บิดาผู้ใจดีและให้อภัย
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต
|
มคา 7:14-15, 18-20
ลก 15:1-3, 11-32
|
คำอุปมาเรื่อง “ลูกล้างผลาญ” (The prodigal son) ที่เราได้ยินในพระวรสารวันนี้ ถือเป็นคำอุปมาที่กินใจและถูกกล่าวถึงมากที่สุดในบรรดาคำอุปมาของพระเยซูเจ้า
แต่ที่ถูกต้องควรเรียกว่า
“บิดาผู้ใจดีและให้อภัย” เพราะผู้ที่เป็นพระเอกในเรื่องไม่ใช่บุตรแต่เป็นบิดา คำอุปมาได้กล่าวถึงชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน บุตรคนเล็กได้ขอให้บิดาแบ่งสมบัติส่วนที่เป็นของตน
จากนั้นได้เดินทางไปต่างแดนใช้ชีวิตเสเพลล้างผลาญสมบัติจนหมดสิ้น ขณะที่บุตรคนโตยังคงอยู่กับบิดา
ตามกฎหมายยิวบิดาไม่อาจยกสมบัติให้ใครตามใจชอบ ต้องยกสมบัติ
2/3 ส่วนให้บุตรชายคนโต และ 1/3 ส่วนให้บุตรชายคนเล็ก
(ฉธบ 21:17) เนื่องจากธรรมเนียมยิวยกย่องบุตรชายหัวปี และเป็นธรรมดาที่บิดาจะแบ่งมรดกให้บุตรขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่มรดกจะตกแก่บุตรเมื่อบิดาตายแล้ว ดังนั้น การที่บุตรคนเล็กขอให้แบ่งสมบัติและยกให้ตนขณะที่บิดายังมีชีวิตอยู่ เป็นการไม่ให้เกียรติบิดา (เท่ากับแช่งให้ตาย)
คำอุปมาได้แสดงให้เห็นถึงชีวิตตกต่ำที่สุดของบุตรคนเล็ก
เขากลายเป็นคนเลี้ยงหมูซึ่งเป็นสัตว์สกปรก (ลวต 11:7) ชาวยิวที่เคร่งศาสนาจะไม่ทำอาชีพนี้โดยเด็ดขาด
ทำให้เขาคิดถึงบิดาและตัดสินใจกลับบ้าน
โดยตั้งใจขอให้บิดารับเขาเป็นเหมือนคนรับใช้ในตำแหน่งที่ต่ำที่สุด ในบ้านชาวยิวมีคนรับใช้อยู่สามประเภทคือ
“บ่าว” ซึ่งเกือบจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว อีกประเภทหนึ่งคือ “ลูกน้องของบ่าว”
ซึ่งทำงานหนักกว่า และสุดท้ายที่มีฐานะต่ำสุดคือ “ลูกจ้างรายวัน” ซึ่งอาจถูกให้ออกเมื่อไหร่ก็ได้
ความจริงบุตรคนเล็กต้องการขอเป็นเพียงคนรับใช้ที่มีฐานะต่ำสุด
แต่เขาไม่มีโอกาสขอให้บิดาทำเช่นนั้น (ลก 15:21) เพราะบิดาตัดบทและสั่งให้คนรับใช้ต้อนรับเขาด้วยของสามอย่าง
(ลก 15:22) ดังต่อไปนี้
1) เสื้อ หมายถึงเกียรติยศ
เป็นการให้เกียรติบุตรที่กลับมา
2) แหวน หมายถึงความเป็นใหญ่
เป็นการให้อำนาจดูแลทรัพย์สินทั้งหมดแก่เขา
3) รองเท้า หมายถึงฐานะการเป็นบุตร
ในครอบครัวยิวมีแต่บุตรเท่านั้นที่สวมรองเท้า (ส่วนคนรับใช้เดินเท้าเปล่า)
คำอุปมานี้เกิดจากสถานการณ์ที่พระเยซูเจ้าถูกวิจารณ์ว่า
“เป็นมิตรกับคนเก็บภาษีและคนบาป” คำอุปมานี้ได้แสดงให้เห็นถึงท่าทีของพระเจ้าต่อคนบาป
ประการแรก พระเจ้าทรงต้องการคนบาป แม้มนุษย์กระทำชั่วแต่พระเจ้ายังต้องการเขาอยู่
ด้วยการส่งพระบุตรมาไถ่บาปเพื่อให้เขาได้เดินในหนทางแห่งความรอด
ประการที่สอง พระเจ้าเฝ้ารอการกลับมาของคนบาป แสดงถึงความรักยิ่งใหญ่และการอภัยไม่สิ้นสุดของพระเจ้าที่ไม่จดจำความผิด
แต่เพียรทนรอคอยวันที่เขากลับใจมาหาพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงเล่าคำอุปมานี้สำหรับเราแต่ละคน เราคือบุตรคนเล็กที่เป็นคนบาปและหนีห่างจากพระเจ้า
เราได้รับพระพรมากมายเพื่อช่วยให้เอาตัวรอดไปสวรรค์
แต่เราได้ใช้ชีวิตในบาปเช่นเดียวกับบุตรคนเล็ก เราต้องกลับมาหาพระองค์ทุกวัน
การเดินทางกลับบ้านเป็นการเดินทางฝ่ายจิตที่แสดงถึงการกลับใจอย่างแท้จริง แสดงถึงการละทิ้งบาปและความทุกข์ที่เป็นผลของบาปเพื่อกลับมาหาพระองค์
คำอุปมาได้แสดงให้เราเห็นว่าบิดาไม่เคยละทิ้งบุตร แต่ตั้งตาคอยและเฝ้ารอการกลับมาของบุตรทุกวัน
ไม่เพียงบาปของบุตรคนเล็กที่ทำให้เขาถอยห่างจากบิดา
แต่เป็นความเกลียดชังของบุตรคนโต ที่ไม่ยอมให้อภัยน้องและถือตัวว่าตนเองเป็นคนชอบธรรม
ความผิดพลาดยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือ การที่เขาไม่สำนึกว่าตนเองมีความผิด การถือตัวว่าเป็นคนชอบธรรมและดีกว่าคนอื่น ได้ตัดเขาจากพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เรายอมรับเพื่อนพี่น้องและให้อภัยกันด้วยใจกว้าง ใช้เวลาพิเศษในเทศกาลมหาพรตนี้กลับใจมาหาพระองค์
และเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่เสมอ
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
17 มีนาคม 2017
ที่มาภาพ:
https://larrydixon.wordpress.com/2012/01/19/a-brief-discussion-of-the-prodigal-son-luke-15/
ที่มาภาพ:
https://larrydixon.wordpress.com/2012/01/19/a-brief-discussion-of-the-prodigal-son-luke-15/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น