สมโภชพระจิตเจ้า
อาทิตย์
สมโภชพระจิตเจ้า
ปี A B C
|
กจ 2:1-11
1 คร 12:3ข-7,
12-13
ยน 20:19-23
|
บทนำ
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณพ่อมักซีมิเลียน โกลเบ ถูกทหารนาซีเยอรมันจับเป็นเชลยที่ค่ายกักกัน
Auschwitz พร้อมกับชาวโปแลนด์จำนวนมาก ถูกทรมาน ถูกบังคับให้ทำงานหนัก
ได้กินอาหารเพียงเล็กน้อย ทำให้หลายคนเสียชีวิต ส่วนใหญ่จึงหาทางหลบหนีเพื่อให้รอดชีวิต
ทำให้ทหารนาซีตั้งกฎว่า “หากมีเชลยหนึ่งคนหนีไปเชลยที่เหลือสิบคนต้องตายแทน”
วันหนึ่งทหารนาซีตรวจนับจำนวนเชลยปรากฏว่าหายไปหนึ่งคน จึงสั่งเชลยที่เหลือเข้าแถวแล้วสุ่มเอาสิบคนไปฆ่าเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นชายวัยกลางคน พอรู้ว่าเป็นตนเองถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงวิงวอนว่า
“ผมยังมีภรรยาและลูกเล็ก ๆ ที่ต้องเลี้ยงดู ขาดผมไปพวกเขาคงลำบากมาก โปรดเมตตาผมเถิด” ทหารนาซีไม่ฟังคำอ้อนวอนใด
ๆ ยืนกรานเอาตัวเขาไปฆ่า คุณพ่อมักซีมิเลียน โกลเบ อยู่ในแถวเชลยวันนั้นด้วย
มองดูชายเคราะห์ร้ายคนนั้นด้วยความสงสารและสลดใจ ได้ตัดสินใจก้าวออกไปข้างหน้าและกล่าวว่า
“เอาผมไปฆ่าแทนชายคนนี้เถิด ผมตัวคนเดียวไม่มีพันธะอะไร”
ทุกคนตกตะลึงในความกล้าหาญของคุณพ่อ ทหารนาซีเองนึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าหาญเช่นนี้
ชายคนนั้นจึงรอดตาย ส่วนคุณพ่อมักซีมิเลียน โกลเบ และเพื่อนเชลยอีกเก้าคนถูกนำตัวไปประหารในห้องแก๊ส
วันที่คุณพ่อมักซีเลียน โกลเบ ได้รับสถาปนาเป็นนักบุญ ชายคนที่รอดชีวิตได้เป็นพยานถึงความเสียสละและกล้าหาญของท่าน
เขานั่งอยู่แถวหน้าพร้อมครอบครัวด้วยน้ำตานองหน้า อะไรทำให้คุณพ่อมักซิมิเลียน
โกลเบ ยอมตายแทนชายคนนั้นได้
1.
สมโภชพระจิตเจ้า
หลังโศกนาฏกรรมวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์
บรรดาอัครสาวกได้รวมตัวกันที่ห้องชั้นบนที่พระเยซูเจ้าทรงเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
พวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลังจากพระเยซูเจ้าถูกจับตรึงกางเขนและสิ้นพระชนม์
พวกเขาต่างคาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคงเกิดขึ้นกับพวกเขาในไม่ช้า
ค่ำวันต้นสัปดาห์พระเยซูเจ้าได้ปรากฏพระองค์ต่อหน้าพวกเขา
ทรงทักทายพวกเขาให้มีสันติสุขและทรงเป่าลมเหนือพวกเขา ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้า
ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็จะได้รับการอภัย” (ยน 19:23)
พระเยซูเจ้าทรงมอบพันธกิจที่ได้รับจากพระบิดาเจ้าให้แก่บรรดาอัครสาวก
พระองค์ทรงส่งพวกเขาไปเหมือนอย่างที่พระบิดาทรงส่งพระองค์มา ดังนั้น พวกเขาได้สานต่องานของพระองค์ในการช่วยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากบาป
เป็นการทำให้งานไถ่กู้ของพระองค์สำเร็จไปด้วยการนำของพระจิตเจ้า ด้วยเหตุนี้ พระเยซูเจ้าทรงเป่าลมเหนือพวกเขาและประทานอำนาจในการอภัยบาป
อันเป็นเครื่องหมายของการประทานพระจิตเจ้า
หลังจากได้รับพระจิตเจ้าในวันเป็นเตกอสเต
(Pentecoste)
วันฉลองการเก็บเกี่ยวของชาวยิว บรรดาอัครสาวกได้กลายเป็นคนกล้าหาญ
เข้มแข็ง และร้อนรนในการประกาศพระวรสารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและกลัวความตาย
พระจิตเจ้าองค์เดียวกันนี้ทำให้คุณพ่อมักซิมิเลียน โกลเบ
กล้าเผชิญกับความตายแทนชายคนนั้น พระจิตเจ้าทรงเป็นของประทานประเสริฐสำหรับพระศาสนจักร
ยังทรงทำงานในพระศาสนจักร และทำให้พระศาสนจักรเติบโต
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระจิตเจ้าที่เราสมโภชและบทอ่านวันนี้
ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก
เราต้องให้พระจิตเจ้านำทางชีวิต
เราได้รับพระจิตเจ้าแล้วตั้งแต่วันที่เราได้รับศีลล้างบาปและศีลกำลัง : 1)
เราต้องตระหนักถึงการประทับอยู่ของพระจิตเจ้าในตัวเรา, 2) ให้พระจิตเจ้าบันดาลความเข้มแข็งในการเอาชนะการประจญ, 3) แสวงหาความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าในความคิด วาจา และการกระทำ และ 4)
ฟังเสียงของพระจิตเจ้าตรัสกับเราผ่านทางพระคัมภีร์และคำแนะนำต่าง ๆ
ประการที่สอง
เราต้องดำเนินชีวิตในการให้อภัย
พระเยซูเจ้าทรงเป่าลมเหนือบรรดาอัครสาวกและประทานอำนาจในการอภัยบาป ดังนั้น
เราควรมีท่าทีแห่งการให้อภัยในการปฏิบัติต่อผู้อื่น
เราถูกท้าทายให้แสดงออกต่อกันด้วยความรัก ความอดทน ความใจกว้าง และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
การเรียนรู้การให้อภัยเป็นสิ่งที่เราต้องทำตลอดชีวิต
เพื่อสามารถเป็นตัวแทนของพระจิตเจ้าผู้ให้อภัยบาป
ประการที่สาม
เราต้องดำเนินชีวิตในพระคุณของพระจิต
ผู้บันดาลให้เราร้อนรนด้วยไฟแห่งความรักของพระเจ้า พร้อมอุทิศตนเพื่อพระศาสนจักร
พร้อมสร้างสันติสุขเพื่อขจัดความขัดแย้งให้หมดสิ้นไป
พร้อมนำความสุขของพระเจ้าไปสู่ผู้ยากจนและถูกทอดทิ้ง และพร้อมใช้พระพรต่าง ๆ
ที่เราได้รับเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ “พระพรพิเศษมีหลายประการ
แต่มีพระจิตเจ้าองค์เดียว” (1 คร 12:4)
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
วันนี้เราฉลองการถือกำเนิดของพระศาสนจักร พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า
ในพระกายทิพย์นี้เราได้รับการล้างและการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์
ผ่านทางศีลล้างบาปและศีลกำลังเราได้รับพระจิตเจ้าเหมือนบรรดาอัครสาวกได้รับในวันเปนเตกอสเต
และเราได้รับมอบพันธกิจให้สานต่องานของพระเยซูเจ้าเช่นเดียวกับบรรดาอัครสาวก ในการทำให้อาณาจักรของพระเจ้าเกิดขึ้นในโลก
นี่คือพันธกิจและการเรียกที่เราเฉลิมฉลองวันนี้
พระเยซูเจ้าทรงบอกเราว่า สันติสุขแท้คือการให้อภัยคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ดังนั้น
เราต้องดำเนินชีวิตในความรักต่อกันและให้อภัยความผิดของกันและกันด้วยใจกว้าง
ไม่คิดว่าตนเองคือความถูกต้อง หรือดีกว่าคนอื่น ศิษย์พระคริสต์ต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้เกิดขึ้น
บนพื้นฐานแห่งความรักและการให้อภัยกัน โดยเริ่มจากครอบครัว สังคม และหมู่คณะของเรา
เพื่อมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งเดียวแท้จริงกับพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, สกลนคร
8 มิถุนายน 2019
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น