วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนโรคเรื้อน


พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนโรคเรื้อน
พฤหัสบดี
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลธรรมดา
1ซมอ 4:1-11
มก 1:40-45
โรคเรื้อนเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สุดในสมัยพระเยซูเจ้า สามารถติดต่อและทำลายบุคคลทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และศาสนา ชาวยิวเชื่อและปฏิบัติต่อคนโรคเรื้อนว่า “เป็นการลงโทษของพระเจ้า” หากการปฏิบัติต่อคนโรคเรื้อนตามหนังสือเลวีนิติเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า (ดู ลนต 13:1-2, 45-46) พระเยซูเจ้าซึ่งเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมและส่งมา คงไม่สามารถรักษาคนโรคเรื้อนได้
คนโรคเรื้อนในพระวรสารเป็นตัวแทนของคนหมดสิ้นหนทาง เขาละเมิดกฎของโมเสสที่บอกให้อยู่ห่างจากผู้คน เขามาเฝ้าพระเยซูเจ้าและคุกเข่าลงอ้อนวอนว่า “ถ้าพระองค์พอพระทัย พระองค์ย่อมสามารถรักษาข้าพเจ้าให้หายได้” (มก 1:40) พระเยซูเจ้าทรงสงสาร ตื้นตันพระทัย ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขาและตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” (มก 1:41) นี่เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า โรคเรื้อนมิใช่การลงโทษของพระเจ้า
มีเพียงพระทัยเมตตาและความรักของพระเยซูเจ้า สามารถสัมผัสวิญญาณของคนบาป และรักษาความเจ็บป่วยด้านร่ายกายและจิตใจของเขาได้ ซึ่งเราไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง นอกจากอาศัยพระเยซูเจ้าผ่านทางศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการคืนดี เราต้องหมั่นมาหาพระองค์บ่อย ๆ เพื่อให้พระองค์ทรงรักษาเรา พระองค์ไม่เพียงทรงอภัยบาปเรา แต่ยังทรงรักษาความอ่อนแอของชีวิตฝ่ายจิตของเราด้วย
พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ไม่มีโรคชนิดไหนทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ซึ่งต้องถูกตัดขาดไม่ให้ร่วมพิธีทางศาสนา พระองค์ทรงปลอบใจคนโรคเรื้อนด้วยการสัมผัสเขา ตามกฎของโมเสส ใครสัมผัสคนโรคเรื้อนต้องเป็นมลทินจนถึงเย็น พระองค์ทรงแสดงให้เห็นความรักและพระเมตตาของพระเจ้าต่อมนุษย์ทุกคนโดยไม่ยกเว้น เสด็จมาเพื่อตามหาแกะผลัดฝูง ทรงกางพระกรต้อนรับทุกคนด้วยความรักหาขอบเขตมิได้
พระเยซูเจ้าประทับท่ามกลางเราและทรงประสงค์ให้เราทำพันธกิจของพระองค์ ในการสัมผัสและนำทุกคนให้มาเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ปัจจุบันโรคที่แพร่ละบาดไม่ใช่โรคเรื้อน แต่เป็นโรคแห่งความเกียดชังและการแบ่งแยก ศิษย์พระคริสต์ได้รับการเรียกให้เจริญชีวิตความเชื่อในหมู่คณะ เป็นเครื่องหมายแห่งพระทัยเมตตาและความรักของพระเจ้า ต้องไม่มีใครถูกตัดขาดจากหมู่คณะ หรือถูกทอดทิ้งโดยที่เราไม่ได้ยื่นมือช่วยเหลือ
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
16 มกราคม 2019
ที่มาภาพ : http://www.manitobacopticfestival.ca/wp-content/uploads/2017/05/Photo-19.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น