สวนองุ่นของพระเจ้า
วันศุกร์
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต
|
ปฐก 37:3-4, 12-13ก, 17ข-28
มธ 21:33-43, 45-46
|
การทำสวนองุ่นเป็นวิธีดำรงชีพทั่วไปในดินแดนปาเลสไตน์ แต่สถานการณ์และความยากลำบากในสมัยนั้น
ทำให้เจ้าของที่ดินไปหาที่อยู่ใหม่ที่สงบสุขมากกว่า ปล่อยให้คนเช่าสวนทำประโยชน์และเก็บค่าเช่า
ซึ่งอาจกำหนดเป็นตัวเงินหรือส่วนแบ่งพืชผลที่เก็บได้ตามแต่จะตกลงกัน เหตุการณ์ที่กล่าวถึงในคำอุปมาเรื่องคนเช่าสวนที่ชั่วร้าย เป็นไปได้ว่าคนเช่าสวนไม่ยอมจ่ายค่าเช่าและทุบตีตัวแทนของเจ้าของสวน
บางทีใช้วิธีรุนแรงเพื่อยึดที่ดินมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตน
เรื่องราวของโยเซฟที่ถูกพวกพี่ชายขายไปเป็นทาสในดินแดนอียิปต์ในบทอ่านแรก เป็นภาพพจน์ของพระเยซูเจ้าที่ถูกยูดาสทรยศและขายเป็นเงินสามสิบเหรียญ พระวรสารวันนี้ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับตัวพระองค์อย่างเด่นชัด
สวนองุ่นหมายถึงชนชาติอิสราแอล เจ้าของสวนคือพระเจ้า คนเช่าสวนคือพวกคณะสงฆ์และชาวฟาริสี
ผู้รับใช้ที่ถูกส่งมาคือบรรดาประกาศกที่ไม่ได้รับการต้อนรับ ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามบางคนถูกฆ่าตาย
ส่วนบุตรหมายถึงพระเยซูเจ้าที่ไม่ได้รับการต้อนรับและถูกฆ่าตายเช่นกัน
คำอุปมานี้ได้ให้บทเรียนแก่เราเรื่อง
“สิทธิพิเศษของมนุษย์” มัทธิวได้ให้รายละเอียดว่าเจ้าของสวนได้ทำสิ่งที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับสวนองุ่น
เขาล้อมรั้วป้องกันสัตว์ร้ายมาทำลายสวนองุ่น สร้างบ่อย่ำองุ่นเพื่อย่ำและสกัดน้ำองุ่น
นอกนั้น ยังสร้างหอเฝ้าเพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย (มธ 21:33) นั่นหมายความว่าพระเจ้าได้ทำทุกอย่างสำหรับชนชาติอิสราแอล
เพื่อเตรียมพวกเขาให้รู้จักพระบุตรที่จะเสด็จมา แต่พวกเขาได้กระทำความผิดและปฏิเสธพระองค์
สิทธิพิเศษนี้ได้ถูกเพิกถอนและมอบให้กับคนต่างชาติ
ในฐานะคริสตชนเราได้รับสิทธิพิเศษนี้ เป็นสิทธิพิเศษของการเป็นบุตรพระเจ้า
เราทุกคนเป็นลูกของพระบิดาเจ้าองค์เดียวกัน มีคุณค่าและศักดิ์ศรีเท่าเสมอกันต่อหน้าพระเจ้า
การเดินทางไปแดนไกลของเจ้าของสวนเป็นเครื่องหมายว่า พระเจ้าทรงมอบงานและความรับผิดชอบแก่เราด้วยความเชื่อใจ
ดังนั้น เรามีอิสรภาพที่จะร่วมมือกับพระเจ้าหรือต่อต้านพระองค์ และมีอิสระในการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้
นี่คือสิทธิพิเศษที่มนุษย์ได้รับ
นอกนั้น คำอุปมานี้ยังแสดงถึง “ความอดทนของพระเจ้า”
ที่มีต่อความผิดพลาดของมนุษย์ เจ้าของสวนองุ่นได้ให้โอกาสคนเช่าสวนครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยหวังว่าเขาจะปรับปรุงตัวเองเสียใหม่
พระเจ้าได้ให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ทรงลงโทษใครในทันที แต่ทรงให้เวลาและรอคอยด้วยหวังว่าเขาจะกลับใจ
เปลี่ยนแปลงชีวิตหันกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง
พระเจ้าได้ประทานทุกอย่างที่จำเป็นแก่เรา เพื่อช่วยเราให้สามารถได้รับความรอดนิรันดร
เราได้ตระหนักในพระหรรษทานและความช่วยเหลือของพระองค์ในแต่ละวันไหม
เราได้สำนึกพระคุณในของประทานต่างๆ จากพระองค์หรือเปล่า เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาพิเศษของการกลับใจมาหาพระเจ้า
ผ่านทางการอธิษฐานภาวนา พลีกรรมใช้โทษบาป และให้ทาน อีกทั้ง อดทนต่อความผิดพลาดของกันและกัน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
16 มีนาคม 2017ที่มาภาพ: https://medium.com/@atravismoore/our-service-in-the-vineyard-of-the-lord-d30b0bfa40e8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น