วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2567

ความอดทนและการไม่เป็นที่สะดุด

 

ความอดทนและการไม่เป็นที่สะดุด

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา

ปี B

กดว 11:16-17,25-29

ยก 5:1-6

มก 9:38-43, 45, 47-48

บทนำ

 มีเรื่องเล่าว่า เย็นวันหนึ่งขณะที่อับราฮัมนั่งอยู่นอกเต้นท์ และเห็นชายชราคนหนึ่งซึ่งอ่อนล้าด้วยวัยชราและการเดินทาง อับราฮัมรีบออกไปทักทายเขาแล้วเชิญเข้าไปในเต็นท์ ที่นั่นอับราฮัมล้างเท้าของชายชรา ให้อาหาร และเครื่องดื่มแก่เขา ชายชราเริ่มรับประทานอาหารทันทีโดยไม่ภาวนา หรือขอพรใด ๆ อับราฮัมจึงถามว่า “ท่านไม่นมัสการพระเจ้าหรือ?” นักเดินทางผู้ชราตอบว่า “ฉันบูชาไฟเท่านั้นและไม่นับถือพระเจ้าอื่นใด”

เมื่ออับราฮัมได้ยินเช่นนี้ก็โกรธจัด ได้จับชายชราแล้วโยนออกจากเต็นท์ไปท่ามกลางอากาศหนาวในยามค่ำคืน เมื่อชายชราไปแล้ว พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมและถามว่า ชายแปลกหน้าคนนั้นอยู่ที่ไหน อับราฮัมตอบว่า “ข้าพเจ้าไล่เขาออกไปเพราะเขาไม่นมัสการพระองค์” พระเจ้าตรัสตอบว่า “แปดสิบปีมานี้ฉันทนทุกข์เพราะเขาแม้ว่าเขาจะดูหมิ่นฉันก็ตาม แค่คืนเดียวท่านทนเขาไม่ได้เหรอ?”

เราแต่ละคนต่างเป็นบุตรของพระเจ้า ดังนั้น เราต้องรักและอดทนต่อกันและกัน อีกทั้งไม่ทำตัวเป็นที่สะดุดต่อผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ หรือผู้บริสุทธิ์ คนที่เป็นเหตุให้ผู้บริสุทธิ์ หรือผู้มีความเชื่อทำบาปย่อมมีโทษหนัก รวมถึงอวัยวะที่เป็นเหตุให้เราทำบาป ศิษย์พระคริสต์ต้องยินดีสละทุกอย่างเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้า

1.        ความอดทนและการไม่เป็นที่สะดุด

บรรดาสาวกไม่เข้าใจและรับไม่ได้ที่เห็นคนหนึ่งขับไล่ปีศาจในนามของพระเยซูเจ้า จึงได้ห้ามปรามเพราะ “เขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา” (มก 9:38) ท่าทีเช่นนี้คือท่าทีของการแบ่งพรรคแบ่งพวก ถือเขาถือเรา ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับทัศนคติของพระเยซูเจ้า “ไม่มีใครสามารถทำอัศจรรย์ในนามของเรา แล้วต่อมาจะว่าร้ายเราได้” (มก 9:39) ทรงประสงค์ให้เราทำงานเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวและสันติสุข มิใช่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างอยุติธรรมเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหลายครั้งมาจากความความอิจฉาริษยาและอคติ

พระเยซูเจ้าทรงประสงค์ให้เรามีความอดทนและความใจกว้าง ในการทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่รู้จักแก่คนอื่น “ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา” (มก 9:40) พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ประกาศข่าวดีแห่งความรอดทั้งทางวาจาและการกระทำ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงอัครสาวกสิบสองคน หรือบรรดาศิษย์เท่านั้น แต่ขยายไปถึงใครก็ตามที่ได้ยินและตอบสนองต่อข่าวดีนี้ในนามของพระองค์ พระศาสนจักรมิได้ผูกขาดงานของพระเจ้า ความจริง ความรัก และอำนาจในการเยียวยารักษาและคืนดี

พระเยซูเจ้าตรัสอย่างชัดเจนเรื่องการเป็นที่สะดุด “ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดา ๆ ที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาป ถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่ถ่วงในทะเลก็ยังดีกว่า” (มก 9:42) เราต้องไม่มี “ทัศนคติหรือพฤติกรรมที่ชักนำผู้อื่นให้ทำชั่ว” (CCC #2284) อีกทั้งใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการเอาชนะบาปและความโน้มเอียงไม่ดีต่าง ๆ พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า ชีวิตนิรันดรประเสริฐกว่าอวัยวะ ผู้รู้จักบังคับควบคุมตนเองได้คือมีมโนธรรมบริสุทธิ์ ย่อมบรรลุถึงชีวิตนิรันดร

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องมีความอดทนแบบคริสตชน ซึ่งเป็นความรักฉันพี่น้อง (agape) ด้วยการอดทนต่อความอ่อนแอของผู้อื่น การไม่อดทนเป็นสัญญาณของความเชื่อที่อ่อนแอ พระศาสนจักรต้องแสดงความรักที่อดทนต่อโลกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง  1) ยึดมั่นในมโนธรรมและความเชื่อของตน; 2) เคารพความแตกต่างที่เราเผชิญ; 3) ยืนยันสิ่งดีงามของบุคคลอื่น และ 4) ปล่อยให้แสงสว่างของพระคริสต์ส่องผ่านคำพูดและการกระทำของเรา

ประการที่สอง เราต้องเคารพความเชื่อที่แตกต่าง เปิดใจกว้างต่อความจริงในศาสนาอื่น การเคารพความเชื่อที่แตกต่างนำไปสู่ความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา รับรู้คุณค่าที่มีในแต่ละศาสนา และร่วมมือกันสร้างสรรภราดรภาพและสันติภาพในสังคม สังคายนาวาติกันที่ 2 ย้ำว่า พระศาสนจักรพิจารณาด้วยความเคารพอย่างจริงใจในวิธีปฏิบัติและการดำรงชีวิต ตลอดจนกฎและพระธรรมคำสอนเหล่านี้ของศาสนาอื่น ๆ ซึ่งถึงแม้จะแตกต่างจากที่พระศาสนจักรสอนหลายประการ แต่บ่อยครั้ง ก็นำแสงสว่างแห่งความจริงมาส่องสว่างให้แก่มนุษย์ทุกคน”

ประการที่สาม เราต้องไม่ทำตัวเป็นที่สะดุด เราอาจกลายเป็นที่สะดุดได้ 1) เมื่อเราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร้ความเมตตาหรือไม่ยุติธรรม; 2) เมื่อเราปฏิเสธพวกเขาเนื่องจากความอ่อนแอ ข้อบกพร่อง หรือบาปของพวกเขา; 3) เมื่อเราทำให้พวกเขาอับอายโดยทำร้ายความภาคภูมิใจของพวกเขา; 4) เมื่อเราเยาะเย้ยพวกเขา หรือทำลายความฝันของพวกเขา และ 5) เมื่อเราปฏิบัติสองมาตรฐาน หรือกำหนดมาตรฐานสูงจนเราไม่สามารถปฏิบัติตามได้

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระวาจาของพระเจ้าเตือนเราให้มีความอดทนต่อความอ่อนแอและข้อบกพร่องของกันและกัน และไม่ทำตัวเป็นที่สะดุด ในบท “ข้าแต่พระบิดา” เราอธิษฐานภาวนาว่า “พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์” ดังนั้น เราต้องมีความอดทน มีหัวใจที่เปิดกว้าง และไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ การปฏิบัติตนเช่นนี้นำมาซึ่งสันติสุขและความรอดนิรันดรสำหรับเรา

การมาร่วมเฉลิมฉลองศีลมหาสนิททุกสัปดาห์ ต้องเปิดตาของเราให้มองเห็นความดีของผู้อื่น มีความั่นคงในการทำความดีแม้ไม่มีใครเห็นหรือให้รางวัล ทั้งนี้เพื่อสรรเสริญและถวายเกียรติแด่พระเจ้า ผู้เป็นบ่อเกิดแห่งความดีทั้งปวง ศิษย์พระคริสต์ต้องดำเนินชีวิตดีงามตามพระประสงค์ของพระเจ้า มีความอดทนในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ถือเขาถือเรา ไม่คิดว่าตนเองคือความถูกต้องหรือดีกว่าคนอื่น และไม่เป็นสาเหตุให้ผู้อื่นตกในบาป

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

28 กันยายน 2024

ภาพ :  งานศพยออันนา สมเกียรติ ปู่ภิรมย์, ชุมชนวัดนาบัว, สกลนคร; 2024-09-24

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น