วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566

ทางแห่งไม้กางเขน

 

ทางแห่งไม้กางเขน

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

ปี A

ยรม 20:7-9

รม 12:1-2

มธ 16:21-27

บทนำ

มีตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับนักบุญเปโตร ในห้วงเวลาที่จักรพรรดิ์เนโรเบียดเบียนศาสนาครั้งใหญ่ กลุ่มคริสตชนที่กรุงโรมเห็นว่า ชีวิตของเปโตรมีค่ามากสำหรับกลุ่มคริสตชนในที่ต่าง ๆ จึงได้บอกเปโตรให้หนีเอาตัวรอด “ท่านจงออกจากเมืองเพื่อความปลอดภัย ไปยังที่อื่นและประกาศพระวรสารเถิด” เปโตรรีบออกจากเมืองโดยทันที ไปทางอัพเพียนห่างออกไปจากรุงโรม

เปโตรได้พบพระเยซูเจ้ากำลังมุ่งตรงไปยังกรุงโรม เปโตรได้ถามชายคนนั้นว่า Quo vadis?” (ท่านจะไปไหน)  ชายนั้นตอบว่า “กลับไปยังกรุงโรมเพื่อถูกตรึงบนไม้กางเขนพร้อมกับประชาชนของเรา” และถามเปโตรว่า “ท่านจะไปไหน เปโตร” เปโตรสำนึกได้ว่าเป็นพระอาจารย์ ร้องไห้เสียใจ และเดินกลับไปยังกรุงโรม ซึ่งตามธรรมประเพณี เปโตรได้ถูกตรึงไม้กางเขนแบบกลับหัวเพราะรู้ตัวว่า ตนเองไม่คู่ควรที่จะตายแบบพระอาจารย์

 พระเยซูเจ้าทรงถามเราแต่ละคนด้วยคำถามเดียวกันกับที่ถามเปโตร Quo vadis?” (ท่านจะไปไหน) เรากำลังเดินไปพร้อมกับพระเยซูเจ้า หรือกำลังเดินหนีพระองค์และไม้กางเขนของพระองค์ ไม่สำคัญว่า เราเดินทางมาไกลแค่ไหน สิ่งสำคัญคือทิศทางที่เราจะไป เรากำลังไปหาใคร พระเยซูเจ้า หรือสิ่งอื่น ทุกครั้งที่ชีวิตเผชิญปัญหา เราต้องไม่ละเป้าหมายจากพระเยซูเจ้า

1.        ทางแห่งไม้กางเขน

ทางแห่งไม้กางเขนคือเป้าหมายของพระเยซูเจ้าในการเสด็จมาในโลก พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อรับทรมานอย่างแสนสาหัส “จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนชีพในวันที่สาม” (มธ 16:21) เป็นเรื่องเข้าใจยากว่า ทำไมพระเจ้าต้องเลือกการทรมานเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอด พระองค์สามารถเลือกวิธีง่ายกว่านี้ได้โดยไม่ต้องมีการทรมานใด ๆ เพื่อเข้าใจความจริงข้อนี้ เราต้องเชื่อในความรักไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า ความรักย่อมอยู่เหนือความเข้าใจและเหตุผลทางโลกเสมอ

บ่อยครั้งเรามักเข้าใจว่า กางเขนคืออุปสรรค เป็นสิ่งที่เราต้องหลีกเลี่ยง หรือขจัดทิ้ง เหมือนเปโตรที่หนีเอาตัวรอดและพยายามขัดขวางพระเยซูเจ้า “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน” (มธ 16:22) ซึ่งไม่ต่างกับคนอื่นทั้งหลายที่หวังว่า พระเยซูเจ้าคืออัศวินขี่ม้าขาวมากอบกู้ชาติ แต่ภายหลังเปโตรได้เข้าใจว่า การทรมานและความตายมิใช่จุดจบของทุกสิ่ง แต่เป็นหนทางสู่ชีวิต เมล็ดพืชต้องเน่าเปื่อยเพื่อเกิดต้นใหม่และให้ผล การตายต่อตัวเองเท่านั้นถึงได้ชีวิตนิรันดร

พระดำรัสของพระเยซูเจ้าชัดเจนและทรงอำนาจ “ถ้าผู้ใดอยากตามเรามา ก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา” (มธ 16:24) บนไม้กางเขนพระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติแท้จริงของพระเจ้าและมนุษย์ของพระองค์ ในความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อมนุษยชาติ พระองค์ทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายและการประหารอันน่าสะพรึงกลัว ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและการให้อภัย “พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” (ลก 23:34)

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก  เราต้องเลิกนึกถึงตนเอง การเลิกนึกถึงตนเองคือการปฏิเสธตัวเองและตอบรับพระเจ้า  ไม่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือสำคัญผิดว่า ตัวเองคือความถูกต้อง แต่ให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต มีแต่พระเจ้าเท่านั้นยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้นส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง (ยน 3:30) เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับพระเจ้า เราไม่มีอะไรต้องอวดตัว นอกจากกล่าวเหมือนเปโตรว่า “โปรดไปจากข้าพเจ้าเสียเถิด พระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป” (ลก 5:8)

ประการที่สอง เราต้องแบกไม้กางเขนของตน เราแต่ละคนมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องแบกในชีวิต นี่คือไม้กางเขนที่เราแต่ละคนต้องแบกในแต่ละวัน ต้องละทิ้งความสุขสบายส่วนตัว สิทธิพิเศษ ชื่อเสียงและเกียรติยศเพื่อเห็นแก่พระเยซูเจ้า เราต้องติดตามพระองค์ด้วยหัวใจทั้งครบบนหนทางแห่งไม้กางเขน ในทุกสถานการณ์แห่งชีวิต เพราะหากไม่มีไม้กางเขนก็ไม่มีมงกุฎ ผ่านทางการแบกไม้กางเขนเท่านั้น เราถึงได้รับเกียรติรุ่งโรจน์

ประการที่สาม เราต้องติดตามพระเยซูเจ้า การเป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้าคือการเลียนแบบพระองค์ทั้งวิธีคิดและวิธีปฏิบัติ ในความใส่ใจต่อคนทุกข์ยากเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ รักทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ยกโทษและให้อภัยคนทำไม่ดีต่อเรา เมื่อเราเรียนรู้การให้อภัยนั่นคือจุดเริ่มต้นของสันติสุข “ผู้ให้อภัยยุติความขัดแย้ง” (สุภาษิตแอฟริกา)

บทสรุป

พี่น้องที่รัก ทางแห่งไม้กางเขนเป็นหนทางสู่ความรอดนิรันดร ถือเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อคริสตชน เพราะเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้าผ่านทางการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า บุตรพระเจ้าผู้ทรงรับเอากายเป็นมนุษย์ และทรงเปลี่ยนเครื่องหมายแห่งความตายสมัยนั้น ให้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก การให้อภัย และความรอดนิรันดร

คริสตชนได้รับการเลือกสรรจากพระเจ้าเช่นเดียวกับประกาศกเยเรมีย์ นักบุญเปาโล และบรรดาสาวก เราต้องไม่เป็นเครื่องกีดขวางวิถีทางของพระเยซูเจ้า แต่เป็นพยานถึงพระองค์ตามวิถีดำเนินชีวิตของแต่ละคน ศิษย์พระคริสต์ต้องไม่คิดถึงตนเองและแบกไม้กางเขนของตนติดตามพระเยซูเจ้าทุกวัน ดำเนินชีวิตในความรักไม่มีเงื่อนไข การรับใช้ด้วยใจยินดี และการให้อภัยไม่สิ้นสุดตามแบบอย่างพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน ทั้งนี้เพราะการให้อภัยนำสันติสุขแท้มาสู่จิตใจของผู้ให้อภัยและผู้ได้รับการอภัย

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

LINE ID : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

1 กันยายน 2023

ภาพ : กางเขนที่ถูกทำลาย, วัดเก่าคำเกิ้ม, นครพนม; 2017-03-10

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น