จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์
ศุกร์ สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา |
2 คร 11:18, 21-30 มธ 6:19-23 |
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างทรัพย์สมบัติในโลกและทรัพย์สมบัติในสวรรค์
พระองค์ทรงสอนว่า ทรัพย์สมบัติบนโลกไม่ยั่งยืน อาจถูกสนิม และตัวขมวนทำลาย หรือถูกขโมยได้
(มธ 6:19)
ขณะที่ทรัพย์สมบัติในสวรรค์คงอยู่และติดตัวเราไปตลอด แม้จากโลกนี้ไปแล้ว ทรัพย์สมบัติในสวรรค์คือหัวใจที่มีพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง
ซึ่งไม่มีสิ่งใดในโลกมีอิทธิพลต่อใจเราได้
ทรัพย์สมบัติของโลกได้แก่ สิ่งที่เรายึดติด
คำปลอบโยน ความเห็นของผู้อื่นเกี่ยวกับตัวเรา ความสำเร็จ ความมั่นคง ความภาคภูมิใจ
สิ่งวัตถุภายนอก ฯลฯ ส่วนทรัพย์สมบัติแห่งสวรรค์ ได้แก่
ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำและเปิดเผยให้เราทราบ ซึ่งนักบุญเปาโลเน้นว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า
ได้แก่ ความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์
ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง (กท 5:22-23)
พระเยซูเจ้ามิได้ปฏิเสธทรัพย์สมบัติของโลกที่จำเป็นเพื่อการดำรงชีพ
แต่ต้องไม่ยึดติดและไม่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต อีกทั้ง ต้องใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแบ่งปันความรักกับเพื่อนมนุษย์
ช่วยเราให้รักพระเจ้าและผู้อื่นมากยิ่งขึ้น ประการสำคัญ ทุกสิ่งในโลกไม่ได้ทำให้เราพบความสุขแท้
แม้เรามีทุกสิ่งแต่ใจยังคงว่างเปล่า นักบุญเอากุสตินเป็นตัวอย่างของผู้ที่แสวงหาความสุขทุกรูปแบบ
และที่สุดพบความจริงว่า “จิตใจข้าพเจ้าจะไม่ได้รับการพักผ่อน
จนกว่าจะได้พิงพักอยู่ในพระองค์”
แม้มีทรัพย์สมบัติในโลกนี้มาก
แต่ใจเรายังคงว่างเปล่าเหมือนคนตาบอด มองไม่เห็นทรัพย์สมบัติแท้ “ประทีปของร่างกายคือดวงตา
ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย” (มธ 6:23) คริสตชนต้องมีสายตาที่ไม่ละจากแสงสว่างแท้คือพระเยซูเจ้า
ศิษย์พระคริสต์ต้องหันดวงใจไปหาพระเจ้าผู้เป็นขุมทรัพย์แห่งสวรรค์
ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเยซูเจ้าในการสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์ ผ่านทางการอธิษฐานภาวนา
การดำเนินชีวิตตามคุณค่าพระวรสาร และกิจการดีทุกอย่างที่เราทำเพื่อผู้อื่น
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
22 มิถุนายน 2028
ที่มาภาพ : http://mjdasma.blogspot.com/2018/06/reflection-for-friday-june-22-eleventh.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น