เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์

เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์

วันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลปัสกา

กจ 5:27-33 ยน 3:31-36

หนังสือกิจการอัครสาวกในบทอ่านแรก บอกให้เราทราบว่าแม้บรรดาอัครสาวกจะถูกห้ามไม่ให้สอนและพูดในนามของพระเจ้า แต่ความรู้และความรักที่มีต่อพระเยซูเจ้าผลักดันให้พวกท่านเป็นพยาน พร้อมที่จะพูดและสอนเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าทั่วกรุงเยรูซาเล็ม และกล้ายืนยันถึงสิ่งที่ตนเชื่อต่อหน้าสภาซันเฮดริน “เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์” (กจ 5:29)

การเชื่อฟัง คือความพร้อมที่จะยอมรับและทำตามความประสงค์ของผู้ที่มีอำนาจเหนือเรา เมื่อใดที่เราเชื่อฟังเราไม่สามารถปฏิบัติตามความคิดเห็นของเรา แต่กำลังเดินตามความคิดเห็นของคนอื่น หากความคิดเห็นนั้นไม่ถูกต้อง เป็นบาปหรือผิดศีลธรรม เรายังมีอิสระที่จะไม่ยอมรับและปฏิบัติตาม เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่ามนุษย์และกล้ายืนยันถึงความถูกต้องชอบธรรม นี่คือสิ่งท้าทายเราในสังคมปัจจุบัน

พระวรสารวันนี้เชื้อเชิญเราให้ยกจิตใจให้สูงถึงสิ่งที่อยู่เบื้องบน ไม่คิดและพูดแต่สิ่งที่เกี่ยวกับโลก แม้เราจะอยู่ในโลกแต่ต้องไม่เป็นของของโลก เราต้องพยายามความคิดอย่างพระเจ้า และมีความรู้สึกแบบเดียวกับพระเยซูเจ้า หากเราพยายามที่จะปฏิบัติเยี่ยง “ผู้ที่มาจากเบื้องบน” เราจะพบแง่ดีมากมายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักของพระเจ้าในกิจการดีของมนุษย์

พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระวาจาของพระเจ้า ที่ลงมาจากสวรรค์และเป็นพยานถึงสิ่งที่พระองค์ได้เห็นและได้ยินจากพระบิดาเจ้า เราจึงต้องเชื่อฟังพระองค์ การเชื่อพระเยซูเจ้าคือเชื่อพระบิดาเจ้า ใครที่เชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร ส่วนผู้ที่ไม่เชื่อจะสูญเสียชีวิตนิรันดรและถูกลงโทษ ความเชื่อที่เรามีจึงต้องแสดงออกในภาคปฏิบัติ ในการเลียนแบบอย่างของพระเยซูเจ้า ในความรักที่ไม่มีเงื่อนไข การรับใช้ที่สุภาพถ่อมตน และการให้อภัยไม่สิ้นสุด

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
06 เมษายน 2016