วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สมโภชพระจิตเจ้า


สมโภชพระจิตเจ้า
อาทิตย์
สมโภชพระจิตเจ้า
ปี A B C
กจ 2:1-11
1 คร 12:3-7, 12-13
ยน 20:19-23
บทนำ
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณพ่อมักซีมิเลียน โกลเบ ถูกทหารนาซีเยอรมันจับเป็นเชลยที่ค่ายกักกัน Auschwitz พร้อมกับชาวโปแลนด์จำนวนมาก ถูกทรมาน ถูกบังคับให้ทำงานหนัก ได้กินอาหารเพียงเล็กน้อย ทำให้หลายคนเสียชีวิต ส่วนใหญ่จึงหาทางหลบหนีเพื่อให้รอดชีวิต ทำให้ทหารนาซีตั้งกฎว่า “หากมีเชลยหนึ่งคนหนีไปเชลยที่เหลือสิบคนต้องตายแทน” วันหนึ่งทหารนาซีตรวจนับจำนวนเชลยปรากฏว่าหายไปหนึ่งคน จึงสั่งเชลยที่เหลือเข้าแถวแล้วสุ่มเอาสิบคนไปฆ่าเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นชายวัยกลางคน พอรู้ว่าเป็นตนเองถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงวิงวอนว่า ผมยังมีภรรยาและลูกเล็ก ๆ ที่ต้องเลี้ยงดู ขาดผมไปพวกเขาคงลำบากมาก โปรดเมตตาผมเถิด ทหารนาซีไม่ฟังคำอ้อนวอนใด ๆ ยืนกรานเอาตัวเขาไปฆ่า คุณพ่อมักซีมิเลียน โกลเบ อยู่ในแถวเชลยวันนั้นด้วย มองดูชายเคราะห์ร้ายคนนั้นด้วยความสงสารและสลดใจ ได้ตัดสินใจก้าวออกไปข้างหน้าและกล่าวว่า เอาผมไปฆ่าแทนชายคนนี้เถิด ผมตัวคนเดียวไม่มีพันธะอะไร
ทุกคนตกตะลึงในความกล้าหาญของคุณพ่อ ทหารนาซีเองนึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าหาญเช่นนี้ ชายคนนั้นจึงรอดตาย ส่วนคุณพ่อมักซีมิเลียน โกลเบ และเพื่อนเชลยอีกเก้าคนถูกนำตัวไปประหารในห้องแก๊ส วันที่คุณพ่อมักซีเลียน โกลเบ ได้รับสถาปนาเป็นนักบุญ ชายคนที่รอดชีวิตได้เป็นพยานถึงความเสียสละและกล้าหาญของท่าน เขานั่งอยู่แถวหน้าพร้อมครอบครัวด้วยน้ำตานองหน้า อะไรทำให้คุณพ่อมักซิมิเลียน โกลเบ ยอมตายแทนชายคนนั้นได้
1.        สมโภชพระจิตเจ้า
หลังโศกนาฏกรรมวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ บรรดาอัครสาวกได้รวมตัวกันที่ห้องชั้นบนที่พระเยซูเจ้าทรงเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย พวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากพระเยซูเจ้าถูกจับตรึงกางเขนและสิ้นพระชนม์ พวกเขาต่างคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคงเกิดขึ้นกับพวกเขาในไม่ช้า ค่ำวันต้นสัปดาห์พระเยซูเจ้าได้ปรากฏพระองค์ต่อหน้าพวกเขา ทรงทักทายพวกเขาให้มีสันติสุขและทรงเป่าลมเหนือพวกเขา ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้า ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็จะได้รับการอภัย” (ยน 19:23)
พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจที่ได้รับจากพระบิดาเจ้าให้แก่บรรดาอัครสาวก พระองค์ทรงส่งพวกเขาไปเหมือนอย่างที่พระบิดาทรงส่งพระองค์มา ดังนั้น พวกเขาได้สานต่องานของพระองค์ในการช่วยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากบาป เป็นการทำให้งานไถ่กู้ของพระองค์สำเร็จไปด้วยการนำของพระจิตเจ้า ด้วยเหตุนี้ พระเยซูเจ้าทรงเป่าลมเหนือพวกเขาและประทานอำนาจในการอภัยบาป อันเป็นเครื่องหมายของการประทานพระจิตเจ้า
หลังจากได้รับพระจิตเจ้าในวันเป็นเตกอสเต (Pentecoste) วันฉลองการเก็บเกี่ยวของชาวยิว บรรดาอัครสาวกได้กลายเป็นคนกล้าหาญ เข้มแข็ง และร้อนรนในการประกาศพระวรสารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและกลัวความตาย พระจิตเจ้าองค์เดียวกันนี้ทำให้คุณพ่อมักซิมิเลียน โกลเบ กล้าเผชิญกับความตายแทนชายคนนั้น พระจิตเจ้าทรงเป็นของประทานประเสริฐสำหรับพระศาสนจักร ยังทรงทำงานในพระศาสนจักร และทำให้พระศาสนจักรเติบโต
2.        บทเรียนสำหรับเรา
พระจิตเจ้าที่เราสมโภชและบทอ่านวันนี้ ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องให้พระจิตเจ้านำทางชีวิต เราได้รับพระจิตเจ้าแล้วตั้งแต่วันที่เราได้รับศีลล้างบาปและศีลกำลัง : 1) เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระจิตเจ้าในตัวเรา, 2) ให้พระจิตเจ้าบันดาลความเข้มแข็งในการเอาชนะการประจญ, 3) แสวงหาความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าในความคิด วาจา และการกระทำ และ 4) ฟังเสียงของพระจิตเจ้าตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์และคำแนะนำต่าง ๆ
ประการที่สอง เราต้องดำเนินชีวิตในการให้อภัย พระเยซูเจ้าทรงเป่าลมเหนือบรรดาอัครสาวกและประทานอำนาจในการอภัยบาป ดังนั้น เราควรมีท่าทีแห่งการให้อภัยในการปฏิบัติต่อผู้อื่น เราถูกท้าทายให้แสดงออกต่อกันด้วยความรัก ความอดทน ความใจกว้าง และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การเรียนรู้การให้อภัยเป็นสิ่งที่เราต้องทำตลอดชีวิต เพื่อสามารถเป็นตัวแทนของพระจิตเจ้าผู้ให้อภัยบาป
ประการที่สาม เราต้องดำเนินชีวิตในพระคุณของพระจิต ผู้บันดาลให้เราร้อนรนด้วยไฟแห่งความรักของพระเจ้า พร้อมอุทิศตนเพื่อพระศาสนจักร พร้อมสร้างสันติสุขเพื่อขจัดความขัดแย้งให้หมดสิ้นไป พร้อมนำความสุขของพระเจ้าไปสู่ผู้ยากจนและถูกทอดทิ้ง และพร้อมใช้พระพรต่าง ๆ ที่เราได้รับเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าองค์เดียว (1 คร 12:4)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก วันนี้เราฉลองการถือกำเนิดของพระศาสนจักร พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า ในพระกายทิพย์นี้เราได้รับการล้างและการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ผ่านทางศีลล้างบาปและศีลกำลังเราได้รับพระจิตเจ้าเหมือนบรรดาอัครสาวกได้รับในวันเปนเตกอสเต และเราได้รับมอบพันธกิจให้สานต่องานของพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวก ในการทำให้อาณาจักรของพระเจ้าเกิดขึ้นในโลก นี่คือพันธกิจและการเรียกที่เราเฉลิมฉลองวันนี้
พระเยซูเจ้าทรงบอกเราว่า สันติสุขแท้คือการให้อภัยคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ดังนั้น เราต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกันและให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง ไม่คิดว่าตนเองคือความถูกต้อง หรือดีกว่าคนอื่น ศิษย์พระคริสต์ต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้น บนพื้นฐานแห่งความรักและการให้อภัยกัน โดยเริ่มจากครอบครัว สังคม และหมู่คณะของเรา เพื่อมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งเดียวแท้จริงกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
8 มิถุนายน 2019

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น