วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา
ปี B
|
กจ 3:13-15,
17-19
1ยน 2:1-5ก
ลก 24:35-48
|
บทนำ
มีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นที่ประเทศยูโกสลาเวีย
ผู้พิพากษาคนหนึ่งถูกไฟฟ้าช๊อตขณะอาบน้ำ ภรรยาพบเขานอนหมดสติได้เรียกให้คนช่วยนำส่งโรงพยาบาล
แพทย์ลงความเห็นว่าเขาเสียชีวิตแล้ว ภรรยาได้นำร่างของเขาไปไว้ที่ศาลาพักศพ
สถานีวิทยุได้กระจายข่าวการเสียชีวิตของผู้พิพากษารายนี้อย่างรวดเร็ว กลางดึกคืนนั้นเอง
ผู้พิพากษาเริ่มรู้สึกตัว เมื่อทราบว่าตนเองอยู่ที่ไหนได้รีบไปบอกยาม
พอเห็นเขาเท่านั้นยามตาลีตาเลือกวิ่งหนีไป
ผู้พิพากษาได้โทรศัพท์ไปบ้านบอกภรรยา
แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเพราะเพียงเขาบอกว่า “สวัสดีที่รัก นี่ผมเองนะ”
ภรรยาของเขาแผดร้องและเป็นลมหมดสติ เขาพยายามโทรหาเพื่อนบ้านหลายคนแต่พวกเขาคิดว่าเป็นการล้อเล่นของพวกนึกสนุก
เขาเดินไปเคาะประตูบ้านหลายคน แต่ทุกคนต่างคิดว่าเขาเป็นผี ที่สุด เขาตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อนต่างเมืองที่ไม่ทราบข่าวการตายของเขา
อาศัยเพื่อนคนนี้จึงสามารถบอกครอบครัวและคนอื่นว่าเขายังมีชีวิตอยู่
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้พยายามบอกบรรดาศิษย์ของพระองค์ให้ทราบว่าพระองค์ไม่ใช่ผี
ทั้งนี้เพื่อขจัดความคลางแคลงสงสัยและความหวาดกลัวของพวกเขาให้หมดสิ้นไป
พระองค์ได้แสดงมือและเท้าให้พวกเขาได้เห็น ทรงเชื้อเชิญให้สัมผัสและมองดูตัวตนของพระองค์อย่างที่ทรงเป็น
และได้กินปลาย่างชิ้นหนึ่งต่อหน้าพวกเขา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์ไม่ใช่ผี ทรงประทับท่ามกลางพวกเขาเหมือนเมื่อครั้งที่ทรงอยู่กับพวกเขาตลอดสามปี
1.
การเป็นพยานถึงการกลับคืนพระชนมชีพ
ศิษย์สองคนที่พระเยซูเจ้าปรากฏพระองค์ให้เห็นระหว่างเดินทางไปเอมมาอูส รีบเร่งเดินทางกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
เพื่อเล่าเหตุการณ์น่ายินดีที่พวกเขาได้พบพระเยซูเจ้าให้บรรดาอัครสาวกได้ทราบ เมื่อมาถึงพวกเขาพบว่าเปโตรเองได้พบพระอาจารย์เจ้าเช่นกัน
ขณะที่พวกเขาถกเถียงกันถึงเรื่องนี้อยู่ พระเยซูเจ้าได้ปรากฏพระองค์ท่ามกลางพวกเขา
ลูกาได้บันทึกและบอกเล่าเรื่องราวตอนนี้เพื่อบอกว่า การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า ทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ปรากฏเป็นจริง และพระคริสตเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพแสดงพระองค์ในพิธีบิขนมปัง
พระศาสนจักรในระยะเริ่มแรก
มีเอกลักษณ์อยู่ที่พิธีบิขนมปังและการนำสิ่งของมารวมเป็นของกลาง (กจ 2:42) กลุ่มคริสตชนแรกมักเว้นที่ให้พระเยซูเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพประทับอยู่ด้วยเสมอ
ดังนั้น
การที่บรรดาคริสตชนแรกมาร่วมพิธีบิปัง เพื่อได้พบกับองค์พระคริสตเจ้าผู้กลับคืนพระชนมชีพ
ในพิธีบิขนมปังพระเยซูเจ้าได้บันดาลให้ศิษย์ทั้งสองคนตาสว่าง
พระองค์ได้แปรเปลี่ยนความท้อแท้สิ้นหวังของพวกเขาให้กลายเป็นความยินดีและความหวัง
จนพวกเขาไม่สามารถเก็บไว้กับตัวเอง ต้องรีบรุดกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มในคืนนั้น เพื่อแบ่งปันประสบการณ์นี้กับคนอื่น
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราพบพระเยซูเจ้าในพิธีบิขนมปัง ศิษย์สองคนที่เอมมาอูสจำพระเยซูเจ้าได้ตอนบิขนมปัง
เราสามารถพบพระองค์ได้ในพิธีบูชาขอบพระคุณที่เรามาร่วมทุกอาทิตย์
ในภาควจนพิธีกรรมพระเยซูเจ้าทรงตรัสกับเรา ในศีลมหาสนิท
พระเยซูเจ้าทรงกลายเป็นอาหารฝ่ายจิตของเรา ที่ทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และเพื่อนพี่น้อง
เรามารวมตัวกันเช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวกและศิษย์รุ่นแรก เพื่อฟังพระวาจา
แบ่งปันข่าวดี และนำไปปฏิบัติ
ประการที่สอง เราต้องสานต่อพันกิจของพระเยซูเจ้า ในฐานะคริสตชนเราได้รับมอบหน้าที่ในการสานต่อ “พันธกิจแห่งความรัก
ความเมตตา และการให้อภัย” ของพระเยซูเจ้าในชีวิตประจำวัน ทรงต้องการปากของเราในการพูดถึงข่าวดีแห่งการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์และให้กำลังใจคนที่สิ้นหวัง
ทรงต้องการหูของเราในการฟังปัญหาของคนที่ทุกข์ร้อน และทรงต้องการมือของเราในการช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน
ประการที่สาม เราต้องเป็นพยานถึงการกลับคืนพระชนมชีพ บรรดาอัครสาวกได้เป็นพยานถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าด้วยชีวิตของพวกเขา
เราต้องเป็นพยานถึงการกลับคืนพระชนมชีพนี้เช่นเดียวกัน ด้วยการเชื่อถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา
ในบ้าน ในที่ทำงาน และในหมู่คณะของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนยากจน คนเจ็บป่วย และคนเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การร่วมเดินทางของพระเยซูเจ้าบนเส้นทางสู่เอมมาอูส เป็นเครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา
ทรงร่วมชีวิตกับเราโดยเฉพาะในห้วงเวลาแห่งความทุกข์และความยากลำบาก แม้เราจำพระองค์ไม่ได้ก็ตาม
การร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณเตือนเราถึงอาหารฝ่ายจิตที่ต้องแบ่งปัน
และเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง
เอมมาอูส หมายถึงทุกที่ที่เราสามารถพบพระเจ้า ทรงเปิดเผยพระองค์ทุกครั้งที่เรารวมกันในนามของพระองค์
“ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นในหมู่พวกเขา” (มธ
18:20) ศิษย์พระคริสต์ต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าที่ทรงร่วมเดินทางกับเรา
ตรัสกับเรา ช่วยเหลือเรา และอยู่กับเราจนสิ้นพิภพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพื่อนพี่น้องที่เราพบเห็น
เราต้องเป็นพยานถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ในชีวิตประจำวัน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
โรงเรียนเซนต์ยอแซฟยานนาวา กรุงเทพฯ
13 เมษายน 2018
ภาพ: รถเทียนปัสกาชุมชนวัดป่าพนาวัลย์, ประเพณีแห่เทียนปัสกาท่าแร่ สกลนคร; 2018-03-31
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น