การรับใช้: ความรักในภาคปฏิบัติ
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 25
เทศกาลธรรมดา
ปี B
|
ปชญ 2:12, 17-20
ยก 3:16-4:3
มก 9:30-37
|
บทนำ
ฉากหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา เป็นฉากการฉลองครบรอบสี่สิบปีขององค์การสหประชาชาติปี
1983 นายฮาเวียร์ เปเรซ เดอ เควญ่า เลขาธิการ ได้ยืนขึ้นแนะนำคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาแก่ผู้แทนผู้ทรงเกียรติจากชาติสมาชิก
ด้วยประโยคเดียวสั้นๆ ว่า “ข้าพเจ้าขอแนะนำผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก”
อะไรที่ทำให้ผู้หญิงสูงอายุและอ่อนแอคนหนึ่งได้รับเกียรติเช่นนั้น
นอกจากการรับใช้แบบคริสตชนด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน
คุณแม่เทเรซาหรือนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา
ได้สอนสมาชิกในคณะว่า “การอธิษฐานภาวนาคือความเชื่อในภาคปฏิบัติ ความเชื่อในภาคปฏิบัติคือความรัก และความรักในภาคปฏิบัติคือการรับใช้”
คุณแม่เทเรซาได้เจริญชีวิตพิสูจน์พระวาจาของพระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้
ในการรับใช้ทุกคนด้วยความรักและเมตตากรุณา ทำให้คุณแม่ได้รับรางวัลมากมายในระดับชาติและนานาชาติ
ทุกคนรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของคุณแม่จากการรับใช้คนจนที่น่าสงสารที่สุด
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้เชื้อเชิญเราให้กระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
อย่างที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำด้วยการมอบชีวิตเพื่อรับใช้ผู้อื่น ทรงเรียกร้องการอุทิศตนและรับใช้ด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน
อย่างที่นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตาได้กระทำตลอดชีวิต
นี่คือเครื่องหมายแท้จริงของการเป็นคริสตชนและเป็นศิษย์พระคริสต์ ทั้งนี้เพราะพันธกิจของพระศาสนจักรและของคริสตชนคือ
“การรับใช้”
1. การรับใช้: ความรักในภาคปฏิบัติ
พระวรสารวันนี้
พระเยซูเจ้าทรงตรัสถึงพระทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นครั้งที่สอง แต่บรรดาอัครสาวกไม่เข้าใจและรับไม่ได้
เพราะต่างคาดหวังว่าพระองค์จะทรงเป็นผู้นำทางการเมือง ที่ปลดปล่อยชนในชาติจากการปกครองของอาณาจักรโรมัน
และตั้งตนเป็นกษัตริย์ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาแต่ละคนต้องมีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ทำให้พวกเขาถกเถียงกันว่าใครจะเป็นใหญ่ที่สุดในหมู่พวกเขา
พระเยซูเจ้าได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับบรรดาอัครสาวกและเราแต่ละคน
ใครที่รับใช้ผู้อื่นคือคนที่เป็นใหญ่ที่สุด “ถ้าใครอยากเป็นคนที่หนึ่ง
ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้ายและเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” (มก 9:35)
คนที่เป็นใหญ่แท้จริงคือคนที่รับใช้ผู้อื่นด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน
ไม่ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางและความถูกต้อง แต่ตอบสนองความต้องการของผู้อื่นด้วยความรักและความเห็นอกเห็นใจ
เงื่อนไขของการเป็นใหญ่แท้จริงที่พระเยซูเจ้าตรัสถึงคือ การรับใช้ด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน
ถือเป็นกระแสเรียกของพระศาสนจักรทั้งมวลและของสมาชิกแต่ละคน
นั่นหมายความว่าคริสตชนแต่ละคนต้องเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า ผ่านทางการรับใช้ด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา บอกเราว่าเมื่อใดที่สมาชิกของพระศาสนจักรเพิกเฉยต่อการเรียกเพื่อรับใช้นี้
พระศาสนจักรจะต้องทนทุกข์
พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้บรรดาอัครสาวกเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ
มีจิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ สุภาพ และไร้เล่ห์มารยา เด็กเป็นตัวแทนของคนไร้อำนาจในทุกสังคม
ไม่มีอิทธิพลใดๆ เชื่อง่าย จนกลายเป็นเครื่องมือของการถูกล่วงละเมิดหรือทำให้เสียคน
พระเยซูเจ้าทรงนำเด็กมาเป็นตัวอย่าง เพื่อแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ตระหนักว่าในการรับใช้นั้น
เราต้องรับใช้แม้คนเล็กน้อยที่สุดซึ่งไม่มีสถานะทางสังคม เช่น คนยากจน คนถูกทอดทิ้ง
ซึ่งเป็นพระคริสตเจ้าท่ามกลางเรา
2. บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
เราต้องรับใช้ด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้รับการยอมรับหรือเป็นที่ต้องการ
ด้วยเหตุผลเรื่องชนชั้น สีผิว ศาสนาและวัฒนธรรม เราต้องตระหนักว่าอำนาจหน้าที่ที่ได้รับมา
มิใช่มีไว้เพื่อใช้บังคับหรืออยู่เหนือคนอื่น
แต่เพื่อการรับใช้ตามแบบอย่างของพระคริสตเจ้า ที่ทรงมอบแบบอย่างนี้แก่เราในการล้างเท้าอัครสาวก
การรับใช้จึงเป็นเครื่องหมายแท้จริงของการเป็นศิษย์ และเป็น “ความรักในภาคปฏิบัติ” ที่สามารถมองเห็นได้
ประการที่สอง
เราต้องกล้าลงมือปฏิบัติมากกว่าพูด เพราะกิจการย่อมดังกว่าคำพูดเสมอ เพื่อเป็นใหญ่อย่างแท้จริง
พระเยซูเจ้าทรงท้าทายเราด้วยเงื่อนไข 4 ประการ เราต้องพร้อม: 1)
เป็นคนสุดท้าย, 2) รับใช้ทุกคน, 3 ต้อนรับคนต่ำต้อยและไร้ค่าด้วยความรัก และ 4) กระทำโดยไม่หวังสิ่งใดการตอบแทน
ประการที่สาม เราต้องเป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการรับใช้ ให้เราได้วอนขอพระจิตเจ้าในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้ เพื่อขอพระองค์ได้ช่วยเราให้กลายเครื่องมือในการรับใช้ด้วยความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว
เหมือนอย่างนักบุญแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาที่ได้แสดงให้เห็นถึงพระทัยดีของพระเจ้าในการรับใช้คนยากจนและถูกทอดทิ้งที่น่าสงสารที่สุด
ซึ่งทุกคนสามารถเห็นถึงพระทัยดีของพระเจ้าผ่านทางใบหน้า แววตา รอยยิ้ม และการทักทายที่อบอุ่น
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้กระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
เหมือนทรงเรียกบรรดาอัครสาวกให้มาเข้าใจพระบุคคลและพันธกิจของพระองค์คือ
การรับใช้ด้วยความรักและสุภาพถ่อมตน ซึ่งเป็นหนทางสู่การเป็นใหญ่แท้จริง คริสตชนแต่ละคนต้องเป็นพยานถึงองค์พระคริสตเจ้าผ่านทางการรับใช้ทุกคน
เพื่อเป็นใหญ่แท้จริงและบรรลุถึงชีวิตนิรันดร คริสตชนต้องถ่อมตัวเองลงรับใช้ทุกคน
แม้คนเล็กน้อยที่สุด เช่น คนต่ำต้อย คนถูกทอดทิ้ง และคนชายขอบของสังคม
เพราะพวกเขาเหล่านี้เป็นพระคริสตเจ้าที่ประทับท่ามกลางเรา การรับใช้คือความรักในภาคปฏิบัติ
ที่พิสูจน์ความศิษย์พระคริสต์ที่นำคำสอนของพระองค์สู่การลงมือกระทำ และทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย
เพราะชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่อุทิศตนรับใช้ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดพระแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณนานิคม
21 กันยายน 2018
ที่มาภาพ: https://i1.wp.com/infinitefire.org/info/wp-content/uploads/10475434_665157180229955_8839592671271224908_o.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น