ความกลัวทำให้เสื่อม
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
ปี A
|
ยรม 20:10-13
รม 5:12-15
มธ 10:26-33
|
บทนำ
เมื่อนักบุญยอห์น
คริสโซสตอม ถูกจับและนำตัวมาอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิโรมัน อาร์กาดิอุส (Arcadius)
จักรพรรดิได้ขู่จะเนรเทศไปต่างแดน ท่านนักบุญตอบว่า “พระองค์ไม่สามารถเนรเทศข้าพระองค์ได้
เพราะโลกนี้คือบ้านพระบิดาของข้าพระองค์” จักรพรรดิตรัสด้วยความกริ้วว่า “อย่างนั้น
เราจะประหารท่าน” ท่านนักบุญตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “พระองค์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
เพราะชีวิตข้าพระองค์ซ่อนอยู่กับพระคริสต์ในองค์พระเจ้า”
เมื่อได้ยินดังนั้นจักรพรรดิทรงกริ้วมากตรัสว่า
“เราจะยึดทรัพย์เจ้า” ท่านนักบุญตอบว่า “พระองค์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
เพราะทรัพย์สมบัติของข้าพระองค์อยู่บนสวรรค์และใจของข้าพระองค์อยู่ที่นั่น”
จักรพรรดิขู่สำทับว่า “เราจะขับเจ้าจากประชาชนเพื่อจะได้ไม่มีเพื่อนอีกต่อไป” ท่านนักบุญตอบอย่างกล้าหาญว่า
“พระองค์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เช่นกัน เพราะข้าพระองค์มีเพื่อนในสวรรค์ ผู้ซึ่งตรัสว่าเราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า”
นี่คือความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของนักบุญยอห์น
คริสโซสตอม ต่อหน้าจักรพรรดิโรมัน ผู้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไม่มีสิ่งใดทำให้ท่านหวาดกลัวแม้กระทั่งความตาย
พระวาจาพระเจ้าวันนี้ เรียกเราให้ประกาศองค์พระคริสตเจ้า
ผ่านทางคำพูดและชีวิตของเราโดยปราศจากความกลัว เพราะชีวิตของเราเป็นของพระเจ้า
องค์แห่งความรักและความดีบริบูรณ์ ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดแต่ผู้เดียวที่เราวางใจ
1.
ความกลัวทำให้เสื่อม
เราคงเคยได้ยินสำนวน
“ความกลัวทำให้เสื่อม” เพราะความกลัวทำให้เราไม่กล้าทำสิ่งใด ด้วยกลัวว่าทำแล้วจะทำให้เราต่างไปจากคนอื่น
เป็นคนแปลกแยกจากสังคม ได้รับผลกระทบหรือได้ไม่คุ้มเสีย เมื่อไม่มีใครกล้าคิดกล้าทำสิ่งที่ถูกที่ควรหรือคิดนอกกรอบ
ทำให้สังคมและองค์กรย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาใดๆ คริสตชนต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
จากสิ่งไม่ดีไปสู่สิ่งที่ดี จากความเกลียดชังไปสู่ความรัก จากความเห็นแก่ตัวไปสู่การอุทิศตน
จากการทุจริตไปสู่ความสื่อสัตย์โปร่งใส จากความสิ้นหวังไปสู่ความหวัง ฯลฯ
พระวรสารวันนี้
เป็นคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้าต่อบรรดาอัครสาวก ที่ทรงส่งไปประกาศข่าวดีและรักษาคนเจ็บป่วย
ทรงแนะนำพวกเขาให้ดำเนินชีวิตเรียบง่าย
หลังจากได้ทำนายถึงการต่อต้านและการเบียดเบียนที่พวกเขาจะได้รับ
พระองค์ได้ให้กำลังใจพวกเขาให้มั่นคง โดยย้ำกับพวกเขาถึงสามครั้งว่า “อย่ากลัว”
ในพันธกิจของการประกาศข่าวดี
พวกเขาจะได้รับการปกป้องเช่นเดียวกับประกาศกเยเรมีย์ที่ได้รับการปกป้องจากพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงสั่งสอนบรรดาศิษย์มิให้กลัวผู้ใดหรือสิ่งใด
โดยให้เหตุผล 3
ประการ
1) ไม่มีใครสามารถขัดขวางความสำเร็จของพันธกิจของพระองค์
เพราะความชั่วไม่อาจชนะความดีได้ ที่สุดแล้วการกระทำที่ชั่วร้ายจะถูกเปิดเผย “ไม่มีสิ่งใดที่ปิดบังไว้จะไม่ถูกเปิดเผย
ไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนเร้นจะไม่มีใครรู้” (มธ 10:26)
2)
ผู้เบียดเบียนไม่มีอำนาจเหนือวิญญาณ
มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงอำนาจนิรันดร เราควรเคารพเชื่อฟังพระเจ้า ผู้ไม่ทรงประสงค์ให้ใครสักคนเสียไป
ประการสำคัญ การเบียดเบียนเป็นโอกาสของการเป็นประกาศก “เลือดของมรณสักขีคือเมล็ดพันธ์ชั้นดีของพระศาสนจักร”
3) ความรักหาที่สุดมิได้ของพระเจ้าที่ให้คุณค่าเรามากกว่าสิ่งใด “อย่ากลัวเลย
ท่านมีค่ามากกว่านกกระจอกจำนวนมาก” (มธ 10:31)
พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและป้อมปราการที่พร้อมจะช่วยเราเสมอในเวลาที่มีปัญหา (สดด 27:1-2;
91:1-2)
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวรสารวันนี้ได้ให้บทเรียนที่สำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก
เราต้องไม่กลัว
ความกลัวทำให้เสื่อม
ความกลัวมักเกิดจากพื้นฐานความคิดเรื่องการถูกปฏิเสธและการสูญเสีย เช่น กลัวตกงาน
กลัวเสียเงิน กลัวเสียสุขภาพ ฯลฯ เราต้องตระหนักเสมอว่าพระเจ้าทรงทราบทุกอย่างที่เกิดขึ้น
และชีวิตของเราอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ที่ทรงเอาพระทัยใส่และดูแลเราเสมอ เราจึงไม่ควรกลัวสิ่งใด
ประการที่สอง เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระเจ้า
เวลาที่เราเผชิญปัญหา
ความยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือ เรามิได้เผชิญชีวิตโดยลำพัง พระเจ้าทรงประทับอยู่กับเรา
แม้เราจะมองไม่เห็นหรือจำพระองค์ไม่ได้ แต่พระองค์ทรงประทับอยู่เคียงข้างเราเสมอ เพื่อปกป้องดูแลและเป็นแหล่งพลังแห่งชีวิต
เราจึงไม่ควรหวาดกลัวหรือกังวลสิ่งใด
ประการที่สาม
เราต้องวางใจและเชื่อในพระเจ้า พระองค์ทรงทราบทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราและสิ่งที่เราต้องการ
เราต้องวางใจและเพ่งมองไปยังพระองค์ ผู้ทรงเป็นท่อธารแห่งพระพรและทรงดูแลเรา ความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่และหาที่สุดมิได้
ทรงให้คุณค่าเรามากกว่าสิ่งใด พระองค์จึงเป็นผู้ที่เราต้องวางใจและเชื่ออย่างแท้จริง
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
เราถูกเรียกร้องให้ประกาศองค์พระคริสตเจ้า ด้วยคำพูดและการกระทำผ่านทางชีวิตของเรา
โดยไม่ต้องกลัวหรือกังวลสิ่งใด
เพราะพระเจ้าทรงทราบทุกอย่างที่เกิดขึ้นและสิ่งที่เราต้องการ ประการสำคัญ ชีวิตของเราอยู่ในพระหัตถ์และพระญาณสอดส่องของพระองค์
ที่ทรงเอาพระทัยใส่ ปกป้องคุ้มครองและดูแลเราเสมอ
เราต้องวางใจและเชื่อในพระเจ้าแต่ผู้เดียว
ผู้ทรงเป็นที่ลี้ภัยและป้อมปราการสำหรับเรา โดยเฉพาะเวลาที่เราเผชิญปัญหาและความยากลำบากในชีวิต
พระองค์ทรงประทับอยู่และเคียงข้างเราเสมอ ขอพระองค์ทรงเพิ่มพูนความเชื่อของเราให้เข้มแข็ง
เพื่อว่าเมื่อเผชิญกับพายุร้ายแห่งชีวิต เราจะได้เพ่งมองไปที่พระองค์ วางใจและเชื่อในพระองค์แต่ผู้เดียว
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
24 มิถุนายน 2017ภาพประกอบ: http://www.lachiesa.it/calendario/Detailed/20170625.shtml
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น