วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2560

การพิพากษาโดยเบาความ

 การพิพากษาโดยเบาความ 
วันจันทร์
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต
ดนล 13:41-62
ยน 8:1-11

ดาเนียล เป็นประกาศกที่พูดในนามของพระเจ้า เป็นผู้ตัดสินและผู้นำของอิสราแอล เรื่องราวนางสุสันนาที่ถูกกล่าวหาโดยเบาความว่ากระทำผิดประเวณีที่เราได้ยินในบทอ่านแรก ได้แสดงให้เห็นถึงความปรีชาฉลาดของดาเนียล นี่คือหนึ่งในนิทานปรัมปราหลายเรื่องเกี่ยวกับดาเนียลในช่วงประมาณหนึ่งศตวรรษก่อนคริสตกาล ซึ่งถือเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งของม้วนหนังสือที่ค้นพบที่กุมรานในทะเลตาย
พระคัมภีร์ตอนนี้ได้เล่าถึงเฒ่าหัวงูสองคนที่หลงใหลในกามตัณหา พวกเขาได้ทำลายความบริสุทธิ์ของหญิงสาวมานักต่อนัก ใครที่ไม่ยอมจะถูกปรักปรำถึงตายด้วยการทุ่มหินตามกฎของโมเสส ผู้เฒ่าสองคนคือตัวแทนของความฉ้อฉลในหมู่ผู้นำชาวยิว ส่วน “สุสันนา” ชื่อนี้หมายถึงดอกลิลลี่สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เธอจึงเป็นตัวแทนของผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหาโดยเบาความและไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม
ตามกฎของโมเสส หญิงที่ถูกจับได้ว่ากระทำผิดประเวณีต้องถูกทุ่มหินให้ตาย แต่จะต้องเป็นความผิดที่ชัดแจ้งหลังจากได้ผ่านการสอบสวนแล้ว แต่ในกรณีของนางสุสันนาเธอถูกปรักปรำโดยเฒ่าหัวงูสองคน ด้วยเหตุผลที่เธอไม่ตอบสนองความต้องการของพวกเขา เธอได้ร้องขอความยุติธรรมจากพระเจ้า พระองค์ทรงฟังเสียงของเธอ และได้ดลใจให้ดาเนียลมาช่วยเธอให้ได้รับความยุติธรรม
เรื่องราวนางสุสันนาถูกนำมาคู่กันกับเรื่องหญิงที่ถูกจับได้ขณะล่วงประเวณี ที่ถูกนำมาอยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้ากับดาเนียลเป็นรูปหมายที่คล้ายกันของการเป็นผู้พิพากษาและประกาศก แต่หญิงสองคนที่ตกเป็นเหยื่อมีที่มาต่างกัน นางสุสันนาเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะที่หญิงในพระวรสารถูกจับขณะล่วงประเวณี ดาเนียลได้ช่วยนางสุสันนาให้ได้รับความยุติธรรม และพระเยซูเจ้าได้ช่วยหญิงนั้นให้พ้นโทษเช่นกัน
พระเยซูเจ้าทรงให้ความเคารพโมเสสอย่างลึกซึ้ง แต่พระองค์ได้ปฏิรูปกฎของโมเสสหลายข้อ หนึ่งในจำนวนนั้นคือ การทุ่มหินให้ตายสำหรับหญิงที่ถูกจับได้ว่าล่วงประเวณี พระเยซูเจ้าได้ปกป้องหญิงนั้นและไม่ต้องการให้หนึ่งชีวิตถูกทำลายด้วยวิธีการดังกล่าว ในทางตรงข้าม พระองค์ทรงต้องการให้มนุษย์ปรับปรุงตนเองด้วยการเปลี่ยนแปลงชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงความรักและพระเมตตาอันล้นพ้นของพระเจ้า
นี่คืองานที่ลำบากและท้าทายในวัฒนธรรมของชาวยิวและตะวันออกกลาง ที่ต้องการเห็นคนบาปถูกทำลายและขจัดออกจากสังคม แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนว่าต้องให้อภัย  ช่วยเหลือ เห็นอกเห็นใจและให้โอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิต นี่คือสิ่งใหม่สำหรับชาวยิวโดยเฉพาะพวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีที่รับไม่ได้ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการทำลายคนบาปให้ตายตามกฎหมายเท่านั้น และนี่คือชะตากรรมที่พระเยซูเจ้าได้รับในวาระสุดท้าย
เรื่องราวนางสุสันนา สะท้อนให้เห็นความจริงที่ว่ากิเลศตัณหาเป็นพยศชั่วอย่างหนึ่งในตัวมนุษย์ หากไม่รู้จักบังคับควบคุมจะทำลายตัวเองและคนรอบข้าง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความเมตตากรุณา พระองค์ไม่ปรารถนาให้คนบาปถูกลำลายหรือพินาศไป บทเรียนสำหรับเราคือ เรามีท่าทีอย่างไรต่อคนบาปหรือผู้ที่ทำผิดต่อเรา เราได้ตัดสินหรือพิพากษาคนอื่นโดยเบาความไหม และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าผ่านทางศีลอภัยบาปหรือเปล่า
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
2 เมษายน 2017

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น