วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2562

พยานของพระเยซูเจ้า



 พยานของพระเยซูเจ้า 

พฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 4
เทศกาลมหาพรต
อพย 32:7-14
ยน 5:31-47
การที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนเจ็บป่วยในวันสับบาโตและเอ่ยนามพระบิดาเจ้า ทำให้ชาวยิวรับไม่ได้และไม่เชื่อพระองค์ พระวรสารวันนี้เราได้เห็นพระเยซูเจ้าเอ่ยนามพยานทั้งห้า เพื่อยืนยันความจริงเกี่ยวกับพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธกิจของพระเจ้าในตัวพระองค์ พยานเหล่านี้ได้ประกาศว่า พระองค์เป็นพระผู้ไถ่ และเป็นพยานถึงความจริงเกี่ยวกับพระองค์ เพื่อประชาชนจะได้ยอมรับและเชื่อพระองค์
พยานแรก พระบิดาเจ้า ผู้ส่งพระเยซูเจ้ามา งานที่ทรงกระทำอยู่เป็นเครื่องยืนยันว่า พระบิดาทรงส่งพระองค์มา เฉพาะผู้มีพระวาจาของพระเจ้าในจิตใจเท่านั้นสามารถเห็นการเป็นพยานของพระบิดาเจ้า “พระบิดาทรงส่งเรามายังทรงเป็นพยานถึงเราอีกด้วย” (ยน 5: 31)
พยานที่สอง ยอห์นบัปติสต์ พยานบุคคลที่ประชาชนยอมรับ ยอห์นได้ชี้ว่า พระเยซูเจ้าคือผู้เสด็จมา “นี่คือลูกแกะพระเจ้า” อีกทั้งยังบอกให้ศิษย์ของท่านติดตามพระองค์ในฐานะผู้นำคนใหม่ ส่วนท่านเป็นแต่เพียงผู้นำทาง หรือเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร “พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง” (ยน 3:30)
พยานที่สาม งานน่ามหัศจรรย์ ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ อาทิ การรักษาคนเจ็บป่วย อัศจรรย์และเครื่องหมายต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า พระเยซูเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่ายอห์นบัปติสต์ ทรงเป็นพระเจ้าเท่าเสมอพระบิดา งานที่ทรงกระทำประกาศตัวมันเองเพราะ “เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้จากผลของต้นไม้นั้น” (ลก 6: 44)
พยานที่สี่ พระคัมภีร์ ได้แก่ เพลงสดุดี หนังสือปรีชาญาณ และหนังสือประกาศก พระเยซูเจ้าทรงบอกผู้ฟังให้แสวงหาความจริงในพระคัมภีร์ที่อ้างถึงพระองค์ การเสด็จมาของพระองค์เป็นการทำให้คำทำนายเกี่ยวกับพระองค์ในพันธสัญญาเดิมเป็นความจริง
พยานที่ห้า โมเสส พระเยซูเจ้าทรงอ้างประกาศกผู้ยิ่งใหญ่อย่างโมเสส ผู้ประทานบัญญัติแก่ชาวยิว โมเสสได้อ้างถึงการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงเตือนพวกเขาว่า ข้อความตอนนี้เขียนถึงพระองค์ อีกทั้งในการจำแลงพระกายที่ภูเขาทาบอร์ โมเสส และเอลียาห์ได้ปรากฏมาหาพระองค์
พยานที่พระเยซูเจ้าทรงอ้างคือคำตอบสำหรับชาวฟาริสี ที่ปฏิเสธการรักษาคนเจ็บป่วยในวันสับบาโตของพระองค์ ทำให้พวกเขาได้รู้ถึงพระญาณเอื้ออาทรและความรักห่วงใยของพระเจ้า ความเชื่อของเราในองค์พระเยซูเจ้าอยู่ในระดับใดของชีวิต หากอยู่เพียงระดับความรู้ทางสติปัญญาเหมือนชาวฟาริสี มหาพรตคงคงเป็นเพียงการปฏิบัติตามปฏิทินของพระศาสนจักร ไม่ได้มีคุณค่าใด ๆ ต่อชีวิตของเรา
นักบุญอัลแซล์มนักปราชญ์ของพระศาสนจักรกล่าวว่า พระเจ้าอาจใช้เราเป็นเครื่องมือเพื่อให้คนอื่นรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์ บางทีพระองค์อาจใช้คนอื่นเพื่อสอน หรือช่วยแก้ไขเราให้ถูกต้อง ศิษย์พระคริสต์ต้องแสวงหาความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าเพื่อรักพระองค์ให้มากขึ้น บนหนทางแห่งความรอดและถูกต้องชอบธรรม ทำให้เทศกาลมหาพรตมีความหมายสำหรับชีวิตเรามากกว่าทุกปี
ขวัญ ถิ่นวัลย์, เทศกาลมหาพรต 40 วันแห่งการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน, (สกลนคร : สมศักดิ์การพิมพ์ กรุ๊ป, 2561), หน้า 105-106.
ที่มาภาพ :  https://godrunning.com/2016/05/28/5-witnesses-to-jesus/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น