การเป็นพยานความจริง
ศุกร์
สัปดาห์ที่ 4
เทศกาลมหาพรต
|
ปชญ 2:1ก, 12-22
ยน 7:1-2, 10, 25-30 |
บทอ่านวันนี้พูดถึงการทดลองและการเฝ้าดูแลของพระเจ้า
หนังสือปรีชาญาณได้ให้ภาพล่วงหน้าถึงชะตากรรมที่พระเยซูเจ้าต้องเผชิญ “เราจงดักซุ่มทำร้ายผู้ชอบธรรม
เพราะเขาทำให้เรารำคาญใจ” (ปชญ 2:12) คนอธรรมโกรธแค้นเมื่อเห็นคนชอบธรรมประพฤติต่างไปจากพวกเขาจึงวางแผนทำร้าย
ทำให้นึกถึงคำพูดของหลวงวิจิตรวาทการ “จงทำดีแต่อย่างเด่นจะเป็นภัย
ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน” ที่คือสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมทุกยุคสมัย
พระเยซูเจ้าแม้ทรงกระทำแต่ความดี
แต่ยังมีคนเกลียดชัง ชีวิตของพระองค์กลายเป็นที่มาของความขัดแย้งของคนเป็นจำนวนมาก
และเป็นเป้าหมายของการกำจัด เราในฐานะศิษย์ของพระองค์คงไม่อยู่เหนือกว่าอาจารย์
พระวรสารวันนี้ชาวยิวและผู้นำศาสนากำลังหาโอกาสประหารพระองค์ ทรงล่วงรู้แผนการนี้จึงเลี่ยงการเดินทางไปแคว้นยูเดีย
มิใช่กลัวการถูกจับกุมแต่เวลาของพระองค์ยังมาไม่ถึง
กระนั้นก็ดี
พระเยซูเจ้ายังปฏิบัติตามธรรมเนียมยิวในการเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อฉลองเทศกาลอยู่เพิงเหมือนชาวยิวทั้งหลาย
แม้เป็นการไปเงียบ ๆ ไม่ประสงค์ให้ใครเห็น แต่เมื่อโอกาสเหมาะมาถึง พระองค์ไม่ทรงลังเลในการตรัสถึงที่มาและพันธกิจของพระองค์ “เรามิได้มาตามใจตนเอง
พระองค์ผู้ทรงส่งเรามาทรงสัจจะ ท่านไม่รู้จักพระองค์ แต่เรารู้จักพระองค์
เพราะเรามาจากพระองค์ และพระองค์ทรงส่งเรามา” (ยน 7:28)
ในชีวิตประจำวันเรารู้สึกกลัวการทำความดี
การเป็นพยานความจริง และความถูกต้องชอบธรรมตามความเชื่อคริสตชนไหม เราได้ใช้โอกาสที่มีพูดถึงพระเจ้ากับเพื่อนบ้าน หรือเพื่อนของเรามากน้อยเพียงใด
หรือเราไม่กล้าพูดถึงเรื่องศาสนาเพราะกลัวการถูกเยาะเย้ยถากถาง ไม่กล้าแสดงตนเป็นคริสตน หรือเป็นศิษย์พระคริสต์ด้วยซ้ำ
เรากำลังเดินทางเข้าใกล้เทศกาลปัสกา
ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบพระเยซูเจ้าในการปฏิบัติตามแผนการและพระประสงค์ของพระเจ้า
กล้าพูดถึงพระเจ้าของเรา และกล้าเป็นพยานความจริงและความถูกต้องชอบธรรม นี่คือที่มาและเป้าหมายแห่งการเป็นคริสตชนของเราในปัจจุบัน
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561), หน้า 107-108.
ที่มาภาพ : https://www.pinterest.com/pin/550494754446934070/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น