ทำไม ไม่จำศีลอดอาหาร
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา
|
ปฐก 27:1-5, 15-29
มธ 9:14-17
|
นักบุญยอห์น
บัปติสต์และศิษย์ของท่านเจริญชีวิตแบบนักพรต ด้วยการจำศีลอดอาหาร และเตือนประชาชนให้พลีกรรมใช้โทษบาป
นี่เป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปของบุคลากรทางศาสนา ชาวฟาริสีจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองครั้ง
ศิษย์ของยอห์นรู้สึกแปลกใจที่เห็นพระเยซูเจ้ากับบรรดาศิษย์ไม่จำศีลอดอาหาร
จึงตั้งปัญหาถามพระองค์ว่า “ทำไมพวกเราและพวกฟาริสีจำศีลอดอาหาร
แต่ศิษย์ของท่านไม่จำศีลเลย” (มธ 9:15)
การจำศีลอดอาหาร
เป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และทำให้เข้มแข็ง
เรียนรู้ที่จะบังคับความต้องการของเราเอง อีกทั้ง ยังเป็นโอกาสให้เราได้สละน้ำใจตนเองและคิดถึงผู้อื่น
ที่อดอยากไม่มีอะไรจะกิน อย่างที่เราพยายามทำตลอดเทศกาลมหาพรต แต่การจำศีลอดอาหารจะไม่มีประโยชน์อะไรหากเราไม่เปลี่ยนแปลงตนเอง
สำหรับพระเยซูเจ้า การจำศีลอดอาหารเป็นเครื่องหมายของความเป็นทุกข์
ความโศกเศร้า และการสำนึกผิด ในขณะที่การมาของพระองค์เป็นดังเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน ซึ่งเป็น เวลาแห่งความชื่นชมยินดี
ความรัก และอิสรภาพ พระศาสนจักรและเราแต่ละคนเป็นดังเจ้าสาวของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงรักเรา
เราได้ตอบสนองความรักของพระองค์อย่างไร พิธีบูชาขอบพระคุณเป็นเวลาพิเศษที่เราได้พบปะสนทนาและฟังเสียงคนที่เรารักหรือไม่
การจำศีลอดอาหารเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องสอดคล้องกับห้วงเวลา สถานที่ และกรณีแวดล้อม อีกทั้ง การจำศีลอดอาหารมิใช่เป้าหมายของทุกสิ่ง พระเยซูเจ้าได้พูดถึงวิถีชีวิตใหม่และแนวทางใหม่ซึ่งเข้ากันไม่ได้กับกฎเก่า
เปรียบดังเสื้อใหม่และเหล้าองุ่นใหม่
จะเอาไปปะเสื้อเก่าหรือใส่ในถุงหนังเก่าไม่ได้ สิ่งที่พระองค์นำมาเป็นข่าวดีใหม่และวิธีการใหม่
ในการสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า บนพื้นฐานของความเป็นพี่น้องและความรัก
มิใช่ความกลัว
เราถูกเรียกให้มามีชีวิตใหม่
ผ่านทางศีลล้างบาปเราได้เกิดใหม่ในพระเจ้า ผู้ทรงประทานจิตใจใหม่ในสายสัมพันธ์แห่งความรักกับพระองค์
เราจึงไม่ควรย้อนกลับไปหากฎเก่าและวิธีปฏิบัติแบบเดิมๆ
ซึ่งเป็นความเห็นแก่ตัวและเต็มไปด้วยค่านิยมแบบโลก เราต้องตายต่อบาปซึ่งเป็นมนุษย์เก่าในตัวเรา
เพื่อสวมใส่จิตใจใหม่ของพระองค์ ขอพระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำที่จืดชืดในชีวิตของเรา
ให้เป็นเหล้าองุ่นใหม่อย่างดีสำหรับผู้อื่น สังคม และหมู่คณะ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
7 กรกฎาคม 2017ภาพประกอบ: บาทหลวงท่าแร่กินข้าวป่า, ปากทวย นครพนม; 1997-10-05
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น