บุญราศียอแซฟ อุทัย พองพูม
ในบรรดาบุญราศีลาว 17 องค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง ณ อาสนวิหารพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า เวียงจันทน์ วันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) มีคนไทยอยู่ด้วยหนึ่งคนคือ บุญราศียอแซฟ
อุทัย พองพูม สัตบุรุษวัดนักบุญยอแซฟ คำเกิ้ม เป็นครูคำสอนและผู้ช่วยคนสำคัญของคุณพ่อโนแอล
เตอโน ก่อนพลีชีพเป็นมรณสักขีด้วยกันใกล้เมืองพะลานเขตเซโปน แขวงสะหวันนะเขต และได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีในคราวเดียวกัน
อุทัย พองพูม เกิดที่บ้านคำเกิ้ม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง
จังหวัดนครพนม หมู่บ้านคริสตชนเก่าแก่ที่เคยเป็นศูนย์กลางของการแพร่ธรรมในอดีต เราไม่ทราบแน่ชัดว่าอุทัย
พองพูมเกิดเมื่อไหร่ เนื่องจากไม่พบหลักฐาน มีเพียงเอกสารศีลสมรสที่อ้างถึงวันที่ได้รับศีลล้างบาป วันสมโภชพระคริสตสมภพ 25 ธันวาคม ค.ศ.
1933 (พ.ศ. 2476) ที่วัดนักบุญยอแซฟ คำเกิ้ม โดยเป็นบุตรของเปาโล
เครือกับอันนา ผาน พองพูม
วัดนักบุญยอแซฟ คำเกิ้ม หลังที่ 2 ซึ่งอุทัย พองพูมได้รับศีลล้างบาป
ในห้วงเวลาเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และกรณีพิพาทอินโดจีน ค.ศ. 1940 (พ.ศ. 2483) บรรดาธรรมทูตชาวฝรั่งเศสถูกขับไล่ออกนอกประเทศ
รวมถึงคุณพ่อโนแอล เตอโน เจ้าอาวาสวัดคำเกิ้ม วัดวาอารามถูกปิดและเกิดการเบียดเบียนศาสนา
เด็กชายอุทัย พองพูม วัย 7 ขวบ รับรู้ถึงบรรยากาศแห่งความยากลำบากเคียงข้างบิดา
เมื่อสงครามและการเบียดเบียนศาสนาสิ้นสุดลง ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488)
เด็กชายอุทัย พองพูมในวัย 12 ปีได้ถูกส่งเข้าบ้านเณรหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษา อุทัย พองพูมได้ออกจากบ้านเณรกลับมาใช้ชีวิตที่คำเกิ้ม ช่วยงานครอบครัวและพระศาสนจักรด้วยการเป็นครูคำสอน ต่อมาได้พบรักและแต่งงานกับมารีอา คำตัน ทองคำ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1953 (พ.ศ. 2496) หลังจากนั้นภรรยาได้ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรสาว แต่ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจและเศร้าสลดอย่างยิ่งเมื่อภรรยาเสียชีวิตขณะให้กำเนิด และ 3 เดือนต่อมาบุตรสาวได้เสียชีวิตตามมารดา
หลักฐานการรับศีลสมรสของอุทัย พองพูม ซึ่งเป็นหลักฐานเดียวที่มีอยู่
หลังจากนั้นประมาณ 1 ปี คุณพ่อโนแอล เตอโนอดีตเจ้าอาวาสซึ่งเป็นอุปสังฆราชมิสซังท่าแขก
ได้กลับไปเยี่ยมสัตบุรุษที่คำเกิ้ม และกำลังต้องการบุคลากรไปช่วยงานแพร่ธรรมในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของมิสซังใหม่
คุณพ่อโนแอล เตอโนได้ชักชวนครูอุทัย พองพูมไปเป็นครูคำสอนที่ประเทศลาว และได้กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการสอนคำสอน เยี่ยมเยียนชาวบ้าน
และให้ความช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนและเจ็บป่วยตามหมู่บ้านต่างๆ
โดยเฉพาะที่บ้านป่งกิ่ว เมืองหนองบก แขวงคำม่วน ค.ศ. 1955-1958 (พ.ศ. 2498-2501) เป็นเวลา 4 ปี
ประมาณเดือนเมษายน ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) คุณพ่อโนแอล เตอโนได้เดินทางกลับประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา
1 ปี ถือเป็นห้วงเวลาแห่งการทดลองของครูอุทัย พองพูม ทำให้ตัดสินใจเดินทางกลับคำเกิ้มบ้านเกิด
และได้พบกับคุณพ่อมีคาแอล เกี้ยน เสมอพิทักษ์ ที่ไปถวายมิสซาที่วัดคำเกิ้ม ต่อมาเมื่อได้รับการแต่งตั้งและอภิเษกเป็นพระสังฆราชมิสซังท่าแร่
ได้ชักชวนครูอุทัย พองพูมไปอยู่ด้วยเพื่อเป็นกำลังสำคัญในทีมแพร่ธรรม (Ad
gentes)
คุณพ่อโนแอล เตอโน ผู้เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของครูอุทัย พองพูม
ครูอุทัย พองพูมอยู่กับพระสังฆราชเกี้ยน
เสมอพิทักษ์เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อคุณพ่อโนแอล เตอโนกลับจากประเทศฝรั่งเศส และได้รับมอบหมายให้บุกเบิกเขตแพร่ธรรมใหม่ในแขวงสะหวันนะเขต
ได้ไปขอครูอุทัย พองพูมจากพระสังฆราชเกี้ยน เสมอพิทักษ์ เมื่อพ่อลูกพบหน้ากันต่างร้องไห้กอดกันกลม
คุณพ่อโนแอล เตอโนได้พูดกับครูอุทัย พองพูมว่า “เราจะตายด้วยกันและไปสวรรค์ด้วยกัน”
เหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าจะเป็นมรณสักขีด้วยกัน
ที่สุด ครูอุทัย พองพูมได้ติดตามคุณพ่อโนแอล เตอโนไปประเทศลาวอีกครั้ง
เพื่อแพร่ธรรมเขตเมืองเชโปนที่ยังไม่มีวัดและคริสตชนเลย เดือนเมษายน ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) ขณะที่คุณพ่อโนแอล เตอโนและครูอุทัย
พองพูมกำลังเยี่ยมเยียนคริสตชนสำรองระหว่างสะหวันนะเขตกับเซโปน
ทหารเวียดนามเหนือได้จับตัวท่านทั้งสองและมอบให้ทหารลาว(คอมมิวนิสต์)ใกล้เมืองพะลาน
และไม่มีใครได้พบท่านทั้งสองอีกเลย สันนิษฐานว่าทั้งสองถูกยิงเสียชีวิต วันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) นับเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายที่ไม่มีวันกลับ
บุญราศียอแซฟ อุทัย พองพูม ได้ดำเนินชีวิตซื่อสัตย์ต่อความเชื่อคริสตชน
รับใช้ประชากรของพระเจ้าอย่างกล้าหาญ และสละชีวิตเป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซูเจ้า เพื่อทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความรักของพระเจ้าและข่าวดีแห่งสันติสุข
ความยุติธรรม ความรักเมตตา และการให้อภัยที่พระเยซูเจ้าทรงสอน
ท่านได้เลียนแบบพระอาจารย์เจ้าจนถึงที่สุดคือความตายบนไม้กางเขน และได้แสดงให้เห็นว่าความตายมิใช่สิ่งที่น่ากลัวและสูญเปล่า
แต่ได้กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่ทำให้พระศาสนจักรเติบโตและเกิดผล
แม้เราจะพบข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับยอแซฟ อุทัย พองพูมน้อยมาก
แต่เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่าท่านและเพื่อนมรณสักขีอีก 16
ท่านได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสให้เป็น “บุญราศี”
อันเป็นวีรกรรมที่ควรยกย่องและเป็นความชื่นชมยินดีของพระศาสนจักรทั้งมวล โดยเฉพาะต่อคริสตชนวัดนักบุญยอแซฟคำเกิ้มและคริสตชนในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง
ที่ควรเลียนแบบวีรกรรมของท่านอย่างซื่อสัตย์และกล้าหาญ อีกทั้ง วอนขอพระพรจากพระเจ้าผ่านทางคำเสนอวิงวอนของท่าน
ให้สามารถสานต่อมรดกทางความเชื่อนี้สืบไป
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
30 มีนาคม 2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น