วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562

บัญญัติแห่งความรัก

 บัญญัติแห่งความรัก 
ศุกร์ สัปดาห์ที่ 3
เทศกาลมหาพรต
ฮซย 14:2-10
มก 12:28-34
บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีได้ออกกฎเกณฑ์มากมายขยายความบทบัญญัติ ในสมัยพระเยซูเจ้ามีธรรมบัญญัติมากถึง 613 ข้อ ในหมู่ชาวยิวมีการถกเถียงกันมาช้านานว่า ธรรมบัญญัติข้อใดสำคัญที่สุด สำนักของอาจารย์ฮิลเลล (Hillel) พูดอย่างหนึ่ง ขณะที่สำนักของอาจารย์กามาลิเอล (Gamaliel) พูดอีกอย่าง พระวรสารวันนี้ธรรมาจารย์คนหนึ่งได้ถามพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ คำตอบของพระองค์ทำให้ทุกคนตาสว่างและเข้าใจถึงแก่นแท้ของบทบัญญัติ
พระเยซูเจ้ามิได้อ้างบทบัญญัติข้อใดข้อหนึ่งเพราะทุกข้อล้วนสำคัญ แต่พระองค์ทรงอ้างหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ 6:5 และหนังสือเลวีนิติ 19:18 “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่าน... และท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” นี่เป็นบทบัญญัติที่ประทานแก่ชาวอิสราเอล และสรุปในบทบัญญัติสิบประการที่ประทานแก่พวกเขาผ่านทางโมเสส
นี่คือบทสรุปของพระวรสาร หรือหลักคำสอนสำคัญของพระเยซูเจ้า แก่นแท้ของบทบัญญัติที่ประองค์ประกาศคือ รักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาและสุดกำลัง และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง (มก 12:30-31) พระองค์ทรงสรุปบทบัญญัติของพระเจ้าให้เหลือเพียงสองประการ และทรงยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีบทบัญญัติข้อใดยิ่งใหญ่กว่าบทบัญญัติสองประการนี้
หากเรารักพระเจ้าอย่างที่พระเยซูเจ้าบอก เราต้องทำทุกอย่างเพื่อพระองค์ แต่อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา เราได้ทำทุกอย่างในแต่ละวันเพื่อพระเจ้าบ้างไหม การรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองเช่นกัน บ่อยครั้งเราคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าเพื่อนมนุษย์หรือเปล่า เราได้ปฏิบัติกิจเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือหรือไม่
พระเยซูเจ้าทรงวางบทบัญญัติสองประการเข้าด้วยกัน ในความสัมพันธ์ที่มนุษย์มีต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ โดยทรงขยายความหมายของคำว่า “เพื่อนมนุษย์” ให้กว้างออกไปสู่มนุษย์ทุกคน เพราะทุกคนคือลูกของพระเจ้าที่ทรงรักโดยไม่แบ่งแยก ชีวิตมนุษย์ในโลกเป็นของประทานจากพระเจ้า เพื่อให้เราสามารถเติบโตในความรักของพระเจ้าและความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของบทบัญญัติและต้องไปด้วยกันเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน
นักบุญยอห์นอัครสาวกเป็นผู้ที่เข้าใจ และอธิบายความสัมพันธ์ของบทบัญญัติสองประการนี้ได้ดี โดยยืนยันกับศิษย์จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตว่า “จงรักกันและกัน” เพราะการรักเพื่อนมนุษย์เป็นหนทางนำไปสู่ความรักต่อพระเจ้า “หากผู้ใดกล่าวว่าข้าพเจ้ารักพระเจ้า แต่จงเกลียดจงชังพี่น้องของตน ผู้นั้นเป็นคนโกหก เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องผู้ที่เขามองเห็นได้ก็จะไม่สามารถรักพระเจ้าผู้ที่เขามองไม่เห็น” (1 ยน 4:20)
พระเยซูเจ้าทรงทำให้ความหมายของความรักนี้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยแบบอย่างแห่งความรักบนไม้กางเขน “นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันและกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน” (ยน 15:12)  ศิษย์พระคริสต์ถูกเรียกร้องให้รักกันตามมาตรฐานของพระเยซูเจ้า เพื่อใกล้ชิดและเข้าอยู่ในอาณาจักรของพระองค์ เทศกาลมหาพรตเป็นเวลาของการเดินในหนทางแห่งความรัก มองเห็นพระเจ้าในผู้อื่นและปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์เพื่อเห็นแก่ความรักต่อพระองค์
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561), หน้า 83-84.
ที่มาภาพ : http://www.heartjava.com/2015/10/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น