วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

การรักษาคนใบ้หูหนวก


การรักษาคนใบ้หูหนวก
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 23
เทศกาลธรรมดา
ปี B
อสย 35:4-7
ยก 2:1-5
มก 7:31-37
บทนำ
 ชายชราคนหนึ่งพูดกับแพทย์ประจำครอบครัวว่า “คุณหมอ ผมคิดว่าภรรยาของผมเริ่มมีอาการหูหนวกแล้ว” หมอได้ให้คำแนะนำว่า “ดีเลย ให้คุณทดสอบประสาทการได้ยินของภรรยา โดยยืนอยู่ห่างเธอและถามคำถาม หากเธอยังไม่ได้ยินให้ขยับใกล้อีกและถามคำถามเดิมอีกครั้ง ทำเช่นนี้จนกว่าคุณจะได้ยินคำตอบจากเธอ หมอถึงวินิจฉัยได้ว่าอาการได้ยินของภรรยาคุณรุนแรงแค่ไหน”
ชายชรากลับบ้านและเริ่มการทดสอบตามคำแนะนำของหมอ เมื่อเดินเข้าประตูบ้านเขาถามภรรยาทันทีว่า “ที่รัก เย็นนี้ทำอะไรกิน” เมื่อไม่ได้ยินคำตอบ จึงขยับเข้าใกล้เธอและถามอีกว่า “ที่รัก เย็นนี้ทำอะไรกิน” เขายังคงไม่ได้รับคำตอบและทำเช่นนี้อีกหลายครั้ง จนกระทั่งเขามายืนอยู่ต่อหน้าภรรยาและถามคำถามเดิมอีกครั้ง ที่สุด ภรรยาตอบเขาว่า “นี่คุณ ฉันบอกคุณเป็นครั้งที่สิบแล้วว่า ไข่เจียวกับคะน้าหมูกรอบ ถามอยู่ได้”
พระวรสารวันนี้พูดถึงการทำอัศจรรย์รักษาคนใบ้หูหนวกของพระเยซูเจ้า เราได้รับการเชื่อเชิญให้เปิดหู เปิดตาและลิ้นของเรา อธิษฐานภาวนาเพื่อบรรดาคริสตชนให้มีความกล้าหาญ ในการเป็นปากเป็นเสียงแทนเสียงร้องที่ไม่มีใครได้ยิน คนที่ต้องการความช่วยเหลือและถูกทอดทิ้งในสังคม อีกทั้งเปิดหูของเราเพื่อฟังพระวาจาของพระเจ้า และปล่อยให้พระจิตเจ้าได้คลายลิ้นของเราในการนำข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าและความรอดไปสู่ผู้อื่น
1.       การรักษาคนใบ้หูหนวก
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการตาบอดเลวร้ายกว่าการหูหนวก แต่ เฮเลน เคลเลอร์ (Helen Keller) ซึ่งเกิดมาตาบอดและหูหนวกบอกว่าการหูหนวกเป็นอะไรที่หนักหนากว่าความพิการใดๆ เพราะเมื่อเราไม่ได้ยิน ประตูทุกบานของโลกแห่งความเป็นจริงก็ปิดลง การฟังวิทยุเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย การดูโทรทัศน์เป็นอะไรที่จืดชืด การสนทนากับใครสักคนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่สุดเราเกิดความรู้สึกโดดเดี่ยว ถูกทอดทิ้งและกลายเป็นคนไร้ค่า
เรื่องราวของคนหูหนวกช่วยเราให้เข้าใจพระวรสารวันนี้ดียิ่งขึ้น ทำให้เราเข้าใจคนใบ้หูหนวกที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาเขาอย่างลึกซึ้ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่ายังมีตัวตนและคุณค่าอยู่ การรักษาคนใบ้หูหนวกของพระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นเครื่องหมายสำคัญ 2 ประการ นั่นคือ
1)       ทำให้ประชาชนรู้ว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด (Messiah) ตามที่ประกาศกอิสยาห์พูดถึงในบทอ่านแรก เมื่อพระผู้ช่วยให้รอดเสด็จมา “นัยน์ตาของคนตาบอดจะมองเห็น หูของคนคนหูหนวกจะได้ยิน คนง่อยจะกระโดดได้อย่างกวาง และคนใบ้จะร้องตะโกนด้วยความยินดี” (อสย 35:5-6)
2)       ทำให้ประชาชนได้เห็นถึงความรักของพระเจ้า พระเยซูเจ้าได้ทรงแสดงให้คนใบ้หูหนวกได้ตระหนักในความรักของพระองค์ที่มีต่อเขา ทรงเห็นใจสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ ช่วยเขาให้หายจากการเป็นใบ้และหูหนวก สามารถสื่อสารกับใครได้
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ ได้ให้บทเรียนและแนวปฏิบัติสำหรับเราหลายประการ
ประการแรก เราต้องช่วยพระเยซูเจ้ารักษาอาการหูหนวกและเป็นใบ้ในปัจจุบัน พระเยซูเจ้าทรงประสงค์มอบอำนาจในการรักษาด้วยการสัมผัสลิ้นของเราเพื่อตรัสกับคนยากจน คนไร้ที่พึ่งและถูกทอดทิ้งผ่านตัวเรา ทรงเชื้อเชิญเราให้มอบหัวใจให้พระองค์เพื่อสัมผัสชีวิตคนเหล่านี้ด้วยความรัก เหมือนอย่างนักบุญฟรังซิส อัสซีซี นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอลและนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา ช่วยเราให้นำความรัก ความหวังและสันติสุขไปสู่ผู้อื่น
ประการที่สอง เราต้องให้พระเยซูเจ้ารักษาอาการหูหนวกและเป็นใบ้ฝ่ายจิตของเรา เพื่อได้ยินพระวาจาที่ตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์และพระศาสนจักร เราต้องเลียนแบบคนใบ้หูหนวกในพระวรสาร ในการแสวงหาพระเยซูเจ้า ติดตามพระองค์และใช้เวลาเรียนรู้จักพระองค์ให้มากยิ่งขึ้น ผ่านทางการอ่านพระคัมภีร์และการอธิษฐานภาวนาอย่างสม่ำเสมอ
ประการที่สาม เราต้องเปิดใจต่อพระเจ้าและผู้อื่น พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นความรักที่มีต่อมนุษย์ผ่านทางคำพูด กิจการและการอัศจรรย์ พระองค์ทรงกระทำแต่สิ่งดีทั้งนั้น ชีวิตของเราต้องเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ที่ให้เกียรติและรักทุกคนโดยไม่แบ่งแยกและทำแต่สิ่งดีในชีวิต หลีกหนีหรือลดละเลิกสิ่งไม่ดีต่างๆ เช่น ความเห็นแก่ตัว ความอิจฉาริษยา ความเกลียดชัง การพนันและยาเสพติด เป็นต้น
บทสรุป
พี่น้องที่รัก การรักษาคนใบ้หูหนวกในพระวรสาร ได้เปิดเผยให้เราทราบว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ชาวยิวรอคอย อีกทั้งเปิดเผยให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อคนที่กำลังทุกข์ยากเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ทรงรู้สึกเห็นใจและสงสารคนที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น และทรงกระทำการบางอย่างโดยไม่ลังเลเพื่อช่วยเขาให้พ้นจากสภาพดังกล่าว
เราได้รับการเชื่อเชิญให้เปิดหูและลิ้นของเรา อธิษฐานภาวนาเพื่อบรรดาคริสตชนให้มีความกล้าหาญ เป็นปากเป็นเสียงแทนเสียงร้องที่ไม่มีใครได้ยิน คนที่ต้องการความช่วยเหลือและถูกทอดทิ้งในสังคม อีกทั้งเปิดหูของเราเพื่อฟังพระวาจาของพระเจ้า และปล่อยให้พระจิตเจ้าได้คลายลิ้นของเรา ในการนำข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าและความรอดไปสู่ผู้อื่น
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม
08 กันยายน 2018
ที่มาภาพ: https://i0.wp.com/thejoecatholic.org/wp-content/uploads/2014/02/23-domingo.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น