ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 33
เทศกาลธรรมดา
ปี A
|
สภษ 31:10-13, 19-20, 30-31
1 ธส 5:1-6
มธ 25:14-30
|
บทนำ
โอกาสครบรอบ 25 ปีแห่งการปกครองของผู้นำ
ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ประชุมกันเตรียมจัดงานแสดงความยินดีและให้เกียรติ โดยตกลงให้แต่ละคนนำไวน์ที่ดีที่สุดมาเทรวมในถังใบใหญ่สำหรับแขกและผู้มาร่วมงาน
เมื่อถึงวันจัดงานผู้รับใช้ได้เปิดไวน์จากถังไปบริการ และแปลกใจมากที่สีของไวน์เหมือนน้ำ
เมื่อลองชิมดูปรากฏว่าเป็นน้ำจริงๆ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะแต่ละคนต่างคิดว่า “ถังใหญ่ขนาดนั้น
หากฉันนำน้ำมาเทใส่แทนที่จะเป็นไวน์คงไม่เป็นไร แถมประหยัดเงินด้วย”
พระวรสารวันนี้เตือนเราให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา ในการรักษาความเชื่อและทำให้เกิดผล
ทั้งในความคิด วาจา และกิจการ พระเยซูเจ้าทรงเล่าคำอุปมาเรื่องเงินตะลันต์
เพื่อเน้นถึงคำสอนเรื่องพระอาณาจักรสวรรค์ เราแต่ละคนจะต้องถูกพิพากษาตามการกระทำของเรา
เราต้องใช้ความสามารถและพระพรต่างๆ ที่ได้รับจากพระเจ้าอย่างผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์
ไม่เก็บซ่อนไว้ แต่การใช้มันเพื่อผู้อื่น ทำให้ชีวิตของเราพบความหมายที่แท้จริง
1.
ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์
คำอุปมาได้แสดงให้เห็นถึงเงินจำนวนมากที่ผู้รับใช้สามคนได้รับจากนาย
เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์ในระหว่างที่นายไม่อยู่ คนแรกได้รับห้าตะลันต์ คนที่สองสองตะลันต์
และคนที่สามหนึ่งตะลันต์ เงินหนึ่งตะลันต์มีมูลค่าคิดเป็นเงินไทยเท่ากับสองหมื่นบาท
นายมอบเงินให้แต่ละคนในจำนวนที่แตกต่างกันตามความสามารถ
สอดคล้องกับความเป็นจริงในโลกที่มนุษย์มีความสามารถแตกต่างกัน แต่ต่างได้รับมาเปล่าๆ
และมอบให้อยู่ในความดูแลของแต่ละคน
เมื่อนายกลับมาได้เรียกผู้รับใช้ทั้งสามมาตรวจบัญชี
สองคนแรกได้ทำประโยชน์และได้กำไรอีกเท่าตัวจากเงินที่ได้รับ ทำให้นายพึงพอใจมาก
ไม่ใช่จำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้น แต่ในวิธีบริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว เพราะได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อเงินที่ได้รับ
นายจึงไว้ใจและมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่ใหญ่กว่า เราแต่ละคนอาจมีความสามารถและได้รับพระพรแตกต่างกัน
แต่เวลาที่เรามีเท่าเสมอกัน รวมถึงความมานะพยายาม
ผู้รับใช้คนที่สามที่ได้รับหนึ่งตะลันต์ได้ทำในสิ่งตรงข้าม นำเงินไปฝังดินไว้และคอยนายกลับมา
เขาได้มอบเงินทั้งหมดให้นายแบบไม่ขาดไม่เกิน เขาเข้าใจถึงสิ่งที่นายคาดหวัง แต่ไม่กล้าเสี่ยงเพราะกลัวสูญเสียเงินทั้งหมด
เงินที่นายให้ไม่ก่อประโยชน์อะไร
ซ้ำร้ายนายได้ริบเงินจำนวนดังกล่าวและมอบแก่คนที่ได้รับมากที่สุด ความสามารถและพระพรต่างๆ
ที่เรามีมิใช่ทรัพย์สินส่วนตัวที่ต้องเก็บเอาไว้ แต่ต้องแบ่งปันเพื่อให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น
2.
บทเรียนสำหรับเรา
คำอุปมาในพระวรสารวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
พระพรที่ต่างกัน พระเจ้าทรงประทานพระพรแก่เราตามความสามารถของแต่ละคน
นายไม่ได้เรียกร้องสิ่งที่เกินความสามารถของผู้รับใช้
เราเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่ไม่เหมือนกัน
บททดสอบสำหรับเราคือได้ใช้ความสามารถที่มีอย่างไรบ้าง หน้าที่ของเรามิใช่การอิจฉาหรือเปรียบเทียบความสามารถที่มีกับผู้อื่น
แต่ต้องใช้ความสามารถและพระพรที่ได้รับอย่างรับผิดชอบและทำส่วนของตนให้ดีที่สุด
ประการที่สอง
คนที่ไม่พยายามย่อมได้รับโทษ ผู้รับใช้คนที่สามถูกประณามเพราะไม่พยายาม เขาคิดว่าอาจไม่คุ้มค่า กลัวสูญเสีย
และไม่กล้าเสี่ยง ในความเป็นจริง โลกของเราไม่ได้ประกอบด้วยอัจฉริยะที่ฉลาดปราดเปรื่อง
แต่เต็มไปด้วยคนธรรมดาอย่างเรานี่แหละ ที่ทำให้โลกดำเนินต่อไปได้และทำให้แผนการของพระเจ้าสำเร็จ
ดังคำกล่าวที่ว่า “พระเจ้ามิได้ทรงต้องการคนพิเศษเพื่อทำสิ่งพิเศษ
แต่ทรงต้องการคนธรรมดาที่ทำสิ่งธรรมดา แต่ทำอย่างพิเศษ”
ประการที่สาม ผู้ที่มีมากจะได้รับมากขึ้น นี่เป็นกฎธรรมดาของชีวิต
คนที่มีความรู้มาก ย่อมสามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นไปอีก
ในทางกลับกันคนที่มีความรู้หรือความสามารถน้อยแล้วไม่พยายามพัฒนา ที่สุดจะสูญเสียความรู้หรือความสามารถนั้นไป
เราไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ หากเราย่ำอยู่กับที่ขณะที่คนอื่นก้าวไปข้างหน้าเท่ากับเราถอยหลัง
ความรู้และความสามารถหากไม่ใช้และฝึกฝน ย่อมลืมและขาดทักษะ เราต้องพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นทุกวัน
วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระวรสารวันนี้พุ่งความสนใจไปที่ท่าทีของคริสตชนต่อชีวิตในโลก
ที่รอคอยการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า
คำอุปมาเรื่องเงินตะลันต์เตือนเราถึงความสามารถและพระพรที่พระเจ้าทรงประทานแก่เรา บางคนอาจได้รับห้าตะลันต์
สองตะลันต์ และหนึ่งตะลันต์ เราได้ใช้พระพรและความสามารถที่มีในการรับใช้พระเจ้าและผู้อื่นมากน้อยแค่ไหน
การเก็บซ่อนไว้คือการทำลายตัวเอง แต่การใช้มันเพื่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
ทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย
คริสตชนหลายคนอาจคิดว่าเพียงแค่มาวัดวันอาทิตย์ตามหน้าที่
และไม่มีเรื่องกับใคร เท่ากับเป็นคริสตชนที่ดีไปสวรรค์ได้ เรื่องราวผู้รับใช้ที่นำเงินตะลันต์ไปฝังดินเตือนเราว่าจะอยู่เฉยไม่ได้
เพราะนั่นไม่ใช่วิถีชีวิตของคริสตชน เราต้องเป็นผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ ทั้งต่อตัวเราเองและต่อพระพรต่างๆ
ที่เราได้รับจากพระเจ้า ใช้อย่างชาญฉลาดและทำให้เกิดผล ด้วยการแบ่งปันกับผู้อื่นเพื่อทำให้เกิดผลมากขึ้น
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล
ป่าพนาวัลย์
18 พฤศจิกายน 2017ภาพ: วันสมโภชแม่พระรับเกียรติเข้าสู่สวรรค์, หน้าวัดน้อยแม่พระ, วีโกเน, ตูริน อิตาลี; 2009-08-15
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น