การถือบทบัญญัติที่แก่นแท้
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ปี B |
ฉธบ 4:1-2,6-8 ยก 1:17-18,21-22,27 มก 7:1-8,14-15,21-23 |
บทนำ
ประมาณตี 2 ของเช้าวันหนึ่งที่อากาศหนาวและมีลมแรง
คุณพ่อเจ้าอาวาสได้รับแจ้งว่าคุณปู่ของบ้านที่อยู่ห่างจากวัดเพียงสองช่วงตึกกำลังจะตาย
คุณพ่อตัดสินใจเดินไปเจิมศีลศักดิ์สิทธิ์ให้ชายที่กำลังจะตายทันที ขณะกำลังเดินผ่านตรอกเล็ก
ๆ ปรากฎร่างหนึ่งถือปืนก้าวออกมาและสั่งว่า “ส่งเงินทั้งหมดมาให้ฉัน” คุณพ่อบอกกับมือปืนว่า
“กระเป๋าเงินของฉันอยู่ในกระเป๋ากางเกง”
ขณะที่คุณพ่อเปิดเสื้อคลุมออก
มือปืนสังเกตเห็นคอเสื้อแบบโรมันของพระสงฆ์ เขาพูดว่า “ผมขอโทษ
ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณพ่อ เก็บเงินของคุณพ่อไว้เถอะ”
ด้วยความโล่งใจ คุณพ่อเจ้าอาวาสยื่นซิการ์ให้เขา แต่เขาส่ายหัวแล้วบอกว่า “ขอบคุณคุณพ่อมากครับ
แต่ผมไม่สูบบุหรี่ในช่วงเทศกาลมหาพรต” พระวรสารวันนี้
พระเยซูเจ้าทรงเรียกการถือบทบัญญัติและธรรมเนียมภายนอกว่าเป็นคนหน้าซื่อใจคด
ในศาสนายิวมี “บทบัญญัติที่จารึกไว้”
(Written Law) ได้แก่ หนังสือห้าเล่มแรก
(Torah) ที่เรียกว่า “บทบัญญัติของโมเสส” กับ “บทบัญญัติที่เล่าสืบต่อกันมา” (Oral Law) ได้แก่ สิ่งที่บรรดาธรรมาจารย์เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อขยายความบทบัญญัติของโมเสสออกไปถึง
613 ข้อ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของศาสนายิวและธรรมบัญญัติของพระเจ้า
ในสมัยของพระเยซูเจ้าบทบัญญัตินี้เป็นที่รับรู้และเรียกว่า “ธรรมเนียมของบรรพบุรุษ”
1.
การถือบทบัญญัติที่แก่นแท้
พระวรสารตอนแรก พระยซูเจ้าทรงประณามบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี เพราะการถือธรรมเนียมที่พวกเขาสร้างขึ้น
เช่น ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หรือการทำพิธีชำระตนหลังกลับจากตลาด ซึ่งเป็นเหมือนกับรั้วกั้นธรรมบัญญัติมิให้ถูกละเมิด
“ท่านทั้งหลายละเลยบทบัญญัติของพระเจ้ากลับไปถือธรรมเนียมของมนุษย์” (มก 7:8) ตอนที่สอง พระเยซูเจ้าทรงกล่าวถึงกฎเกี่ยวกับอาหารของศาสนายิว
การรับประทานอาหารบางชนิด (เนื้อสุกร)
ซึ่งทำให้มนุษย์เป็นมลทินและไม่สมควรเข้าร่วมพิธีกรรม
พระศาสนจักรยุคแรกคริสตชนมีต้นกำเนิดมาจากศาสนายิว ได้พยายามบังคับใช้กฎเหล่านี้กับคริสตชนที่มาจากพื้นเพอื่น
นักบุญมาระโกไม่เห็นด้วยและอ้างถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า เฉพาะสิ่งที่ออกมาจากใจมนุษย์ที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน
อาทิ คำหยาบคายและการกระทำที่ชั่วร้ายต่าง ๆ พระองค์ได้ตำหนิบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีอย่างรุนแรงด้วยการอ้างถ้อยคำของประกาศกอิสยาห์
“ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา”
(มก 7:6) พระองค์ทรงต้องการให้การกระทำของเราสอดคล้องกับคำพูด
พระเยซูเจ้าได้สอนชาวยิวว่า สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ไม่ใช่สิ่งที่มาจากภายนอก
แต่เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจต่างหาก สิ่งต่าง ๆ ในตัวมันเองไม่ใช่สิ่งที่เป็นมลทิน หรือไม่เป็นมลทิน
เพราะทุกอย่างที่พระเจ้าทรงสร้างมาล้วนแต่ดีทั้งนั้น
แต่เป็นมนุษย์ที่ทำให้เป็นมลทิน
การกระทำของแต่ละคนบ่งบอกเจตนาและความต้องการของเขา บทบัญญัติต่าง ๆ
ต้องนำมนุษย์ไปหาพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ นี่คือแก่นแท้และหัวใจของบทบัญญัติ
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ
ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต
ประการแรก เราต้องถือบทบัญญัติที่แก่นแท้ ไม่ปฏิบัติตามตัวอักษรเพื่อสนองความต้องการของตน แต่ปฏิบัติตามจิตตารมย์ของบทบัญญัติ
เพื่อช่วยเราให้รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์มากขึ้น เช่น การมาวัดวันอาทิตย์เพื่อนสรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับหมู่คณะ
มอบชีวิตและความต้องการของเราแด่พระองค์ ขอสมาโทษพระองค์สำหรับบาปที่เราทำ ขอบคุณพระองค์สำหรับพระพรต่าง
ๆ และรับพระองค์ในศีลมหาสนิทเพื่อเป็นพลังสำหรับเราในการรักพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องในชีวิตจริง
ประการที่สอง
เราต้องแสวงหาพระประสงค์ของเจ้า พระประสงค์ของพระเจ้าต้องสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิตของเรา
เราต้องแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าทุกวัน ด้วยการรักพระเจ้าในบุคคลที่เดือดร้อน
และให้ความช่วยเหลือผู้ที่จำเป็นเร่งด่วนที่เราพบในชีวิตจริง ชีวิตของเราต้องเป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและความรักของพระเจ้าสำหรับบุคคลเหล่านี้
ประการที่สาม เราต้องกลับใจและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ สิ่งที่ทำให้มนุษย์มีมลทินเกิดจากใจของมนุษย์
ใจของเราเป็นบ่อเกิดของความชั่วช้าและการกระทำที่ผิด อาทิ ความโลภ ความโกรธ
ความหลง ความเกียจชัง เราต้องกลับใจและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์
ด้วยการคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องทางศีลอภัยบาปทุกครั้งที่เราทำบาป
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เราเห็นว่า
มิใช่การปฏิบัติตามบทบัญญัติ ธรรมเนียมประเพณี หรือพิธีกรรมภายนอกที่สำคัญ
แต่เป็นความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ต่างหากที่เป็นแก่นแท้และหัวใจของทุกสิ่ง
ที่ช่วยให้การปฏิบัติศาสนาในชีวิตประจำวันมีคุณค่าและความหมาย
ความรักในใจของเราต้องเป็นแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ เพราะ หากปราศจากความรัก ทุกสิ่งที่เราทำย่อมไร้ค่า
(เทียบ 1
คร 13:2)
การปฏิบัติศาสนาต้องไม่ใช่ภาวะบีบคั้นที่ต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้
หรือเพื่อทำให้ตนเองดูดีในสายตาของคนอื่น พิธีกรรม ระเบียบ กฎเกณฑ์และบทบัญญัติทางศาสนา
ต้องช่วยเพิ่มพูนความรักในใจของเราทั้งต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ศิษย์พระคริสต์ต้องถือบทบัญญัติที่แก่นแท้ แสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ทำให้เรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าและเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนพี่น้องในแบบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เริ่มจากในครอบครัว หมูคณะ และชุมชนวัดของเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
ID LINE : dondaniele
วัดนักบุญยอแซฟ
ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร
31 สิงหาคม 2024
ภาพ : คริสตชุมชนวัดหนองแสง-ดงอี่บ่าง, วานรนิวาส สกลนคร; 2024-08-25
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น