ความอดทนและการไม่เป็นที่สะดุด
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา ปี B |
กดว 11:16-17,25-29 ยก 5:1-6 มก 9:38-43, 45, 47-48 |
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่า เย็นวันหนึ่งขณะที่อับราฮัมนั่งอยู่นอกเต้นท์
และเห็นชายชราคนหนึ่งซึ่งอ่อนล้าด้วยวัยชราและการเดินทาง
อับราฮัมรีบออกไปทักทายเขาแล้วเชิญเข้าไปในเต็นท์ ที่นั่นอับราฮัมล้างเท้าของชายชรา
ให้อาหาร และเครื่องดื่มแก่เขา ชายชราเริ่มรับประทานอาหารทันทีโดยไม่ภาวนา หรือขอพรใด
ๆ อับราฮัมจึงถามว่า “ท่านไม่นมัสการพระเจ้าหรือ?” นักเดินทางผู้ชราตอบว่า “ฉันบูชาไฟเท่านั้นและไม่นับถือพระเจ้าอื่นใด”
เมื่ออับราฮัมได้ยินเช่นนี้ก็โกรธจัด ได้จับชายชราแล้วโยนออกจากเต็นท์ไปท่ามกลางอากาศหนาวในยามค่ำคืน
เมื่อชายชราไปแล้ว พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมและถามว่า ชายแปลกหน้าคนนั้นอยู่ที่ไหน
อับราฮัมตอบว่า “ข้าพเจ้าไล่เขาออกไปเพราะเขาไม่นมัสการพระองค์”
พระเจ้าตรัสตอบว่า “แปดสิบปีมานี้ฉันทนทุกข์เพราะเขาแม้ว่าเขาจะดูหมิ่นฉันก็ตาม
แค่คืนเดียวท่านทนเขาไม่ได้เหรอ?”
เราแต่ละคนต่างเป็นบุตรของพระเจ้า ดังนั้น
เราต้องรักและอดทนต่อกันและกัน อีกทั้งไม่ทำตัวเป็นที่สะดุดต่อผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเล็ก
ๆ หรือผู้บริสุทธิ์ คนที่เป็นเหตุให้ผู้บริสุทธิ์
หรือผู้มีความเชื่อทำบาปย่อมมีโทษหนัก รวมถึงอวัยวะที่เป็นเหตุให้เราทำบาป
ศิษย์พระคริสต์ต้องยินดีสละทุกอย่างเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้า
1.
ความอดทนและการไม่เป็นที่สะดุด
บรรดาสาวกไม่เข้าใจและรับไม่ได้ที่เห็นคนหนึ่งขับไล่ปีศาจในนามของพระเยซูเจ้า
จึงได้ห้ามปรามเพราะ “เขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา”
(มก 9:38)
ท่าทีเช่นนี้คือท่าทีของการแบ่งพรรคแบ่งพวก ถือเขาถือเรา
ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับทัศนคติของพระเยซูเจ้า “ไม่มีใครสามารถทำอัศจรรย์ในนามของเรา
แล้วต่อมาจะว่าร้ายเราได้” (มก 9:39) ทรงประสงค์ให้เราทำงานเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวและสันติสุข
มิใช่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างอยุติธรรมเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด
การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหลายครั้งมาจากความความอิจฉาริษยาและอคติ
พระเยซูเจ้าทรงประสงค์ให้เรามีความอดทนและความใจกว้าง ในการทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่รู้จักแก่คนอื่น
“ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา” (มก 9:40)
พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ประกาศข่าวดีแห่งความรอดทั้งทางวาจาและการกระทำ
ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงอัครสาวกสิบสองคน หรือบรรดาศิษย์เท่านั้น
แต่ขยายไปถึงใครก็ตามที่ได้ยินและตอบสนองต่อข่าวดีนี้ในนามของพระองค์
พระศาสนจักรมิได้ผูกขาดงานของพระเจ้า ความจริง ความรัก และอำนาจในการเยียวยารักษาและคืนดี
พระเยซูเจ้าตรัสอย่างชัดเจนเรื่องการเป็นที่สะดุด “ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดา ๆ ที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาป
ถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่ถ่วงในทะเลก็ยังดีกว่า” (มก 9:42)
เราต้องไม่มี “ทัศนคติหรือพฤติกรรมที่ชักนำผู้อื่นให้ทำชั่ว”
(CCC #2284) อีกทั้งใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการเอาชนะบาปและความโน้มเอียงไม่ดีต่าง
ๆ พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า ชีวิตนิรันดรประเสริฐกว่าอวัยวะ ผู้รู้จักบังคับควบคุมตนเองได้คือมีมโนธรรมบริสุทธิ์
ย่อมบรรลุถึงชีวิตนิรันดร
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องมีความอดทนแบบคริสตชน ซึ่งเป็นความรักฉันพี่น้อง
(agape) ด้วยการอดทนต่อความอ่อนแอของผู้อื่น การไม่อดทนเป็นสัญญาณของความเชื่อที่อ่อนแอ
พระศาสนจักรต้องแสดงความรักที่อดทนต่อโลกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง 1)
ยึดมั่นในมโนธรรมและความเชื่อของตน; 2) เคารพความแตกต่างที่เราเผชิญ;
3) ยืนยันสิ่งดีงามของบุคคลอื่น และ 4)
ปล่อยให้แสงสว่างของพระคริสต์ส่องผ่านคำพูดและการกระทำของเรา
ประการที่สอง เราต้องเคารพความเชื่อที่แตกต่าง
เปิดใจกว้างต่อความจริงในศาสนาอื่น
การเคารพความเชื่อที่แตกต่างนำไปสู่ความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา รับรู้คุณค่าที่มีในแต่ละศาสนา
และร่วมมือกันสร้างสรรภราดรภาพและสันติภาพในสังคม สังคายนาวาติกันที่ 2 ย้ำว่า
“พระศาสนจักรพิจารณาด้วยความเคารพอย่างจริงใจในวิธีปฏิบัติและการดำรงชีวิต
ตลอดจนกฎและพระธรรมคำสอนเหล่านี้ของศาสนาอื่น ๆ ซึ่งถึงแม้จะแตกต่างจากที่พระศาสนจักรสอนหลายประการ
แต่บ่อยครั้ง ก็นำแสงสว่างแห่งความจริงมาส่องสว่างให้แก่มนุษย์ทุกคน”
ประการที่สาม เราต้องไม่ทำตัวเป็นที่สะดุด
เราอาจกลายเป็นที่สะดุดได้
1) เมื่อเราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร้ความเมตตาหรือไม่ยุติธรรม; 2) เมื่อเราปฏิเสธพวกเขาเนื่องจากความอ่อนแอ ข้อบกพร่อง หรือบาปของพวกเขา; 3) เมื่อเราทำให้พวกเขาอับอายโดยทำร้ายความภาคภูมิใจของพวกเขา; 4) เมื่อเราเยาะเย้ยพวกเขา หรือทำลายความฝันของพวกเขา
และ 5) เมื่อเราปฏิบัติสองมาตรฐาน หรือกำหนดมาตรฐานสูงจนเราไม่สามารถปฏิบัติตามได้
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าเตือนเราให้มีความอดทนต่อความอ่อนแอและข้อบกพร่องของกันและกัน
และไม่ทำตัวเป็นที่สะดุด ในบท “ข้าแต่พระบิดา” เราอธิษฐานภาวนาว่า “พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์” ดังนั้น เราต้องมีความอดทน
มีหัวใจที่เปิดกว้าง และไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
เพื่อให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ
การปฏิบัติตนเช่นนี้นำมาซึ่งสันติสุขและความรอดนิรันดรสำหรับเรา
การมาร่วมเฉลิมฉลองศีลมหาสนิททุกสัปดาห์ ต้องเปิดตาของเราให้มองเห็นความดีของผู้อื่น
มีความั่นคงในการทำความดีแม้ไม่มีใครเห็นหรือให้รางวัล ทั้งนี้เพื่อสรรเสริญและถวายเกียรติแด่พระเจ้า
ผู้เป็นบ่อเกิดแห่งความดีทั้งปวง ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตดีงามตามพระประสงค์ของพระเจ้า
มีความอดทนในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ถือเขาถือเรา
ไม่คิดว่าตนเองคือความถูกต้องหรือดีกว่าคนอื่น และไม่เป็นสาเหตุให้ผู้อื่นตกในบาป
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
28 กันยายน
2024
ภาพ : งานศพยออันนา สมเกียรติ ปู่ภิรมย์, ชุมชนวัดนาบัว, สกลนคร; 2024-09-24
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น