วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567

หลักปฏิบัติพื้นฐานที่พระเยซูเจ้าสอน

หลักปฏิบัติพื้นฐานที่พระเยซูเจ้าสอน

พุธ

สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

2 พกษ 2:1, 6-14

มธ 6:1-6, 16-18

บทอ่านแรก ประกาศกเอลียาห์ผู้ยิ่งใหญ่ก้าวเดินไปด้วยกันกับเอลีชาที่ไม่มีใครรู้จัก เราเห็นถึงคำมั่นสัญญาของเอลีชาต่อเอลียาห์และพันธกิจของเขา และได้ขอรับจิตของเอลียาห์สองส่วนเพื่อจะได้เป็นอย่างเอลียาห์ แต่เอลียาห์ทราบว่า ท่านไม่สามารถให้ได้ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นเป็นผู้ประทานให้ได้ แต่ถ้าเอลีชาดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความเชื่อก็จะสามารถมองเห็น ก่อนที่รถม้าเพลิงได้มารับเอลียาห์ไป และเอลีชาได้กลายเป็นผู้สืบทอดของเอลียาห์

พระเยซูเจ้าทรงให้ความสำคัญกับธรรมบัญญัติและทำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยการสอนจิตตารมย์ เป้าหมาย และจุดประสงค์ของธรรมบัญญัติแต่ละข้อ พระวรสารวันนี้ พระองค์ได้ตรัสกับบรรดาศิษย์ถึงหลักปฏิบัติพื้นฐานทางศาสนา 3 ประการ ได้แก่ การให้ทาน การอธิษฐานภาวนา และการจำศีลอดอาหาร ซึ่งชาวยิวถือว่าเป็นกิจการดีทางศาสนา เป็นเครื่องหมายสำคัญของผู้ศักดิ์สิทธิ์น่าเคารพที่ต้องไม่กระทำเพื่ออวดตนเอง แต่เพื่อสรรเสริญพระเจ้า

การให้ทาน เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของเรากับหมู่คณะ พระเยซูเจ้าทรงสอนในลักษณะตรงข้ามกับวิธีปฏิบัติของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี ที่ชอบเป่าแตรไปข้างหน้าในศาลาธรรมและตามถนน เพื่อหวังให้คนเห็นและได้รับคำชม “ส่วนท่าน เมื่อให้ทาน อย่าให้มือซ้ายของท่านรู้ว่ามือขวากำลังทำสิ่งใด” (มธ 6:3) การให้ทานต้องมาจากหัวใจที่รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเดือดร้อน เป็นกิจการแห่งความรักซึ่งเป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ของศิษย์พระคริสต์

การอธิษฐานภาวนา เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า ต้องไม่ทำเหมือนบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี ที่ชอบยืนอธิษฐานภาวนาในศาลาธรรมและตามลานสาธารณะเพื่อให้คนเห็น “ส่วนท่าน เมื่ออธิษฐานภาวนา จงเข้าไปในห้องส่วนตัว ปิดประตูและอธิษฐานต่อพระบิดาของท่าน” (มธ 6:6) การอธิษฐานภาวนาต้องเป็นเรื่องส่วนตัวและประสบการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้า เป็นสำนึกของความต่ำต้อยไม่เหมาะสมของตน

การจำศีลอดอาหาร เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของเรากับตัวเอง ต้องไม่ทำหน้าเศร้าหมอง หรือใบหน้าหมองคล้ำเหมือนบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี ที่มุ่งหวังให้คนรู้ว่ากำลังจำศีลอดอาหาร “ส่วนท่าน เมื่อจำศีลอดอาหาร จงล้างหน้า ใช้น้ำมันหอมใส่ศีรษะ” (มธ 6:17) การอดอาหารต้องช่วยให้เรารู้จักบังคับตนเองและมีวินัย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน ประการสำคัญ “การอดอาหารที่ปราศจากการเปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า”

พระเยซูเจ้าทรงตำหนิบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี เพราะพวกเขาปฏิบัติศาสนกิจเพื่ออวดคนอื่น พวกเขาทำความดีเพื่อให้คนชม มิใช่มาจากความศรัทธาและหัวใจที่รักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง ศิษย์พระคริสต์ต้องปฏิบัติศาสนกิจเพื่อพระเกียรติมงคลของพระเจ้า ทำความดีด้วยความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้อง เพื่อคนที่เห็นกิจการดีที่เรากระทำจะได้สรรเสริญพระเจ้าของเรา

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

khuanthinwan@gmail.com

โรงเรียนเซนต์ยอแซฟยานนาวา กรุงเทพฯ

19 มิถุนายน 2017

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น