วันของพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
เสาร์
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา
|
1 คร 4:6ข-15
ลก 6:1-5
|
พระวรสารวันนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดกฎวันสับบาโต
“ทำไมท่านทำสิ่งต้องห้ามในวันสับบาโตเล่า” (ลก 6:2) บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีได้เพิ่มข้อห้ามในวันสับบาโตมากถึง
39 อย่าง รวมถึงการเด็ดรวงข้าวมาขยี้กิน เพราะถือเป็นการทำงานซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในวันของพระเจ้า
พวกเขาใส่ใจการรักษากฎเกณฑ์ภายนอก
มากกว่าการทำให้วันของพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
พระเยซูเจ้าทรงตอบคำถามของชาวฟาริสี โดยอ้างเรื่องกษัตริย์ดาวิดและผู้ติดตามได้กินขนมปังในพระวิหารเพราะความหิว
ซึ่งมีแต่บรรดาสมณะเท่านั้นกินได้ ทรงแสดงให้เห็นว่า ความรักต่อผู้กำลังหิวสำคัญกว่าการรักษากฎเกณฑ์ของวันสับบาโต
พระองค์ทรงทำให้บทบัญญัติของพระเจ้าสมบูรณ์ในการรักเพื่อนมนุษย์ ซึ่งทรงกระทำให้เห็นด้วยชีวิตของพระองค์บนไม้กางเขน
“ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15:13)
คริสตชนต้องใส่ใจต่อเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ
เราได้พยามช่วยเหลือพวกเขาทันที หรือปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไม่ได้ทำอะไร การไปวัดวันอาทิตย์เพื่อร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณจะไม่มีความหมายอะไร
หากเราละเลยและมองข้ามความรักต่อผู้กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ พระเยซูเจ้าทรงท้าทายเราให้นำความเชื่อสู่ภาคปฏิบัติ
ในการรักเพื่อนมนุษย์และรับใช้ซึ่งกันและกัน
เราต้องรับใช้พระเจ้าผ่านทางเพื่อนมนุษย์
ความรักต่อเพื่อนมนุษย์สำคัญและอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้กำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ “ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง
ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25:40) ศิษย์พระคริสต์ต้องทำให้วันของพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ความเชื่อของเราปรากฏผลในภาคปฏิบัติ
ในการรัก การรับใช้ และการให้อภัยกันด้วยใจกว้าง
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
6 กันยายน 2019
ภาพ : วันของพระเจ้า, วัดพระเมตตาแห่งพระเยซูเจ้า โนนค้อ, สกลนคร; 2019-08-11
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น