สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่าน
อาทิตย์
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา
ปี C (ฉลองพระเมตตา)
|
กจ 5:12-16
วว 1:9-11ก, 12-13, 17-19
ยน 20:19-31
|
บทนำ
มีอาณาจักรเก่าแก่แห่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของชนเผ่าโบราณชอบทำสงครามกับเผ่าอื่น
มักออกไปเข่นฆ่า และปล้นสะดมอย่างไร้ความปราณีและศีลธรรม ผู้อาวุโสของเผ่าหาทางแก้ไขโดยเรียกประชุมผู้นำจากหมู่บ้านต่าง
ๆ เพื่อหาทางระงับความรุนแรงซึ่งอาจเกิดกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ได้ข้อสรุปว่าต้องเก็บความลับแห่งสันติสุขให้ห่างไกลจากพวกกระทำความผิดและละเมิดกฎเกณฑ์เหล่านี้
ปัญหาคือจะเก็บความลับไว้ที่ไหน
บางคนเสนอให้ฝังดินให้ลึก เก็บไว้บนยอดเขาสูง หรือใต้มหาสมุทรในจุดลึกที่สุด
เพื่อไม่ให้พวกนี้หาเจอ ไม่มีใครเห็นดีตามข้อเสนอดังกล่าว แม้เก็บไว้ใต้ดิน บนยอดเขาสูง หรือใต้มหาสมุทร
แต่มนุษย์คงค้นพบอยู่ดีเพราะความฉลาดและเก่งในการแสวงหาสิ่งที่ต้องการ ที่สุด ผู้อาวุโสเสนอให้เก็บความลับแห่งสันติสุขไว้ในใจของพวกเขา
เพราะแต่ละคนต่างคิดว่า ใจของตนไม่มีสันติสุขและคงไม่มีวันค้นพบสันติสุขในใจตน
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงปรากฏพระองค์ให้บรรดาอัครสาวกได้เห็น
และทรงมอบสันติสุขแก่พวกเขา คือความชื่นชมยินดีและความสุขอันเป็นยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกคน
สันติสุขนี้อยู่ภายในใจของเราแต่ละคนในความสัมพันธ์กับพระเจ้าและผู้อื่น สันติสุขนี้คือของประทานจากพระเจ้าสำหรับมนุษย์ พระเยซูเจ้าทรงเป็นองค์ “สันติราชา” ทรงนำเราให้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระเจ้า
และความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้อื่น
1. สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่าน
คำทักทายแรกที่พระเยซูเจ้าตรัสในการปรากฏพระองค์แก่บรรดาศิษย์คือ
SHALOM “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” คำนี้ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในใจพวกเขา ทำให้ความหวาดกลัวและความทุกข์หมดสิ้นไป
ใจของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี ขณะทรงอวยพรพวกเขาให้มีสันติสุขพระองค์ได้ประทานพระจิตเจ้าแก่พวกเขา
พระองค์ได้มอบพันธกิจและหน้าที่ในการสานต่องานไถ่กู้ของพระองค์ ได้แก่การยกบาปในพระนามของพระองค์
การสานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้าในการอภัยบาปจำเป็นต้องอาศัยการนำของพระจิตเจ้า
ซึ่งเป็นของประทานยิ่งใหญ่แก่บรรดาอัครสาวก ได้แก่ พระหรรษทานของพระจิตในการยกบาป
พระองค์ทรงมอบพระจิตเจ้าองค์เดียวกันแก่เราในการให้อภัยความผิดของกันและกัน
เราต้องยกโทษและให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง เพราะพระเยซูเจ้าคือองค์สันติราชาผู้ทำให้เรามีชีวิตและสันติสุขยั่งยืน
บาปคืออุปสรรคใหญ่หลวงของความสุขแท้นี้
ทำให้พันธกิจของพระเจ้าในตัวเราไม่สมบูรณ์ กระนั้นก็ดี
พระเยซูเจ้าได้ประทานอาวุธทรงประสิทธิภาพในการทำลายศัตรูของสันติสุขให้หมดสิ้นไปทางศีลอภัยบาป
ซึ่งอภัยบาปและสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นใหม่ในใจเรา เมื่อแต่ละคนมีใจที่สุขสงบปราศจากความเห็นแก่ตัว
ครอบครัว สังคม และประเทศชาติย่อมมีแต่สันติสุข
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องมอบสันติสุขแก่กันด้วยจริงใจ
การมอบสันติสุขในพิธีบูชาขอบพระคุณ ต้องเป็นการแสดงท่าทีแห่งการให้อภัยและการมอบสันติสุขแท้จากใจเราแก่กันและกัน
สันติสุขเกิดขึ้นในใจเราเมื่อ 1) เราได้ปฏิบัติตามบัญญัติแห่งความรักของพระเจ้า
“รักพระเจ้าสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน...
และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง”
(มธ 22:37-39) และ 2)
เราได้ใส่ใจในความต้องการของผู้อื่น “ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา”
(มธ 25:40)
ประการที่สอง เราต้องปฏิบัติกิจเมตตาในชีวิตประจำวัน วันนี้พระศาสนจักรฉลองพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า
ซึ่งแสดงออกให้เห็นอย่างเด่นชัดในศีลแห่งการคืนดีและศีลมหาสนิท
เพื่อได้รับพระเมตตาจากพระเจ้าเราต้องมั่นมาหาพระองค์ทางศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิทบ่อย
ๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยเราให้ฉายแสงแห่งพระเมตตาของพระองค์ในกิจการ คำพูดและการอธิษฐานภาวนาของเรา
ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตเชื่อในพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพ การดำเนินชีวิตในความเชื่อทำให้เรามองเห็นพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพในทุกคน
และพร้อมรับใช้กันด้วยความรัก “ความเชื่อหากไม่มีการกระทำก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว” (ยก 2:17)
ให้เราได้แสดงความเชื่อที่มีชีวิตเช่นเดียวกับนักบุญโทมัส ทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็งและเติบโตยิ่งขึ้นอาศัยการอธิษฐานภาวนา
บทสรุป
พี่น้องที่รัก ให้เราได้สานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้า ในงานแห่งความรักและการให้อภัยไม่สิ้นสุดในชีวิตประจำวันของเรา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างสันติสุขในสังคมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
และความแตกแยกรุนแรงอย่างในปัจจุบัน เพื่อสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นในครอบครัว
หมู่คณะ และชุมชนวัดของเรา ดังที่นักบุญฟรังซิส อัสซีซี ได้อธิษฐานภาวนาว่า :
ข้าแต่พระบิดา ขอพระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือของพระองค์
เพื่อสร้างสันติ
ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
ที่ใดมีความเจ็บแค้น ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย
ที่ใดมีความแตกแยก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสามัคคี
ที่ใดมีความเท็จ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความจริง
ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อ
ที่ใดมีความสิ้นหวัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหวัง
ที่ใดมีความมืด ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสว่าง
ที่ใดมีความเศร้าโศก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำ ความยินดีเบิกบานใจ...
ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
ที่ใดมีความเจ็บแค้น ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย
ที่ใดมีความแตกแยก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสามัคคี
ที่ใดมีความเท็จ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความจริง
ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อ
ที่ใดมีความสิ้นหวัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหวัง
ที่ใดมีความมืด ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสว่าง
ที่ใดมีความเศร้าโศก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำ ความยินดีเบิกบานใจ...
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลปัสกา การฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพิ์ กรุ๊ป, 2562), หน้า 28-31.
ที่มาภาพ: https://redeemercolumbusga.files.wordpress.com/2014/04/thomas-and-jesus.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น