-37, 52-59
ลก 19:45-48
คำถามที่มนุษย์ทุกยุคทุกสมัยแสวงหาคำตอบเสมอมาคือ ชีวิตมาจากไหน เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร และตายแล้วไปไหน  สำหรับเราคริสชนชัดเจนว่าชีวิตมาจากพระเจ้า ผู้เป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตและเป้าหมายสุดท้ายของเรา เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าในความรักต่อกัน ตามแบบอย่างที่พระองค์ทรงรักเรา ชีวิตในโลกนี้เป็นการเดินทางเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสุดท้ายคือ การอยู่กับพระเจ้า  ความตายมิใช่จุดจบของทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ความตายคือประตูที่เปิดไปสู่ชีวิตนิรันดร
เราเพิ่งสมโภชนักบุญทั้งหลายและภาวนาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ ซึ่งสะท้อนความเชื่อของเราถึงชีวิตหลังความตายว่า เรา “ผู้เป็น” ที่กำลังเดินทางอยู่ในโลกนี้ ยังคงเป็นหนึ่งเดียวกับ “ผู้ตาย” ที่ล่วงหน้าเราไปแล้ว ในสายสัมพันธ์แห่งความเชื่อและความรัก ผ่านทางการอธิษฐานภาวนาและพิธีบูชาขอบพระคุณที่เราระลึกถึงกัน ความตายเป็นประตูที่เปิดไปสู่อีกชีวิตหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง ซึ่งเริ่มแล้วตั้งแต่เวลาที่เรายังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
พระเยซูเจ้าทรงยืนยันว่าในพระอาณาจักรสวรรค์ มนุษย์จะได้เข้าร่วมแบบครอบครัวใหม่ที่ทุกคนเป็นพี่น้องกัน ทรงยืนยันความจริงนี้เมื่อมารดาและพี่น้องมาพบพระองค์ “ผู้ใดทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา” (มก 3:35) พระวรสารวันนี้ พวกสะดูสีซึ่งไม่เชื่อเรื่องการกลับคืนชีพของผู้ตายได้ตั้งปัญหาถามพระองค์ ทรงยืนยันอีกครั้งว่าหลังการกลับคืนชีพจะไม่มีการแต่งงานอีก “เขาจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์” (ลก 20:36)
เมื่อเราเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพของผู้ตาย เราต้องดำเนินชีวิตเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสุดท้าย ด้วยการทำดีหนีชั่ว สร้างบุญสร้างกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในความรักต่อกันตามแบบอย่างของพระคริสตเจ้า ในวาระสุดท้ายพระองค์จะไม่ถามว่า “เราได้ทำอะไรมาบ้าง” แต่จะถามว่า “เราได้รักเพื่อนพี่น้องของเราอย่างไร” นี่คือ บุญกุศลที่เราต้องสร้างขณะมีชีวิตอยู่ ซึ่งจะติดตัวเราไปตลอด และเป็นหลักประกันสำหรับการเข้าสู่พระอาณาจักรสวรรค์
ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตอย่างผู้กลับคืนชีพ ที่มีความเชื่อ ความหวัง และสันติสุขในจิตใจ รู้จักควบคุมความคิด คำพูด และความประพฤติของตนให้ถูกต้องชอบธรรม ไม่ปล่อยตัวตามกิเลสตัณหาและความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆ สิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีคุณค่าไม่ใช่อายุยืนยาว แต่อยู่ที่การกระทำของเรา ในความรักต่อกัน การแบ่งปัน และการรับใช้ซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นหลักประกันของการได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป เมื่อวาระสุดท้ายของเรามาถึง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
24 พฤศจิกายน 2017
ภาพ: การจุดเทียนบนหลุมศพผู้ล่วงลับ, สุสานอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่, สกลนคร; 2006-11-04

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น