วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561

สิ่งที่ทำให้คำสอนมีพลังอำนาจ


สิ่งที่ทำให้คำสอนมีพลังอำนาจ
สัปดาห์ที่ 4
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ฉธบ 18:15-20
1 คร 7:32-35
มก 1:21-28
บทนำ
ในชีวิตของนักบุญฟรังซิสอัสซีซีเล่ากันว่า วันหนึ่งฟรังซิสได้เรียกพี่น้องคนหนึ่งมาหาและบอกว่าเราจะไปประกาศข่าวดีในเมืองด้วยกัน ทั้งสองเริ่มเดินรอบเมืองโดยไม่ได้พูดถึงคำเทศน์สอนสักคำ นอกจากทักทายผู้คนที่พบตามทางด้วยถ้อยคำที่สุภาพ พี่น้องคนนั้นได้ถามฟรังซิสว่า เมื่อไหร่จะหยุดเดินเพื่อเทศน์สอนสักที ฟรังซิสตอบพี่น้องคนนั้นว่า การเดินทางของเราตั้งแต่ก้าวแรกคือการสอนประชาชน
คำพูดสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย คำพูดที่เต็มด้วยความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัย สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้ คำพูดสามารถทำให้คนที่กำลังหวาดกลัวมีความยินดี สามารถทำให้คนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังมีความหวังและกำลังใจ สามารถเปลี่ยนความเกลียดชังให้กลายเป็นความรัก คำพูดทำให้ชีวิตมีคุณค่าและความหมาย
พระวรสารวันนี้ นักบุญมาระโกได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเริ่มต้นพันธกิจของพระเยซูเจ้าในวันสับบาโต ทรงเริ่มภารกิจของพระองค์พร้อมกับชาวเมืองกาเปอร์นาอุมในศาลาธรรม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ชาวยิวไปชุมนุมกันเพื่อศึกษาพระคัมภีร์และอธิษฐานภาวนา ในสมัยพระเยซูเจ้าชาวยิวเดินทางไปพระวิหาร เพื่อถวายเครื่องสักการบูชาและอธิษฐานภาวนาเฉพาะในเทศกาลเท่านั้น แต่พวกเขาไปที่ศาลาธรรมเพื่ออธิษฐานภาวนาและศึกษาตัวบทพระคัมภีร์ทุกวันสับบาโต
1.        สิ่งที่ทำให้คำสอนมีพลังอำนาจ
นักบุญมาระโกได้นำเสนอพระเยซูเจ้าในฐานะผู้สั่งสอน อาจารย์ ผู้ทำอัศจรรย์ และนักอธิษฐานภาวนา พระองค์ทรงกระทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำในชีวิตเปิดเผยของพระองค์ ยังความประหลาดใจแก่ประชาชนทั่วไป ทรงอธิบายพระคัมภีร์ ขับไล่ปีศาจ รักษาแม่ยายของเปโตร และทรงรักษาคนเจ็บป่วยทุกชนิดที่มาหาพระองค์ ทรงเป็นอาจารย์สอนพระวาจาของพระเจ้าผ่านทางพระบุคคลและชีวิตของพระองค์ ชีวิตทั้งหมดของพระองค์คือคำสอน
พระเยซูเจ้าทรงสั่งสอนพระวาจาของพระเจ้าอย่างทรงอำนาจ ไม่เหมือนการสอนของพวกธรรมาจารย์ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการอธิบายธรรมบัญญัติและธรรมประเพณีที่พวกเขาคุ้นเคย ทรงสอนประชาชนถึงความรักของพระเจ้าจากหัวใจ ซึ่งพระองค์ทรงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด และงานช่วยให้รอดของพระองค์ต่อประชากรที่พระองค์ทรงเลือกสรร ทรงอธิบายให้เห็นการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางพวกเขาและบทบาทของพระองค์
สิ่งที่ทำให้คำสอนของพระเยซูเจ้ามีพลังอำนาจ เพราะ 1) ทรงสอนจากหัวใจไม่ใช่จากสติปัญญา มาจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระบิดาเจ้า, 2) ทรงให้ความสำคัญที่จิตตารมย์ไม่ใช่ตัวบทกฎหมาย ได้แก่ “ความรักและความเมตตากรุณา” ซึ่งเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า และ 3) มีจุดมุ่งหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงจิตใจผู้ฟังและความยากลำบากที่กำลังเผชิญ ช่วยเติมเต็มชีวิตจากความหวาดกลัว ความเกลียดชัง และความว่างเปล่าให้มีคุณค่าและความหมาย
2.        บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องเปิดใจต่อพระวาจาและคำสอนของพระเยซูเจ้า เพื่อให้พระองค์เปลี่ยนแปลงจิตใจเราและประทานความเข้าใจที่ถูกต้อง ขจัดความหวาดกลัวและความโศกเศร้าให้หมดไปจากใจเรา “พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขา จะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว” (วว 21:4)
ประการที่สอง เราต้องวางใจในพระวาจาและคำสอนของพระเยซูเจ้า แม้ในห้วงเวลาแห่งความยากลำบาก หล่อเลี้ยงชีวิตของเราด้วยพระวาจาและการอธิษฐานภาวนา เพื่อให้พระองค์เติมเต็มชีวิตเรา อีกทั้ง ช่วยขับปีศาจร้ายแห่งความเห็นแก่ตัวและความโน้มเอียงไม่ดีต่างๆ ให้ออกไปจากจิตใจเรา เพื่อเราจะได้เติบโตและเข้มแข็งในการเป็นคริสตชนที่เป็นผู้ใหญ่
ประการที่สาม เราต้องประกาศพระวาจาและคำสอนของพระเยซูเจ้า คาร์ล มาร์ก นักปรัชญาชาวเยอรมันกล่าวว่า “เป้าหมายของปรัชญาไม่ใช่การอธิบายโลกแต่เปลี่ยนแปลงโลก” เช่นเดียวกับพระวรสารที่เราประกาศและเทศน์สอนเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเราเองและผู้อื่น เราต้องพยายามทำหน้าที่ของตนอย่างดี พ่อแม่อบรมเลี้ยงดูลูกด้วยความรักและความเอาใจใส่ ลูกเคารพเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสอนของท่าน
บทสรุป
พี่น้องที่รัก เราได้เห็นถึงคำสอนที่ทรงอำนาจของพระเยซูเจ้า ทรงสอนให้เราให้ตระหนักในความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา ทรงเชื้อเชิญเราให้มามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ ทรงแสดงให้เราค้นพบคุณค่าเชิงบวกของธรรมบัญญัติคือ ความรักและความเมตตากรุณาของพระเจ้า ซึ่งยิ่งใหญ่และอยู่เหนือกฎเกณฑ์ใดๆ ขณะที่พวกธรรมมาจารย์และชาวฟาริสีพยายามรักษาธรรมบัญญัติตามตัวอักษรอย่างเคร่งครัด
พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจ ทรงรักษาประชาชนทั้งฝ่ายกายและจิตใจ พระองค์ทรงเรียกเราแต่ละคนให้กลายเป็นประชากรของพระเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องเจริญชีวิตตามกระแสเรียกของตนด้วยความเชื่อ ความหวัง และความวางใจในพระเจ้า เพื่อให้พระองค์ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากจิตชั่วและความไม่ดีต่างๆ สามารถประกาศข่าวดีแห่งความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการให้อภัยของพระเจ้าแก่ทุกคน
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดแม่พระแห่งภูเขาการ์แมล ป่าพนาวัลย์
27 มกราคม 2018
ภาพ: พระรูปพระเมตตา, วัดวนาสามัคคี, อุ่มจาน สกลนคร; 2018-01-27

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น