วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567

สารวัดดอนทอย-หนองสนุก, ปีที่ 2 ฉบับที่ 66

สารวัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก

ปีที่ 2  ฉบับที่ 66  อาทิตย์ที่ 1  กันยายน 2024 (2567):  http.//dondaniele.blogspot.com

เลขที่ 103 หมู่ที่ 6 ตำบลสามัคคีพัฒนา อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร 47170È086-231-3231

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ปี B

เยี่ยมครอบครัวลุงสาท-ป้าปัน หลังออกจากโรงพยาบาล พฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2024

พี่น้องที่รัก  บทบัญญัติ ระเบียบ กฎเกณฑ์ และพิธีกรรมทางศาสนาเป็นสิ่งที่ดี แต่มิใช่สิ่งที่สมบูรณ์ครบครัน เป็นเพียงวิธีการนำไปสู่เป้าหมาย สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นอุปสรรคหากมิได้รับใช้เป้าหมายตามที่วางเอาไว้ บ่อยครั้งการถือบทบัญญัติตามตัวอักษรอย่างเคร่งครัดได้กลายเป็นความผิดหลง นอกจากไม่ช่วยใครได้พบพระเจ้าแล้ว อาจเป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให้ผู้ปฏิบัติได้พบพระเจ้าด้วย

พระเยซูเจ้าทรงสอนชาวยิวว่า สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทินไม่ใช่สิ่งที่มาจากภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจต่างหาก สิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าทรงสร้างล้วนแต่ดีทั้งนั้น แต่เป็นมนุษย์ทำให้เป็นมลทิน การกระทำของแต่ละคนบ่งบอกเจตนาและความต้องการของเขา บทบัญญัติต่าง ๆ ต้องนำมนุษย์ไปหาพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ นี่คือแก่นแท้และหัวใจของบทบัญญัติ

เยี่ยมครอบครัวลุงเหมียน-ป้าแดง หลังออกจากโรงพยาบาล พฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2024
         บทอ่านแรก
กฎเกณฑ์ หรือคำสั่งสอนของพระเจ้ามิใช่ภาระ แต่ช่วยเหลือและให้คำแนะนำสำหรับชีวิต ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงถูกชักนำให้ปฏิบัติตาม ธรรมบัญญัติของพระเจ้านำไปสู่ปรีชาญาณและอิสรภาพแท้จริง ใครที่ปฏิบัติตามย่อมเข้าใจถึงพระประสงค์ของพระเจ้า

บทอ่านที่สอง จดหมายนักบุญยากอบบอกเราว่า พระวาจาของพระเจ้าเป็นสิ่งที่คงอยู่ตลอดไป ทั้งนี้เพราะพระวาจาของพระเจ้าสมบูรณ์และประกอบด้วยความจริงและปรีชาญาณสูงสุด ดังนั้น การรับใช้พระเจ้าแท้จริงคือการฟังและปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ในกิจการ นี่คือการรับใช้พระเจ้าและพันธกิจของเรา

พระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นว่า มิใช่การถือปฏิบัติตามบทบัญญัติ ธรรมเนียมประเพณี หรือพิธีกรรมภายนอกที่สำคัญ แต่เป็นความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ต่างหาก ที่เป็นแก่นแท้และหัวใจของทุกสิ่ง ที่ช่วยให้การปฏิบัติศาสนาในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งมีคุณค่าและความหมาย ความรักในใจของเราต้องเป็นแรงจูงใจเราในการทำสิ่งต่าง ๆ

ประชุมกลุ่มคริสตชนพื้นฐาน คุ้มประชาสุขสันต์ อังคารที่ 27 สิงหาคม 2024
°
ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

1.          สัญญาก่อสร้างโครงสร้าง คสล วัดใหม่ กับนายฐกฤต กาญจนรัตน์ ผู้รับจ้างได้ลงนามในสัญญาแล้ว รอเพียงฝ่ายเราผู้ว่าจ้าง ลงนามและเรียกผู้รับจ้างมารับสัญญา การก่อสร้างจะเริ่มกลางเดือนนี้

2.          พฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2024 เชิญคณะอัศวินศีลมหาสนิทร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณและประชุมหลังมิสซา

3.          ศุกร์ที่ 6 กันยายน 2024 วันศุกร์ต้นเดือน เชิญคณะพระหฤทัยร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณและประชุมหลังมิสซา และมีการส่งศีลมหาสนิทผู้ป่วยและผู้สูงอายุตามปกติ

4.          เสาร์ที่ 7 กันยายน 2024 เชิญกลุ่มฆราวาสรักกางเขนร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณและประชุมหลังมิสซา

5.          เสาร์ที่ 14 กันยายน 2024 เชิญร่วมเปิดเสกวัดบุญราศีทั้งเจ็ดแห่งประเทศไทย ดอนถ่อน พิธีบูชาขอบพระคุณ 10.00 น.

6.          เงินทาน : เสาร์ 1,415.- บาท, อาทิตย์ 3,276.- บาท และยุวธรรมทูต 825.- บาท รายจ่าย : 1) ค่าตอบแทนแม่ครัว 4,000.- บาท และ 2) ค่าอินเตอรเน็ต 749.- บาท

7.          ขอบคุณ คุ้มแสนสมหมายที่รับผิดชอบพิธีกรรมและทำความสะอาดวัดสัปดาห์นี้ คุ้มที่รับผิดชอบสัปดาห์ต่อไป คุ้มแสงสว่าง

8.          เงินสมทบสร้างวัด  ตั้งแต่ 25-31 สิงหาคม 2024 ได้รับเงินที่พี่น้องทำบุญและเงินโอนเข้าบัญชีโครงการก่อสร้างวัด เป็นจำนวน 11,115.- บาท


ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาวัด เสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2024

พิธีบูชาขอบพระคุณและวันฉลองในรอบสัปดาห์

วัน

ที่

เวลา

ผู้ขอ/วันฉลอง

จุดประสงค์

อาทิตย์

01

06.30 น.

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

†สุขสำราญ พี่น้องดอนทอย-หนองสนุก

จันทร์

02

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

 

อังคาร

03

06.00 น.

ระลึกถึง น.เกรโกรี่ พระสันตะปาปา

 

พุธ

04

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

 

พฤหัสบดี

05

06.00 น.

ระลึกถึง น.เทเรซาแห่งกัลกัตตา พรหมจารี

 

ศุกร์

06

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

 

เสาร์

07

06.00 น.

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

 

 

วันเสาร์ถวายเกียรติแด่แม่พระ และกิจกรรมเด็กคำสอน เสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2024














การถือบทบัญญัติที่แก่นแท้

 


การถือบทบัญญัติที่แก่นแท้

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา

ปี B

ฉธบ 4:1-2,6-8

ยก 1:17-18,21-22,27

มก 7:1-8,14-15,21-23

บทนำ

 ประมาณตี 2 ของเช้าวันหนึ่งที่อากาศหนาวและมีลมแรง คุณพ่อเจ้าอาวาสได้รับแจ้งว่าคุณปู่ของบ้านที่อยู่ห่างจากวัดเพียงสองช่วงตึกกำลังจะตาย คุณพ่อตัดสินใจเดินไปเจิมศีลศักดิ์สิทธิ์ให้ชายที่กำลังจะตายทันที ขณะกำลังเดินผ่านตรอกเล็ก ๆ ปรากฎร่างหนึ่งถือปืนก้าวออกมาและสั่งว่า “ส่งเงินทั้งหมดมาให้ฉัน” คุณพ่อบอกกับมือปืนว่า “กระเป๋าเงินของฉันอยู่ในกระเป๋ากางเกง”

ขณะที่คุณพ่อเปิดเสื้อคลุมออก มือปืนสังเกตเห็นคอเสื้อแบบโรมันของพระสงฆ์ เขาพูดว่า “ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณพ่อ เก็บเงินของคุณพ่อไว้เถอะ” ด้วยความโล่งใจ คุณพ่อเจ้าอาวาสยื่นซิการ์ให้เขา แต่เขาส่ายหัวแล้วบอกว่า “ขอบคุณคุณพ่อมากครับ แต่ผมไม่สูบบุหรี่ในช่วงเทศกาลมหาพรต” พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงเรียกการถือบทบัญญัติและธรรมเนียมภายนอกว่าเป็นคนหน้าซื่อใจคด

ในศาสนายิวมี “บทบัญญัติที่จารึกไว้” (Written Law) ได้แก่ หนังสือห้าเล่มแรก (Torah) ที่เรียกว่า “บทบัญญัติของโมเสส” กับ “บทบัญญัติที่เล่าสืบต่อกันมา” (Oral Law) ได้แก่ สิ่งที่บรรดาธรรมาจารย์เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อขยายความบทบัญญัติของโมเสสออกไปถึง 613 ข้อ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของศาสนายิวและธรรมบัญญัติของพระเจ้า ในสมัยของพระเยซูเจ้าบทบัญญัตินี้เป็นที่รับรู้และเรียกว่า “ธรรมเนียมของบรรพบุรุษ”

1.        การถือบทบัญญัติที่แก่นแท้

พระวรสารตอนแรก พระยซูเจ้าทรงประณามบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี เพราะการถือธรรมเนียมที่พวกเขาสร้างขึ้น เช่น ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หรือการทำพิธีชำระตนหลังกลับจากตลาด ซึ่งเป็นเหมือนกับรั้วกั้นธรรมบัญญัติมิให้ถูกละเมิด “ท่านทั้งหลายละเลยบทบัญญัติของพระเจ้ากลับไปถือธรรมเนียมของมนุษย์” (มก 7:8) ตอนที่สอง พระเยซูเจ้าทรงกล่าวถึงกฎเกี่ยวกับอาหารของศาสนายิว การรับประทานอาหารบางชนิด (เนื้อสุกร) ซึ่งทำให้มนุษย์เป็นมลทินและไม่สมควรเข้าร่วมพิธีกรรม

พระศาสนจักรยุคแรกคริสตชนมีต้นกำเนิดมาจากศาสนายิว ได้พยายามบังคับใช้กฎเหล่านี้กับคริสตชนที่มาจากพื้นเพอื่น นักบุญมาระโกไม่เห็นด้วยและอ้างถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ว่า เฉพาะสิ่งที่ออกมาจากใจมนุษย์ที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน อาทิ คำหยาบคายและการกระทำที่ชั่วร้ายต่าง ๆ พระองค์ได้ตำหนิบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีอย่างรุนแรงด้วยการอ้างถ้อยคำของประกาศกอิสยาห์ “ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา” (มก 7:6) พระองค์ทรงต้องการให้การกระทำของเราสอดคล้องกับคำพูด

พระเยซูเจ้าได้สอนชาวยิวว่า สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทิน ไม่ใช่สิ่งที่มาจากภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจต่างหาก สิ่งต่าง ๆ ในตัวมันเองไม่ใช่สิ่งที่เป็นมลทิน หรือไม่เป็นมลทิน เพราะทุกอย่างที่พระเจ้าทรงสร้างมาล้วนแต่ดีทั้งนั้น แต่เป็นมนุษย์ที่ทำให้เป็นมลทิน การกระทำของแต่ละคนบ่งบอกเจตนาและความต้องการของเขา บทบัญญัติต่าง ๆ ต้องนำมนุษย์ไปหาพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ นี่คือแก่นแท้และหัวใจของบทบัญญัติ

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องถือบทบัญญัติที่แก่นแท้ ไม่ปฏิบัติตามตัวอักษรเพื่อสนองความต้องการของตน แต่ปฏิบัติตามจิตตารมย์ของบทบัญญัติ เพื่อช่วยเราให้รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์มากขึ้น เช่น การมาวัดวันอาทิตย์เพื่อนสรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับหมู่คณะ มอบชีวิตและความต้องการของเราแด่พระองค์ ขอสมาโทษพระองค์สำหรับบาปที่เราทำ ขอบคุณพระองค์สำหรับพระพรต่าง ๆ และรับพระองค์ในศีลมหาสนิทเพื่อเป็นพลังสำหรับเราในการรักพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องในชีวิตจริง

ประการที่สอง เราต้องแสวงหาพระประสงค์ของเจ้า พระประสงค์ของพระเจ้าต้องสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิตของเรา เราต้องแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าทุกวัน ด้วยการรักพระเจ้าในบุคคลที่เดือดร้อน และให้ความช่วยเหลือผู้ที่จำเป็นเร่งด่วนที่เราพบในชีวิตจริง ชีวิตของเราต้องเป็นเครื่องหมายแห่งพระพรและความรักของพระเจ้าสำหรับบุคคลเหล่านี้

ประการที่สาม เราต้องกลับใจและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ สิ่งที่ทำให้มนุษย์มีมลทินเกิดจากใจของมนุษย์ ใจของเราเป็นบ่อเกิดของความชั่วช้าและการกระทำที่ผิด อาทิ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความเกียจชัง เราต้องกลับใจและชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ ด้วยการคืนดีกับพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องทางศีลอภัยบาปทุกครั้งที่เราทำบาป

บทสรุป

พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าได้แสดงให้เราเห็นว่า มิใช่การปฏิบัติตามบทบัญญัติ ธรรมเนียมประเพณี หรือพิธีกรรมภายนอกที่สำคัญ แต่เป็นความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ต่างหากที่เป็นแก่นแท้และหัวใจของทุกสิ่ง ที่ช่วยให้การปฏิบัติศาสนาในชีวิตประจำวันมีคุณค่าและความหมาย ความรักในใจของเราต้องเป็นแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ เพราะ หากปราศจากความรัก ทุกสิ่งที่เราทำย่อมไร้ค่า (เทียบ 1 คร 13:2)

การปฏิบัติศาสนาต้องไม่ใช่ภาวะบีบคั้นที่ต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือเพื่อทำให้ตนเองดูดีในสายตาของคนอื่น พิธีกรรม ระเบียบ กฎเกณฑ์และบทบัญญัติทางศาสนา ต้องช่วยเพิ่มพูนความรักในใจของเราทั้งต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ศิษย์พระคริสต์ต้องถือบทบัญญัติที่แก่นแท้ แสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้เรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้าและเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนพี่น้องในแบบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เริ่มจากในครอบครัว หมูคณะ และชุมชนวัดของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

31 สิงหาคม 2024

ภาพ : คริสตชุมชนวัดหนองแสง-ดงอี่บ่าง, วานรนิวาส สกลนคร; 2024-08-25

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567

พระพรพิเศษที่ต้องใช้ให้เกิดผล

 

พระพรพิเศษที่ต้องใช้ให้เกิดผล

เสาร์

สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา

1 คร 1:26-31

มธ 25:14-30

บทอ่านแรก เปาโลได้ชี้ให้ชาวโครินธ์ได้ตระหนักว่า คริสตชนยุคแรกส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากชนชั้นปัญญาชน ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง หรือครอบครัวชนชั้นสูง ตามมาตรฐานของโลก “แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรคนโง่เขลาในสายตาของโลก  เพื่อทำให้คนฉลาดต้องอับอาย พระเจ้าทรงเลือกสรรคนที่โลกถือว่าอ่อนแอเพื่อทำให้ผู้แข็งแรงต้องอับอาย” (1 คร 1:27) คนเหล่านี้คือหลักฐานที่แสดงถึงฤทธานุภาพและความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ผู้เป็นสติปัญญา คุณธรรม ความศักดิ์สิทธิ์ และอิสรภาพของพวกเขา

พระวรสารวันนี้เป็นอุปมาเรื่องเงินตะลันต์ หนึ่งตะลันต์ (Talent) ในสมัยโรมันเท่ากับเงินหกพันเดนารี หนึ่งเดนาเรียสเท่ากับค่าจ้างแรงงานหนึ่งวัน ดังนั้น หนึ่งตะลันต์จึงเป็นเงินจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังหมายถึง พระพรพิเศษ หรือความสามารถต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์แตกต่างกันไปตามความสามารถของแต่ละคน พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราว่าต้องใช้พระพรพิเศษของพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์และรอบคอบ หากเราต้องการเข้าอาณาจักรสวรรค์

อุปมาได้แสดงให้เห็นถึงความวางใจของบุรุษผู้หนึ่งต่อผู้รับใช้ของตน ด้วยการมอบทรัพย์สินของตนแก่แต่ละคนก่อนออกเดินทางไกล เมื่อนายกลับมาได้เรียกผู้รับใช้แต่ละคนมาตรวจบัญชี คนที่ทำงานหนักและทำให้เงินตะลันต์เกิดผลสองเท่า ย่อมเป็นที่พึงพอใจของนาย “ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์” (มธ 25:21) และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น ตรงข้ามผู้รับใช้ที่เลวและเกียจคร้านนำเงินตะลันต์ไปฝังดินไว้ ย่อมถูกนายตำหนิและนำเงินนั้นไปมอบให้คนที่มีมากที่สุด

อุปมาเรื่องเงินตะลันต์บอกให้ทราบว่า เราไม่สามารถนำพระพรพิเศษที่ได้รับจากพระเจ้า และความสามารถต่าง ๆ ที่มีไปใช้เพื่อสนองความต้องการของตนเอง แต่ต้องใช้เพื่อรับใช้พระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ รู้จักแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับคนยากจนและคนที่จำเป็นด้วยความใจกว้าง ความสามารถต่าง ๆ ที่เรามี ยิ่งใช้บ่อย ยิ่งเชี่ยวชาญ สิ่งที่เรามี ยิ่งให้มาก ยิ่งได้รับมาก บ่อยครั้งพระพรพิเศษและความสามารถที่เรามีหากไม่ใช้ ย่อมขาดความเชี่ยวชาญและทักษะด้อยลง

คริสตชนต้องใช้พระพรและความสามารถที่ตนมีอย่างรับผิดชอบ ไม่ใช้อย่างเห็นแก่ตัวและเพื่อตนเอง แต่ต้องใช้เพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้าและความดีของส่วนรวม ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ รู้จักใช้พระพรและความสามารถโดยไม่ลังเล ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างรอบคอบและรับผิดชอบ แบ่งปันสิ่งที่มีกับคนที่ต้องการความช่วยเหลือด้วยใจกว้าง นี่คือการทำให้พระพรของพระเจ้าเกิดผลอย่างอุดม และพระองค์จะทรงเพิ่มพูนให้มากขึ้น

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

30 สิงหาคม 2024

ภาพ : ภคินีรักกางเขนแ่หงท่าแร่, เข้าเงียบสัญจร, โรงเรียนมารีย์พิทักษ์เซกา, บังกาฬ; 2024-08-17


วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ต้องเป็นตะเกียงที่ไม่ไร้น้ำมัน

 

ต้องเป็นตะเกียงที่ไม่ไร้น้ำมัน

ศุกร์

สัปดาห์ที่ 21 เทศกาลธรรมดา

1 คร 1:17-25

มธ 25:1-13

บทอ่านแรก เปาโลเน้นไปที่แก่นแท้ของความเชื่อของเรา โดยพูดถึงความไม่พอใจต่อกลุ่มต่าง ๆ ที่กำลังก่อตัวขึ้นในชุมชนชาวโครินธ์ บางคนบอกว่าเป็นของเปาโล อปอลโล หรือเคฟาส หรือแม้แต่พระคริสตเจ้า เปาโลเน้นว่า พวกเขาทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสตเจ้า ไม่ว่าใครจะล้างบาปพวกเขาก็ตาม และพระคริสตเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่สิ้นพระชนม์เพื่อพวกเขาและช่วยพวกเขาให้รอด เปาโลให้ความสำคัญกับการประกาศพระคริสตเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน

อุปมาเรื่องหญิงสาวสิบคนที่พระเยซูเจ้าเล่า สะท้อนชีวิตจริงของสังคมยิวที่ให้ความสำคัญกับการมาของเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว ทุกคนอยากเป็นส่วนหนึ่งของความชื่นชมยินดีนี้ พากันถือตะเกียงออกไปรอรับ อุปมาบอกให้เราทราบว่า พระเยซูเจ้าเป็นดังเจ้าบ่าวที่เสด็จมาเพื่อพบปะกับประชากรของพระองค์ และนำเราเข้าไปในบ้านแท้นิรันดรคืออาณาจักรสวรรค์ เพื่ออยู่กับพระองค์ผู้เป็นเจ้าบ่าวตลอดไป อันแสดงถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษยชาติ

พระเจ้าปรารถนาให้ทุกคนได้เป็นหนึ่งเดียวและอยู่กับพระองค์ แต่การมาของพระองค์มิได้กำหนดเวลาล่วงหน้า ทุกคนต้องตื่นเฝ้าอยู่เสมอและรอคอยด้วยความรอบคอบ เราเห็นความแตกต่างระหว่างหญิงสาวสองกลุ่มที่ถือตะเกียงออกไปรอรับเจ้าบ่าว “หญิงโง่นำตะเกียงไป แต่มิได้นำน้ำมันไปด้วย ส่วนหญิงฉลาด นำน้ำมันใส่ขวดไปพร้อมกับตะเกียง” (มธ 25:3-4) ตะเกียงที่ไร้น้ำมันย่อมหาประโยชน์อะไรไม่ได้ เพราะไม่สามารถจุดเพื่อส่องสว่างแก่ตนเองและผู้อื่นได้

น้ำมันที่พระเยซูเจ้าตรัสถึงคือความรักและความดีงาม หรือบุญกุศลที่ทุกคนต้องมีและเตรียมให้พร้อมอยู่เสมอ ประการสำคัญ น้ำมันแห่งความรักและความดีงามเป็นสิ่งที่ขอกันไม่ได้ เพราะ “ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง” เราต้องลงมือทำและออกแรงด้วยตนเอง ศีลล้างบาปมิใช่หลักประกันของความรอดนิรันดร ต้องสั่งสมตลอดชีวิตเพื่อมีน้ำมันเพียงพอ สำหรับจุดตะเกียงแห่งความเชื่อให้ลุกอยู่เสมอ จนถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จมาและอยู่กับพระองค์ตลอดไป

ความรักและความดีงามเป็นดังน้ำมันที่จำเป็น และทำให้ตะเกียงของเราลุกโชนอยู่เสมอ เพื่อพร้อมต้อนรับการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าในวาระสุดท้าย ศิษย์พระคริสต์ต้องเป็นตะเกียงที่ไม่ไร้น้ำมัน จุดอยู่เสมอ และตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่างแก่ทุกคน เราต้องหมั่นเตรียมน้ำมันให้พร้อมและเพียงพอ ด้วยการทำแต่สิ่งดีงามและดำเนินชีวิตในความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ในชีวิตประจำวัน

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

29 สิงหาคม 2024

ภาพ : คริสตชุมชนหนองแสง-ดงอี่บ่าง, วานรนิวาส, สกลนคร; 2024-08-25