เวลาแห่งความรัก
วันศุกร์
หลังวันพุธรับเถ้า
|
อสย 58:1-9ก
มธ 9:14-15
|
ครั้งหนึ่งมีคนถามไอน์สไตน์ว่า “ทฤษฎีสัมพัทธภาพคืออะไร”
ไอน์สไตน์ อธิบายว่า “หนึ่งชั่วโมงกับสาวงาม ดูเหมือนเวลาผ่านไปเร็วเหมือนหนึ่งนาที
แต่ถ้าเราถูกทำโทษให้นั่งบนเตาผิงเพียงหนึ่งนาที เรามีความรู้สึกว่ามันนานเป็นชั่วโมง
นี่แหละคือ สัมพัทธภาพของโลกและจักรวาล”
การจำศีลอดอาหาร เป็นหนึ่งในสามเสาหลัก
(การภาวนา การจำศีลอดอาหาร และการให้ทาน) ที่พระศาสนจักรเรียกร้องเป็นพิเศษในเทศกาลมหาพรต
การอดอาหารไม่ใช่เพียงการไม่กินอาหารที่เคยกินเท่านั้น
แต่ยังหมายถึงกิจการดีทุกอย่างที่ออกมาจากจิตใจที่สำนึกผิด เพื่อชดเชยความผิดที่ตนเองได้กระทำ
และดำเนินชีวิตอย่างเที่ยงธรรม ตรงไปตรงมา
โดยไม่หวังให้ใครเห็นหรือได้รับการตอบแทน
การจำศีลอดอาหารจะไม่มีประโยชน์อะไร
หากเรายังเอารัดเอาเปรียบคนอื่น
ทะเลาะเบาะแว้ง และปฏิบัติต่อกันอย่างอยุติธรรม ประกาศกอิสยาห์ได้เตือนเราในบทอ่านแรกว่า
การจำศีลอดอาหารแบบนี้ไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ตรงข้าม
การปลดปล่อยผู้ถูกจองจำอย่างอยุติธรรม การแบ่งปันและช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือต่างหากคือ
สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย
ชาวยิวให้ความสำคัญกับการจำศีลอดอาหารมาก
เมื่อเห็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าไม่ถือปฏิบัติ ศิษย์ของยอห์น บัปติสต์ได้มาถามพระองค์ว่า
“ทำไม... ศิษย์ของท่านไม่จำศีลเลย” (มธ 9:14) พระเยซูเจ้าทรงตรัสเปรียบเทียบว่า เวลาที่พระองค์อยู่กับศิษย์เป็นความชื่นชมยินดีเหมือนการไปร่วมงานแต่งงาน
การประทับอยู่ของพระองค์เป็นดัง “เจ้าบ่าว” ในงานมงคลสมรส ซึ่งเป็นเวลาแห่งความรัก
ความสุข และความยินดี
เรามีแนวโน้มทำให้เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาแห่งความเศร้า
เครียดแค้นชิงชัง หรือเวลาแห่งความรัก สำหรับพระเยซูเจ้า เทศกาลนี้เป็น “เวลาแห่งความรัก”
ที่ “เจ้าบ่าวยังอยู่กับเขา” พระเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางเรา
เทศกาลมหาพรตเป็นเวลาพิสูจน์ความรักแท้ที่เรามีต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง อีกทั้ง
ทำให้ชีวิตของเราสวยงามผ่านทางกิจการดีต่างๆ ที่เรากระทำและแสดงออกต่อกันในชีวิตประจำวัน
เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
2 มีนาคม 2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น