เทศกาลมหาพรต
40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน
เทศกาลมหาพรต คือช่วงเวลา 40 วันที่พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นช่วงเวลาของการเตรียมฉลองปัสกา เดิมทีเดียวมีระเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ภายหลังได้เพิ่มเข้ามาอีก
2 สัปดาห์รวมเป็น 5 สัปดาห์
โดยเริ่มต้นที่วันอาทิตย์
ต่อมาได้เพิ่มเข้ามาอีก
4 วันให้ครบ 40 วัน เพื่อเตือนใจให้ระลึกถึง 40 วันแห่งการจำศีลอดอาหารในถิ่นทุรกันดารของพระเยซูเจ้าก่อนจะเริ่มภารกิจของพระองค์ โดยเริ่มต้นที่วันพุธรับเถ้าอย่างในปัจจุบัน
ในระยะเริ่มแรก เทศกาลมหาพรตถือเป็นช่วงเวลาสำหรับการเตรียมผู้ที่จะรับศีลล้างบาปและการเฉลิมฉลองปัสกา ต่อมาภายหลังได้ถือเป็นช่วงเวลาของการเป็นทุกข์กลับใจและใช้โทษบาปสำหรับผู้ที่รับศีลล้างบาปแล้ว
เทศกาลมหาพรตเป็นเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิในพระศาสนจักร
เป็นช่วงเวลาของการเกิดใหม่และพื้นฟูชีวิตคริสตชน
เป็นเวลาพิเศษแห่งพระพรและการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนผ่านทาง การอธิษฐานภาวนาอย่างเพียรทน
การใช้โทษบาป และการช่วยเหลือแบ่งปันคนขัดสน ซึ่งพระศาสนจักรถือว่านี่คือหนทางที่ดีที่สุดของการมีส่วนในพระมหาทรมาน
การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
นักบุญเคลเมนต์กล่าวว่า
“การอดอาหารดีกว่าการอธิษฐานภาวนา” การอดอาหารจึงเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่งของพระศาสนจักรสำหรับการใช้โทษบาป
เพื่อคริสตชนจะได้รู้จักเพียงพอเรื่องการกินดื่ม รู้จักแบ่งปันและเห็นอกเห็นใจผู้ยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
จะได้มีสายตาในแบบเดียวกับพระเยซูเจ้า “เมื่อพระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชน
ก็ทรงสงสาร” (มธ 9:36) ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญในสารมหาพรตประจำปี
2006 ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16
การอดอาหารไม่ควรถือเป็นเรื่องล้าสมัยแต่ต้องกระทำควบคู่ไปกับกิจการดี ดังสุภาษิตอิตาลีที่ว่า “ใครที่อดอาหาร
แต่ไม่ประกอบการดีอื่น ช่วยประหยัดรายจ่ายของเขา แต่นำไปสู่นรก” (Who fasts, but does no
other good, saves his bread but go to Hell.) ดังนั้น เพื่อได้รับพระเมตตาจากพระเจ้าเราต้องแสดงออกให้เห็นถึงพระทัยดีและพระพักตร์ที่ทรงเมตตาของพระเยซูเจ้าต่อผู้อื่น
อเล็กซานเดอร์ โป๊ป กล่าวว่า “ผิดพลาดคือมนุษย์
อภัยไม่สิ้นสุดคือพระเจ้า” (To err is human, forgive Divine.)
นี่คือธรรมชาติมนุษย์ที่เราต้องยอมรับและสำนึกเสมอว่าเราเป็นคนบาป บาปนี่เองได้ส่งผลร้ายต่อตัวเราและสังคม
ทำให้ความสัมพันธ์อันดีของเรากับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องถูกตัดขาด แต่พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้กลับมาหาพระองค์ทางศีลแห่งการคืนดี
ซึ่งเป็นท่อธารแห่งพระพรที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักและการให้อภัยไม่สิ้นสุดของพระองค์
40
วันในเทศกาลมหาพรตจึงเป็นช่วงเวลาพิเศษแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน กลับใจและคืนดีกับพระเจ้า เถ้าที่โรยบนศีรษะของเราในวันพุธรับเถ้า
เป็นเครื่องหมายถึงความสำนึกในความต่ำต้อยของเราเอง อีกทั้งเตือนใจเราให้เอาใจใส่ในการฟังพระวาจาของพระเจ้า
“จงกลับใจและเชื่อพระวรสารเถิด” (มก 1: 15) พร้อมที่จะกลับใจใหม่และคืนดีกับพระองค์
การกลับใจและเชื่อข่าวดี
ย่อมพบอุปสรรคเหมือนพระเยซูเจ้าที่ถูกปีศาจทดลองในถิ่นทุรกันดาร เราคริสตชนไม่อาจหลีกพ้นการทดลองเช่นกัน เพื่อเอาชนะการทดลองและบรรลุถึงการกลับใจภายในที่ว่านี้
เราต้องถือมหาพรตด้วยการ
·
อธิษฐานภาวนามากกว่าที่เคยปฏิบัติ
·
พลีกรรมใช้โทษบาปด้วยการอดอาหาร อดสิ่งที่เราชอบหรือลดละเลิกสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ
· และปฏิบัติกิจเมตตาต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
ขอให้เราเริ่มต้นเทศกาลมหาพรตปีนี้ด้วยข้อตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
กลับใจ และเชื่อพระวรสาร แล้วพระเยซูเจ้าจะให้เรามีส่วนในความยินดีของพระองค์เมื่อวันสมโภชปัสกามาถึง
บทบรรณาธิการ, สารอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง,
ปีที่ 1 ฉบับที่ 7, (มีนาคม,
2549)
จากหนังสือ เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, หน้า 1-3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น