วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

พยานของพระเยซูเจ้า



 พยานของพระเยซูเจ้า 
วันพฤหัสบดี
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต
อพย 32:7-14
ยน 5:31-47
การที่พระเยซูเจ้ารักษาคนเจ็บป่วยในวันสับบาโตและเอ่ยนามพระบิดาเจ้า ทำให้ชาวยิวรับไม่ได้และไม่เชื่อพระองค์ พระวรสารวันนี้เราได้เห็นพระเยซูเจ้าเอ๋ยนามพยานทั้งห้า เพื่อยืนยันความจริงเกี่ยวกับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธกิจแห่งพระเจ้าในตัวพระองค์ พยานเหล่านี้ได้ประกาศว่าพระองค์เป็นพระผู้ไถ่ และได้เป็นพยานถึงความจริงเกี่ยวกับพระองค์ เพื่อประชาชนจะได้ยอมรับและเชื่อในพระองค์
พยานแรก พระบิดาเจ้า ผู้ส่งพระเยซูเจ้ามา งานที่พระองค์ทรงกระทำอยู่เป็นเครื่องยืนยันว่าพระบิดาได้ทรงส่งพระองค์มา เฉพาะผู้ที่มีพระวาจาของพระเจ้าในจิตใจเท่านั้นสามารถเห็นถึงการเป็นพยานของพระบิดาเจ้า “พระบิดาทรงส่งเรามายังทรงเป็นพยานถึงเราอีกด้วย” (ยน 5: 31)
พยานที่สอง ยอห์น บัปติสต์ ซึ่งเป็นพยานบุคคลที่ประชาชนยอมรับ ยอห์นได้ชี้ให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าคือผู้ที่เสด็จมา “นี่คือลูกแกะพระเจ้า” อีกทั้งยังบอกให้ศิษย์ของท่านติดตามพระองค์ในฐานะผู้นำคนใหม่ ส่วนท่านเป็นแต่เพียงผู้นำทางหรือเสียงร้องในถิ่นทรกันดาร “พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง” (ยน 3:30)
พยานที่สาม งานที่น่ามหัศจรรย์ ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ อาทิ การรักษาคนเจ็บป่วย อัศจรรย์และเครื่องหมายต่างๆ เหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่าพระเยซูเจ้ายิ่งใหญ่กว่ายอห์น พระองค์คือพระเจ้าที่เท่าเสมอพระบิดา งานที่ทรงกระทำประกาศตัวมันเองเพราะ “เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้จากผลของต้นไม้นั้น” (ลก 6: 44)
พยานที่สี่ หนังสือพระคัมภีร์ ได้แก่ เพลงสดุดี หนังสือปรีชาญาณ และหนังสือประกาศก พระเยซูเจ้าทรงบอกผู้ฟังของพระองค์ให้แสวงหาความจริงในพระคัมภีร์ที่อ้างถึงพระองค์ การเสด็จมาของพระองค์เป็นการทำให้คำทำนายเกี่ยวกับพระองค์ในพันธสัญญาเดิมเป็นความจริง
พยานที่ห้า โมเสส พระเยซูเจ้าได้อ้างประกาศกผู้ยิ่งใหญ่อย่างโมเสส ผู้ประทานบัญญัติแก่ชาวยิว โมเสสได้อ้างถึงการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ ซึ่งพระเยซูเจ้าได้เตือนพวกเขาว่าข้อความตอนนี้เขียนถึงพระองค์ อีกทั้งในการจำแลงพระกายที่ภูเขาทาบอร์ โมเสสและเอลียาห์ได้ปรากฏมาหาพระองค์
พยานที่พระเยซูเจ้าอ้างคือคำตอบสำหรับชาวฟาริสี ที่ปฏิเสธการรักษาคนเจ็บป่วยในวันสับบาโตของพระองค์ ทำให้พวกเขาได้รู้ถึงพระญาณสอดส่องและความรักที่ห่วงใยของพระเจ้า ความเชื่อของเราคริสตชนในองค์พระเยซูเจ้าอยู่ในระดับใดของชีวิต หากอยู่เพียงระดับความรู้ทางสติปัญญาเหมือนฟาริสี มหาพรตคงคงเป็นเพียงการปฏิบัติตามปฏิทินของพระศาสนจักร ไม่ได้มีคุณค่าใดๆ ต่อชีวิตของเรา
ดังนั้น ศิษย์พระคริสต์ต้องแสวงหาความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าเพื่อรักพระองค์ให้มากขึ้น อย่างนักบุญอัลแซล์มนักปราชญ์ของพระศาสนจักร พระเจ้าอาจใช้เราเป็นเครื่องมือเพื่อให้คนอื่นรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์ บางทีพระองค์อาจใช้คนอื่นเพื่อสอนหรือช่วยแก้ไขเราให้ถูกต้อง บนหนทางแห่งความรอดและถูกต้องชอบธรรม ทำให้เทศกาลมหาพรตมีความหมายสำหรับชีวิตเรามากกว่าทุกปี
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
29 มีนาคม 2017

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น