การบังเกิดของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
24 มิถุนายน
สมโภชการบังเกิดของนักบุญยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง
ปี A B C
|
อสย 49:1-6
กจ 13:22-26
ลก 1:57-66, 80
|
บทนำ
คาร์ล บาร์ธ (Karl
Barth: 1886-1968) นักเทววิทยาคนสำคัญของศตวรรษที่ 20 ชาวสวิส มักตื่นขึ้นมาตอนเช้าอ่านหนังสือพิมพ์
และมองดูภาพวาดพระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขนของมัทธีอัส กรูเนวาลด์ (Matthias Grünewald)
ซึ่งเป็นภาพพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน มีภาพพระนางมารีย์และคนอื่น ๆ แทบเชิงกางเขนกำลังโศกเศร้า
ส่วนนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างยืนถือพระคัมภีร์ห่างออกไปและชี้ไปที่พระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน
ก่อนที่คาร์ล
บาร์ธจะสอนเทววิทยาและเขียนหนังสือข้อความเชื่อที่มีชื่อเสียง
ท่านได้รำพึงภาพวาดนี้ โดยเฉพาะภาพของนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างชี้นิ้วไปที่พระเยซูเจ้าและได้สรุปว่า ในฐานะคริสตชน (ไม่ว่านักเทววิทยา พระสงฆ์ ครู หมอ แม่บ้าน
แม่ค้า ฯลฯ) งานของเราคือเป็นนิ้วมือที่ชี้ไปยังพระเยซูเจ้า ไม่ว่างานใด ๆ
ที่เราทำต้องนำไปสู่พระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนเสมอ
วันนี้เราสมโภชการบังเกิดของนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ในรอบปีพิธีกรรมของพระศาสนจักร ส่วนใหญ่เราฉลองวันเกิดในสวรรค์ (วันตาย)
ของบรรดานักบุญ ส่วนการฉลองวันเกิดจริง ๆ มีเพียง 3 วันเท่านั้นคือ วันพระคริสตสมภพ (25 ธันวาคม),
วันแม่พระบังเกิด (8 กันยายน) และวันนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างบังเกิด
(24 มิถุนายน) ถือเป็นวัน “สมโภช”
เนื่องจากยอห์นผู้ทำพิธีล้าง เป็นผู้เตรียมทางล่วงหน้าและเตรียมจิตใจชาวยิวให้พร้อมต้อนรับองค์พระผู้ไถ่
1. การบังเกิดของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
ยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ได้รับเลือกสรรจากพระเจ้าให้เตรียมทางสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
พระบุตรของพระเจ้าในโลก การบังเกิดมาของยอห์นเป็นความชื่นชมยินดี เหนือสิ่งอื่นใด
ยังเป็นวันฉลองพระเมตตากรุณาของพระเจ้า ที่โปรดให้นางเอลีซาเบธมารดาของยอห์นซึ่งเป็นหมันและอยู่ในวัยชราได้ให้กำเนิดบุตรชาย
ทำให้ความอับอายที่เธอได้รับเพราะการไม่มีบุตรหมดสิ้นไป สอดคล้องกับชื่อ “ยอห์น”
ซึ่งหมายถึง “พระเจ้าทรงพระทัยเมตตา”
พระวรสารวันนี้ บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาร่วมแสดงความยินดีกับเอลีซาเบธและครอบครัว
สำหรับพระกรุณาที่ได้รับจากพระเจ้า (ลก 1:58) เพราะการบังเกิดของยอห์นได้ประกาศการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า
บุตรพระเจ้าที่บังเกิดมาเพื่อไถ่บาปมนุษยชาติ
และยอห์นได้ประกาศให้คนบาปได้ทราบว่า พระเจ้าทรงพระทัยเมตตาด้วยชีวิตของท่าน เมื่อนางเอลีซาเบธได้พบพระนางมารีย์
ยอห์นซึ่งอยู่ในครรภ์ได้รับการชำระให้พ้นจากบาปกำเนิด และได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากพระเยซูเจ้าที่อยู่ในครรภ์ของพระนาง
ยอห์นบังเกิดมาเป็นพยานถึงแสงสว่าง และเตรียมจิตใจประชาชนให้พร้อมต้อนรับองค์พระผู้ไถ่ “ยอห์นผู้ทำพิธีล้างเป็นมากกว่าประกาศก” เพราะยอห์นมีบทบาทสำคัญ เป็นสะพานเชื่อมระหว่างพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่
ยอห์นได้เป็นพยานถึงแสงสว่างและการเสด็จมาของพระจิตเจ้าเหนือพระเยซูเจ้าขณะรับพิธีล้าง ชี้บอกบรรดาศิษย์ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นลูกแกะพระเจ้าที่พวกเขารอคอย ยอห์นไม่เพียงเป็นเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร แต่เป็นประภาคารนำประชาชนตรงไปยังพระเจ้า
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องเป็นผู้เตรียมทางพระเยซูเจ้า
ยอห์นได้ประกาศให้ประชาชนทราบถึงการเสด็จมาของพระผู้ไถ่
และเตรียมจิตใจพวกเขาให้พร้อมต้อนรับพระองค์ ทุกวันนี้
พระองค์ยังต้องการเราให้แสดงบทบาทของยอห์น ประกาศให้ทุกคนทราบว่า พระองค์ทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รอด
และเตรียมจิตใจพวกเขาให้ต้อนรับพระองค์
เราได้รับมอบหน้าที่นี้ตั้งแต่วันได้รับศีลล้างบาป
ประการที่สอง เราต้องเป็นผู้ชี้บอกพระเยซูเจ้า
หลังจากได้พบพระเยซูเจ้า ยอห์นได้ชี้บอกศิษย์ของท่านว่า พระองค์ทรงเป็นลูกแกะพระเจ้า
และเชื้อเชิญพวกเขาให้ติดตามพระองค์ ชีวิตและกิจการต่าง ๆ
ที่เราทำต้องนำไปสู่พระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน องค์ความรอดแท้จริง
คริสตชนที่มิได้ดำเนินชีวิตเป็นแสงสว่างให้คนรอบข้างได้พบหนทางไปหาพระเจ้า
มิใช่คริสตชนแท้
ประการที่สาม เราต้องเป็นพยานถึงความถูกต้อง ยอห์นได้เป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้อง ด้วยการตำหนิกษัตริย์เฮโรดที่ทำผิดศีลธรรม
(เอาภรรยาของน้องชายมาเป็นมเหสี) และยอห์นต้องจ่ายค่าความซื่อสัตย์ต่อความจริงด้วยชีวิตของตน เราต้องกล้าเป็นพยานถึงความจริงและความถูกต้อง
มิใช่โอนอ่อนตามกระแสและค่านิยมของโลก
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ชีวิตของยอห์นผู้ทำพิธีล้างมีความหมายพิเศษสำหรับคริสตชน ผ่านทางศีลล้างบาปเราได้รับการเรียกให้เป็นผู้เตรียมทางสำหรับองค์พระเจ้า
และมีหน้าที่เป็นพยานถึงพระองค์ ทั้งด้วยคำพูดและการกระทำเช่นเดียวกับยอห์น
เพื่อให้คนอื่นได้เห็นและมีประสบการณ์ความรักของพระเยซูเจ้า และพระประสงค์ของพระองค์ที่ปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนได้รับความรอด ยอห์นสำนึกในบทบาทของตน
“แต่ผู้ที่จะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้า” (มธ 3:11)
คริสตชนต้องนำผู้อื่นมาพบแสงสว่างแท้และเดินบนหนทางถูกต้องชอบธรรม อีกทั้งตระหนักในความต่ำต้อยของตน “พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้วยลง” (ยน 3:30) ศิษย์พระคริสต์ได้รับการเรียกให้เป็นผู้เทศน์สอน
ชี้บอก และนำทุกคนให้มารู้จักพระเยซูเจ้า ชีวิตของเราต้องนำสารของพระเยซูเจ้าไปสู่ผู้อื่น
ช่วยพวกเขาให้มารู้จักและมีประสบการณ์ความรักของพระองค์ ผ่านทางแบบอย่างชีวิตดีงามของเรา
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
22 มิถุนายน 2018
ภาพ : สภานที่ที่ยอห์น บัปติสต์บังเกิด, วัดนักบุญยอห์น บัปติสต์, เอนคาเร็ม, อิสราเอล; 2018-04-15
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น