บทเรียนจากชาวสะมาเรีย
จันทร์
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
|
กท 1:6-12
ลก 10:25-37
|
อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี เป็นบทสรุปคำสอนในภาคปฏิบัติของพระเยซูเจ้าที่เกี่ยวข้องกับภาคปฏิบัติมากที่สุด
ซึ่งมีแต่เฉพาะในพระวรสารนักบุญลูกาเท่านั้น และได้ตอบปัญหาของนักกฎหมาย “ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า”
คำตอบคือ “ใครก็ได้ที่ต้องการความช่วยเหลือ” และได้ให้แนวปฏิบัติสำหรับคริสตชนหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เรามีหน้าที่ต้องช่วยเหลือผู้อื่น แม้ว่าชายที่ถูกโจรปล้นจะประสบความเดือดร้อนเพราะความผิดพลาดของเขา
เราเห็นชัดว่า เขาเป็นคนประมาท เดินทางคนเดียวโดยลำพังในเส้นทางที่รู้ดีอยู่แล้วว่าอันตราย
ทำให้ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สะท้อนภาพความจริงแห่งชีวิตของเราแต่ละคนซึ่งเป็นคนบาป
ผิดพลาดเป็นประจำ
บางครั้งความผิดพลาดนั้นหนัก “เกือบสิ้นชีวิต”
ในสภาพเช่นนี้เราต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน
ประการที่สอง เราต้องช่วยเหลือคนเดือดร้อนก่อน
เราเห็นสมณะมีใจจดจ่อกับการปฏิบัติหน้าที่ตามจารีตพิธีในพระวิหาร
ถือปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดเรื่องการเป็นมลทิน จนลืมความต้องการของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ศาสนาสำหรับเขาเป็นแต่เพียงการถือปฏิบัติตามจารีตพิธีอย่างครบถ้วนไม่มีที่ติ
แต่ขาดมิติของชีวิตในความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะคนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนซึ่งอยู่ต่อหน้า
ประการที่สาม เราต้องช่วยเหลือคนเดือนร้อนแม้ต้องเสี่ยง ชาวเลวีไม่ยอมเสี่ยงเพราะเกรงว่า ตนเองจะติดร่างแหไปด้วย
หากหมอไม่ยอมช่วยคนไข้เพราะกลัวติดโรคย่อมไม่มีการรักษาเกิดขึ้น
แต่หมอทั้งหลายยอมเสี่ยง เหตุผลหนึ่งที่เราไม่กล้าเสี่ยงเพราะไม่อยากเดือดร้อน
คิดคำนวณดูแล้วไม่คุ้ม ทำให้เสียเวลา เสียงาน เสียอารมณ์ ประการสำคัญคือเสียเงิน แต่พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า “อย่าชั่งน้ำหนัก
อย่าคำนวณ แต่จงยอมแพ้ต่อความรัก”
ประการสุดท้าย บทเรียนจากชาวสะมาเรียซึ่งชาวยิวมองว่าเป็นคนบาป เขาได้กระทำในสิ่งที่คนเคร่งศาสนา ชื่อเสียงดี
มีเกียรติภูมิไม่ทำกัน เขาเป็นคนช่วยเหลือชายบาดเจ็บเกือบสิ้นชีวิต เขากระทำในสิ่งที่ให้ชีวิต เข้าไปหา ปลอบโยน พันแผลให้
ช่วยพยุงขึ้นหลังสัตว์ เป็นธุระจัดการเรื่องที่พัก และจัดหาคนดูแล เขาเป็นคนต่างถิ่นที่เดินทางตามลำพัง
ไม่มีทรัพย์สินมาก แต่ “ตาของเขาช่างสังเกตและหัวใจของเขาเต้นในจังหวะเดียวกันกับหัวใจของพระเจ้า”
พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องบรรดาศิษย์ให้ทำอย่างชาวสะมาเรีย
“ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด” (ลก 10:37) คำสั่งของพระองค์ต้องปลุกเร้าหัวใจเราให้ทำเช่นเดียวกัน
ศิษย์พระคริสต์ต้องเลียนแบบชาวสะมาเรีย ก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งกระแสเรียกด้วยดวงตาและหูที่เปิดกว้าง
โดยมีเข็มทิศแห่งความเมตตาเป็นเครื่องนำทาง ยอมให้หัวใจของตนเต้นในจังหวะเดียวกันกับหัวใจของพระเจ้า
เพื่อทำให้คน “เกือบสิ้นชีวิต” ที่เราพบได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
6 ตุลาคม 2019
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น