วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561

ดวงตาแห่งความเชื่อ


ดวงตาแห่งความเชื่อ
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
กจ 13:44-52
ยน 14:7-14
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับฟิลิป ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของคำสอนในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับบรรดาอัครสาวก คำตอบของพระเยซูเจ้าได้บอกให้เราทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับพระบิดาเจ้า ที่ทรงเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้น ใครที่เห็นพระองค์ก็เห็นพระบิดาเจ้า นี่คือความจริงพื้นฐานที่ศิษย์ของพระองค์ควรเชื่อและเข้าใจนานแล้ว (แต่สำหรับชาวยิวนี่ถือเป็นเรื่องสะดุดอย่างร้ายแรง)
พระเยซูเจ้าได้อธิบายให้ฟิลิปและเราได้เข้าใจอีกครั้งว่า “ท่านทั้งหลายจงเชื่อเราเถิดว่าเราดำรงอยู่ในพระบิดา และพระบิดาก็ทรงดำรงอยู่ในเรา หรืออย่างน้อยท่านทั้งหลาย จงเชื่อเพราะกิจการเหล่านี้เถิด” (ยน 14:11) พระองค์ได้แสดงให้เห็นถึงงานและพระวาจาของพระบิดาเจ้า ด้วยการเทศน์สอนและกระทำการอัศจรรย์ต่างๆ มากมาย ซึ่งศิษย์ของพระองค์ต้องมองด้วยดวงตาแห่งความเชื่อ
พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องความเชื่อจากบรรดาอัครสาวกและศิษย์ของพระองค์ หลังจากได้รับพระจิตเจ้าฟิลิปได้เจริญชีวิตตามความเชื่อและได้เป็นพยานถึงความเชื่อนี้ด้วยชีวิต โดยการถูกตรึงกางเขนที่เอเชียน้อย ซึ่งบรรดาอัครสาวกต่างเป็นพยานถึงความเชื่อนี้ และเราคริสตชนถูกเรียกร้องให้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อนี้เช่นกัน เราต้องเป็นดังกระจกเงาที่สะท้อนภาพของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน
พระเยซูเจ้ายังตรัสด้วยว่า “ผู้ที่เชื่อในเราก็จะทำกิจการที่เรากำลังทำอยู่ด้วย และจะทำกิจการที่ใหญ่กว่านั้นอีก” (ยน 14:12) นั่นหมายความว่าความเชื่อที่เรามีต้องแสดงออกในภาคปฏิบัติ ด้วยการเลียนแบบอย่างของพระองค์ ในความรัก ความเมตตา และการรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยใจกว้าง นี่คือความเชื่อที่มีชีวิตและเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งพระศาสนจักรต้องการจากศิษย์พระคริสต์มากที่สุดในปัจจุบัน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Hotel Metropolitan, Tel Aviv, ISRAEL
27 เมษายน 2018
ภาพ: ศิษย์พระคริสต์, แสงธรรมรุ่น 15, Stella Maris Monastery, Haifa, ISARAEL; 2018-04-27

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น