วันศุกร์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต
|
ฮซย 14:2-10
มก 12:28-34
|
มีเรื่องเล่าว่า บั้นปลายชีวิตของนักบุญยอห์น อัครสาวกและผู้นิพนธ์พระวรสาร ซึ่งชราภาพมากไม่มีเรี่ยวแรง
เวลาประชุมต้องมีผู้หามไปยังที่ประชุม และไม่สามารถเทศน์สอนเป็นเวลานานได้
ท่านมักพูดซ้ำด้วยคำพูดสั้นๆ ว่า “ลูกรัก จงรักกันและกัน”
พวกศิษย์รู้สึกเบื่อหน่ายกับคำพูดเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมานี้
และถามว่าทำไมไม่พูดอย่างอื่นบ้าง ท่านตอบพวกเขาว่า “จงรักกันและกัน แค่นี้เพียงพอแล้ว”
บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีได้ออกกฎเกณฑ์มากมายขยายความบทบัญญัติ
ในสมัยพระเยซูเจ้ามีธรรมบัญญัติมากถึง 613 ข้อ ในหมู่ชาวยิวมีการถกเถียงกันมาช้านานว่าธรรมบัญญัติข้อใดสำคัญที่สุด
สำนักของอาจารย์ฮิลเลล (Hillel) พูดอย่างหนึ่ง ขณะที่สำนักของอาจารย์กามาลิเอล (Gamaliel) พูดอีกอย่าง และพระวรสารวันนี้ธรรมาจารย์คนหนึ่งได้ถามพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้
คำตอบของพระเยซูเจ้าทำให้ทุกคนตาสว่างและเข้าใจถึงแก่นแท้ของบทบัญญัติ
พระเยซูเจ้าไม่ได้อ้างบทบัญญัติข้อใดข้อหนึ่ง
เพราะทุกข้อล้วนสำคัญ แต่ทรงอ้างหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ 6:5 และหนังสือเลวีนิติ
19:18 “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่าน...
และท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ทรงประทานแก่ชาวอิสราแอล
และสรุปในบทบัญญัติสิบประการที่ทรงประทานแก่พวกเขาผ่านทางโมเสส
นี่เป็นบทสรุปของพระวรสารหรือหลักคำสอนสำคัญของพระเยซูเจ้า
แก่นแท้ของบทบัญญัติที่ทรงประกาศคือ รักพระเจ้าสิ้นสุดจิตใจ สุดวิญญาณ
สุดสติปัญญาและสุดกำลัง และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง (มก 12:30-31) พระองค์ทรงสรุปบทบัญญัติของพระเจ้าให้เหลือเพียงสองประการ และทรงยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีบทบัญญัติข้อใดยิ่งใหญ่กว่าบทบัญญัติสองข้อนี้
หากเรารักพระเจ้าอย่างที่พระเยซูเจ้าบอก
เราต้องทำทุกอย่างเพื่อพระองค์ แต่อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา
เราได้ทำทุกอย่างในแต่ละวันเพื่อพระเจ้าบ้างไหม
การรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองเช่นกัน
บ่อยครั้งเราคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าเพื่อนพี่น้องหรือเปล่า
เราได้ปฏิบัติกิจเมตตาต่อเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือหรือไม่
พระเยซูเจ้าทรงวางบทบัญญัติสองประการเข้าด้วยกัน
ในความสัมพันธ์ที่มนุษย์มีต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยทรงขยายความหมายของคำว่า
“เพื่อนมนุษย์” ให้กว้างออกไปสู่มนุษย์ทุกคน เพราะทุกคนเป็นลูกของพระเจ้าที่ทรงรักโดยไม่แบ่งแยก
ชีวิตมนุษย์ในโลกเป็นของประทานจากพระเจ้า เพื่อให้เราสามารถเติบโตในความรักของพระเจ้าและความรักต่อเพื่อนมนุษย์
ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของบทบัญญัติ และต้องไปด้วยกันเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน
นักบุญยอห์นอัครสาวกเป็นผู้ที่เข้าใจ
และอธิบายความสัมพันธ์ของบทบัญญัติสองประการนี้ โดยยืนยันกับศิษย์จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตว่า
“จงรักกันและกัน” เพราะการรักเพื่อนมนุษย์เป็นหนทางนำไปสู่ความรักต่อพระเจ้า
“หากผู้ใดกล่าวว่าข้าพเจ้ารักพระเจ้า แต่จงเกลียดจงชังพี่น้องของตน
ผู้นั้นเป็นคนโกหก เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องผู้ที่เขามองเห็นได้ก็จะไม่สามารถรักพระเจ้าผู้ที่เขามองไม่เห็น”
(1 ยน 4:20)
พระเยซูเจ้าทรงทำให้ความหมายของความรักนี้ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยแบบอย่างแห่งความรักของพระองค์บนไม้กางเขน
“นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันและกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน”
(ยน 15:12) ศิษย์พระคริสต์ถูกเรียกร้องให้รักตามมาตรฐานของพระเยซูเจ้า เพื่อชิดสนิทและเข้าอยู่ในอาณาจักรของพระองค์
ดังนั้น เทศกาลมหาพรตเป็นเวลาของการเดินในหนทางแห่งความรักของพระเจ้า ด้วยการมองเห็นพระเจ้าในผู้อื่นและปฏิบัติต่อเพื่อนพี่น้อง
เพื่อเห็นแก่ความรักต่อพระองค์
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
23 มีนาคม 2017ที่มาภาพ: http://dustoffthebible.com/Blog-archive/2016/11/06/daily-bible-reading-devotional-mark-1228-34-november-6-2016/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น