ดวงตาแห่งความเชื่อ
วันเสาร์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
|
กจ 13:44-52
ยน 14:7-14
|
พระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับฟิลิป
ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของคำสอนในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับบรรดาอัครสาวก
คำตอบของพระเยซูเจ้าได้บอกให้เราทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับพระบิดาเจ้า
ที่ทรงเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแน่นแฟ้น ใครที่เห็นพระองค์ก็เห็นพระบิดาเจ้า นี่คือความจริงพื้นฐานที่ศิษย์ของพระองค์ควรเชื่อและเข้าใจนานแล้ว
(แต่สำหรับชาวยิวนี่ถือเป็นเรื่องสะดุดอย่างร้ายแรง)
พระเยซูเจ้าได้อธิบายให้ฟิลิปและเราได้เข้าใจอีกครั้งว่า
“ท่านทั้งหลายจงเชื่อเราเถิดว่าเราดำรงอยู่ในพระบิดา
และพระบิดาก็ทรงดำรงอยู่ในเรา หรืออย่างน้อยท่านทั้งหลาย
จงเชื่อเพราะกิจการเหล่านี้เถิด” (ยน 14:11)
พระองค์ได้แสดงให้เห็นถึงงานและพระวาจาของพระบิดาเจ้า
ด้วยการเทศน์สอนและกระทำการอัศจรรย์ต่างๆ มากมาย ซึ่งศิษย์ของพระองค์ต้องมองด้วยดวงตาแห่งความเชื่อ
พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องความเชื่อจากบรรดาอัครสาวกและศิษย์ของพระองค์
หลังจากได้รับพระจิตเจ้าฟิลิปได้เจริญชีวิตตามความเชื่อและได้เป็นพยานถึงความเชื่อนี้ด้วยชีวิต
โดยการถูกตรึงกางเขนที่เอเชียน้อย ซึ่งบรรดาอัครสาวกต่างเป็นพยานถึงความเชื่อนี้
และเราคริสตชนถูกเรียกร้องให้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อนี้เช่นกัน เราต้องเป็นดังกระจกเงาที่สะท้อนภาพของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน
พระเยซูเจ้ายังตรัสด้วยว่า “ผู้ที่เชื่อในเราก็จะทำกิจการที่เรากำลังทำอยู่ด้วย
และจะทำกิจการที่ใหญ่กว่านั้นอีก” (ยน 14:12)
นั่นหมายความว่าความเชื่อที่เรามีต้องแสดงออกในภาคปฏิบัติ
ด้วยการเลียนแบบอย่างของพระองค์ ในความรัก ความเมตตา
และการรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยใจกว้าง
นี่คือความเชื่อที่มีชีวิตและเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งพระศาสนจักรต้องการจากศิษย์พระคริสต์มากที่สุดในปัจจุบัน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
Hotel Metropolitan, Tel Aviv, ISRAEL
27 เมษายน 2018
27 เมษายน 2018
ภาพ: ศิษย์พระคริสต์, แสงธรรมรุ่น 15, Stella Maris Monastery, Haifa, ISARAEL; 2018-04-27
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น