ตะเกียงไม่ไร้น้ำมัน
ศุกร์
สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา
|
1 คร 1:17-25
มธ 25:1-13
|
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงเล่าอุปมาเรื่องหญิงสาวสิบคนออกไปรอรับเจ้าบ่าว สะท้อนชีวิตจริงของสังคมยิวซึ่งให้ความสำคัญกับการมาของเจ้าบ่าว ทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งในความชื่นชมยินดีนี้ ต่างพากันถือตะเกียงออกไปรอรับด้วยความยินดี
ทั้งนี้เพราะการแต่งงานเป็นความยินดียิ่งใหญ่ มิใช่แต่เฉพาะสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้น
แต่สำหรับชุมชนทั้งหมด มีการจัดงานเลี้ยงฉลองเป็นเวลา 1 สัปดาห์
อุปมาบอกให้เราทราบว่า “พระเยซูเจ้าเป็นดังเจ้าบ่าว เสเด็จมาเพื่อพบปะกับประชากรของพระองค์ และทรงต้องการนำเราเข้าไปในบ้านแท้นิรันดรคืออาณาจักรสวรรค์
เพื่ออยู่กับพระองค์ผู้เป็นเจ้าบ่าวตลอดไป” แสดงถึงความรักของพระเจ้าต่อมนุษยชาติ
ทรงปรารถนาให้ทุกคนได้เป็นหนึ่งเดียวและอยู่กับพระองค์
แต่การมาของพระองค์มิได้กำหนดเวลาล่วงหน้า ทุกคนต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอและรอคอยด้วยความรอบคอบ
เราเห็นความแตกต่างระหว่างหญิงสาวสองกลุ่ม ซึ่งถือตะเกียงออกไปรอรับเจ้าบ่าว
“หญิงโง่นำตะเกียงไป แต่มิได้นำน้ำมันไปด้วย ส่วนหญิงฉลาด
นำน้ำมันใส่ขวดไปพร้อมกับตะเกียง” (มธ 25:3-4) ตะเกียงไร้น้ำมันย่อมหาประโยชน์อะไรไม่ได้
เพราะไม่สามารถจุดเพื่อส่องสว่างแก่ตนเองและผู้อื่นได้
คงไม่ต่างจากรถยนต์ไม่มีน้ำมัน ย่อมไม่สามารถเดินทางไปถึงเป้าหมายได้
น้ำมันซึ่งพระเยซูเจ้าตรัสถึงคือ ความรักและความดีงาม
หรือบุญกุศลที่ทุกคนต้องมีและเตรียมให้พร้อม
ประการสำคัญ น้ำมันแห่งความรักและความดีงามเป็นสิ่งซึ่งขอกันไม่ได้ เพราะ “ความดีไม่มีขาย
อยากได้ต้องทำเอง” เราต้องลงมือทำและออกแรงด้วยตนเอง ศีลล้างบาปมิใช่หลักประกันแห่งความรอดนิรันดร
ต้องสั่งสมตลอดชีวิตเพื่อมีน้ำมันเพียงพอสำหรับจุดตะเกียงแห่งความเชื่อให้ลุกอยู่เสมอ
จนถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จมาและอยู่กับพระองค์ตลอดไป
ความรักและความดีงามเป็นดังน้ำมันซึ่งจำเป็น และทำให้ตะเกียงลุกอยู่เสมอ
เพื่อพร้อมต้อนรับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในวาระสุดท้าย ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นตะเกียงไม่ไร้น้ำมัน
เป็นตะเกียงที่จุดอยู่เสมอและตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่างแก่ทุกคน หมั่นเตรียมน้ำมันให้พร้อมและเพียงพอ
ด้วยการทำสิ่งดีงาม และดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ในชีวิตประจำวัน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
28 สิงหาคม 2019
ที่มาภาพ : http://www.stjohnsepiscopal.org/whats-your-oil-fr-david-houk/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น