วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เพื่อได้ชีวิตนิรันดร


เพื่อได้ชีวิตนิรันดร
อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 28
เทศกาลธรรมดา
ปี B
ปชญ 7:7-11
ฮบ 4:12-13
มก 10:17-30
บทนำ
 เมื่อ 15 สิงหาคม 2017 บิล เกตส์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ได้บริจาคหุ้นบริษัทจำนวน 64 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.5 แสนล้านบาท) เพื่อการกุศล คาดการณ์ว่าอาจนำเข้าสู่มูลนิธิบิลและเมอลินดา เกตส์ ซึ่งเขาและภรรยาร่วมกันก่อตั้งขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและขจัดปัญหาความยากจนของคนทั่วโลก การบริจาคครั้งนี้ทำให้ปัจจุบัน บิล เกตส์ มียอดเงินบริจาคเพื่อการกุศลรวมแล้วถึง 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (1.6 ล้านล้านบาท)
ฟรังซิส เซเวียร์ ศาสตราจารย์หนุ่มที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยปารีส ได้ละทิ้งอาชีพทางโลกเพื่ออุทิศตนรับใช้พระเจ้าในวัย 28 ปี ข้อความในพระคัมภีร์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านคือ “มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียวิญญาณไป” (มก 8:36) ท่านได้กลายเป็นธรรมทูตผู้ยิ่งใหญ่ของยุคสมัย ได้นำข่าวดีแห่งพระวรสารไปประกาศยังที่ต่างๆ เช่น อินเดีย ศรีลังกา มะละกา อินโดนีเซียและญี่ปุ่น
เราเห็นความแตกต่างระหว่างฟรังซิส เซเวียร์กับเศรษฐีหนุ่มในพระวรสาร คนหนึ่งได้ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระคริสตเจ้าและได้รับชีวิตนิรันดร ขณะที่อีกคนหนึ่งติดใจในสมบัติฝ่ายโลก ปฏิเสธการติดตามพระคริสตเจ้าและสูญเสียชีวิตนิรันดร บทอ่านวันนี้เตือนเราว่าเราไม่อาจครอบครองสิ่งใดในชีวิต ที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นมิให้เราอุทิศตัวเพื่อองค์พระเจ้า พระเจ้าต้องสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิต
1.       เพื่อได้ชีวิตนิรันดร
เศรษฐีหนุ่มได้มาหาพระเยซูเจ้าเพื่อแสวงหาหนทางได้รับชีวิตนิรันดร พระเยซูเจ้าทรงชี้ทางสว่างให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติซึ่งเป็นแนวทางพื้นฐาน เขาอ้างกับพระองค์ว่าได้ถือปฏิบัติพระบัญญัติของพระเจ้าทุกข้อตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว แต่ปัญหาของชายหนุ่มผู้มั่งคั่งคนนี้คือเขาให้ความสำคัญกับสิ่งของมากกว่าตัวบุคคล ความร่ำรวยของเขาเป็นเหมือนกับกำแพงขวางกั้นตัวเขากับพระเจ้า ทรัพย์สมบัติที่เขามีได้ครอบครองจิตใจและตัวเขา
แม้เศรษฐีหนุ่มไม่เคยฆ่าคนตาย ขโมยของใครหรือทำผิดประเวณี แต่เขาได้ละเมิดบทบัญญัติของพระเจ้าประการแรก ด้วยการนับถือรูปเคารพและขาดความรักต่อเพื่อนพี่น้อง เขานมัสการความมั่งคั่งของตนมากกว่าพระเจ้า พระเยซูเจ้าทรงท้าทายเขา การถือปฏิบัติตามบทบัญญัติเท่านั้นยังไม่พอ เพื่อเป็นคนดีบริบูรณ์เขาต้องแบ่งปันสิ่งที่เขามีกับคนยากจน “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” (มก 10:21)
พระเยซูเจ้าตรัสชัดเจนว่าใครที่อยากได้ชีวิตนิรันดร ไม่เพียงให้ความเคารพหรือไม่ทำร้ายใคร แต่ต้องแบ่งปันสิ่งที่เขามี ความสามารถ และพระพรที่เขาได้รับกับคนที่ด้อยกว่า พระเจ้าต้องสำคัญเป็นลำดับแรกในชีวิตของเรา ทุกสิ่งที่เรามีมิใช่เพื่อการครอบครองเป็นเจ้าของหรือปรนเปรอตัวเอง แต่ต้องแบ่งปันคนอื่นที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเศรษฐีหนุ่มให้ละความเห็นแก่ตัว แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอของพระองค์
2.       บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องทำสิ่งสวยงามเพื่อพระเจ้า สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเราคือความรอดของวิญญาณ เราต้องเลียนแบบนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตาที่ทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่ต่างออกไป “ทำสิ่งสวยงามเพื่อพระเจ้า” พระเจ้าต้องสำคัญเป็นลำดับแรกเสมอในชีวิตของเรา การมีส่วนในอาณาจักรสวรรค์ มิใช่อยู่แค่ไม่กระทำความผิดหรือถือปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการเท่านั้น แต่ต้องทำสิ่งดีงาม กล้าแลกสิ่งอนิจจังของโลกนี้กับสมบัติแท้แห่งเมืองสวรรค์
ประการที่สอง เราต้องให้ใจของเรากับพระเจ้า ในการเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้าต้องมีจิตใจกว้าง พระเจ้าไม่ได้เรียกร้องให้เราละทิ้งทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่มี แต่ทรงเรียกร้องให้เราใช้มันอย่างชาญฉลาด ทรัพย์สมบัติมิใช่สิ่งที่เลวร้ายในตัวมันเอง แต่ความโลภของมนุษย์และความทะเยอทะยานไม่รู้จักพอต่างหากนำมนุษย์ไปสู่หนทางแห่งบาป เราต้องใช้สิ่งที่มี ความสามารถและพระพรต่างๆ เพื่อนำเราไปสู่เป้าหมายคือชีวิตนิรันดร
ประการที่สาม เราต้องติดตามพระเยซูเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข เศรษฐีหนุ่มกลับไปด้วยความเศร้า เพราะเขาอยากติดตามพระเยซูเจ้าตามเงื่อนไขของตนเอง เงื่อนไขที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องจากเราคือการเลิกนึกถึงตนเอง แบกกางเขนของตนและติดตามพระองค์ ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ในการแสวงหาและปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตประจำวัน เพื่อได้ชีวิตนิรันดรซึ่งเป็นขุมทรัพย์ในสวรรค์
บทสรุป
พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญเราให้ใช้ทุกสิ่งที่มี ความสามารถและพระพรต่างๆ ที่เราได้รับ มิใช่สำหรับตัวเราเองเท่านั้น แต่ต้องใช้เพื่อเห็นแก่พระคริสตเจ้าในเพื่อนพี่น้องที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ เป็นต้น คนจนและคนชายขอบของสังคม ไม่ตกเป็นทาสของเงินทองและทรัพย์สมบัติในโลกนี้ แต่ใช้มันอย่างชาญฉลาดเพื่อนำเราไปหาพระเจ้า และสู่เป้าหมายสูงสุดที่เรามุ่งหวังคือชีวิตนิรันดร
เรื่องราวของเศรษฐีหนุ่มได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเรา มิใช่อยู่ที่การไม่กระทำความผิดหรือถือปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการอย่างเคร่งครัดเท่านั้น แต่เราต้องเลือกทำสิ่งดีงาม กล้าสละน้ำใจตนเองและทุกสิ่งที่มีเพื่อแบ่งปันกับคนทุกข์จน ศิษย์พระคริสต์ต้องสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์ ดำเนินชีวิตในความรักต่อเพื่อนพี่น้อง เป็นคนใจกว้าง เห็นอกเห็นใจ และแสดงความเมตตาต่อคนทุกข์จน ที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือซึ่งอยู่ต่อหน้าเรา
คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
วัดแม่พระแจกจ่ายพระหรรษทาน ดอนม่วย, พรรณานิคม
13 ตุลาคม 2018
ภาพ: คนทุกข์จนชาวอีสานสมัยธรรมทูต, อุบลราชธานี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น