ความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพ
พุธ
สัปดาห์ที่ 9
เทศกาลธรรมดา
|
ทบต 3:1-11,16ก
มก 12:18-27
|
ชาวสะดูสีเป็นกลุ่มการเมืองในสังคมยิว มีสมาชิกสภาซันเฮรินและบรรดาสมณะและชนชั้นสูงเป็นสมาชิก
การได้รับอิทธิพลจากปรัชญากรีก ทำให้กลุ่มนี้ไม่เชื่อเรื่องการกลับคืนชีพ หรือชีวิตหลังความตาย
พวกเขามองความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพเป็นเรื่องขบขัน เรื่องเล่าหญิงที่สามีตายโดยไม่มีบุตรและได้แต่งงานกับน้องชายสามีอีกหกคน (มก 12:20-23)
ที่พวกเขาหยิบยกขึ้นมาถามพระเยซูเจ้าสะท้อนความคิดนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อจับผิดพระองค์
พระเยซูเจ้าทรงอธิบายเกี่ยวกับจุดหมายของชีวิตมนุษย์ ทรงชี้ให้เห็นว่า ชาวสะดูสีไม่เข้าใจพระคัมภีร์และพระอานุภาพของพระเจ้า
(มก 12:24)
ทรงอ้างหนังสืออพยพตอนที่พระยาเวห์ตรัสกับโมเสสที่พุ่มไม้ไม่ไหม้ไฟ “เราคือพระเจ้าของอับราอัม
พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ” ซึ่งเป็นพระเจ้าของผู้เป็น
ไม่ใช่พระเจ้าของผู้ตาย ทรงยืนยันว่า ชีวิตหลังความตายแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตในโลกนี้
“จะไม่มีการแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอีก แต่เขาจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์” (มก 12:25)
เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสถึงผู้กลับคืนชีพจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์
ร่ายกายที่กลับคืนชีพย่อมแตกต่างจากในโลกนี้เพราะได้รับความรุ่งโรจน์
เป็นการกลับคืนชีพด้วยร่างกายเดิมแต่ในสภาพใหม่ เหมือนร่างกายของพระเยซูเจ้าหลังการกลับคืนพระชนม์ชีพ
“พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยให้เป็นเหมือนพระวรกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์”
(ฟป 3:21) หนังสือวิวรณ์บอกเราว่า “จะไม่มีความตายอีกต่อไป
จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว”
(วว 21:4).
พระเยซูเจ้าได้ทรงให้ความมั่นใจกับเราถึงการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย
ทรงชนะความตายและทรงกลับคืนพระชนมชีพ เป็นความหวังสำหรับเราว่า ใครที่ตายพร้อมกับพระองค์ย่อมมีส่วนในการกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์
ร่วมส่วนในชีวิตและพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักในพระพรและความรักของพระเจ้า ดำเนินชีวิตในความรัก การแบ่งปัน และการให้อภัยความผิดของกันและกัน เพื่อว่าเมื่อวาระสุดท้ายมาถึงเราจะมีบุญได้อยู่กับพระองค์
ตลอดไป
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
https://dondaniele.blogspot.com/
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
5 มิถุนายน 2018
ภาพ : พิธีปลงศพพระสังฆราชมิแชล มงคล ประคองจิต, อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่, สกลนคร; 1958-01-23 (ภาพต้นฉบับ: หอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น