วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567

ไม่มองข้ามสิ่งเล็กน้อย

 

ไม่มองข้ามสิ่งเล็กน้อย

อาทิตย์

สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

ปี B

อสค 17:22-24

2 คร 5: 6-10

มก 4: 26-34

บทนำ

 ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” สำหรับพระเจ้า เราคงจำเรื่องดาวิดเด็กหนุ่มเลี้ยงแกะที่สามารถฆ่ายอดทหารผู้ยิ่งใหญ่อย่างโคลิอัทได้อย่างง่ายดาย เรื่องราวของโมเสสที่พูดติดอ่างแต่พระเจ้าทรงเรียกให้มาเป็นผู้นำการปลดปล่อยอิสราเอลจากเงื้อมมือของอียิปต์ โทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) เวลาเป็นเด็กได้รับการแจ้งจากครูว่า เขาโง่เกินกว่าที่จะเรียนรู้สิ่งใด และแนะนำแม่ของเขาให้นำเขาออกจากโรงเรียน

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ดูเชื่องช้าและน่าเบื่อมากจนพ่อแม่ของเขากลัวว่า เขาจะมีสภาพจิตใจบกพร่อง วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill) เข้าเรียนในชั้นเรียนระดับต่ำสุดและไม่เคยย้ายออกจากกลุ่มต่ำสุดตลอดหลายปีที่เรียนที่ฮาร์โรว์ ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” สำหรับพระเจ้า แปดสิบเปอร์เซนของความสำเร็จมาจากความเพียรพยายาม  พระวรสารวันนี้สอนเราว่า พระเจ้าทรงทำให้อาณาจักรของพระองค์เติบโตในหัวใจมนุษย์อย่างช้า ๆ แต่มั่นคง

1.        ไม่มองข้ามสิ่งเล็กน้อย

การเจริญเติบโตของเมล็ดพืชเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ มันเติบโตขึ้นทุกวันอย่างช้า ๆ แต่มองไม่เห็น พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นเหมือนเมล็ดพืชซึ่งเป็นเมล็ดเล็ก ๆ ที่คนนำไปหว่านในดิน มันเติบโตทั้งกลางวันกลางคืน เราไม่ทราบว่ามันเติบโตได้อย่างไร เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจของคนหว่าน สิ่งที่เราทำได้คือการใส่ปุ๋ย พรวนดิน รดน้ำ ทำหน้าที่ในส่วนของเราให้ดีที่สุด ส่วนการทำให้เติบโตเป็นหน้าที่ของพระจิตเจ้า

เมล็ดมัสตาร์ดเป็นเมล็ดทั่วไปที่เป็นเพียงเมล็ดเล็ก ๆ แม้ไม่ใช่เมล็ดที่เล็กที่สุดในปาเลสไตน์ แต่เป็นเมล็ดที่ทุกคนรับรู้ว่าเล็กมาก ภายในเมล็ดเล็ก ๆ นี้มีศักยภาพที่พร้อมเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ เราสามารถพบพระเจ้าได้ในเหตุการณ์ปกติทั่วไปในชีวิตของเรา หรือในสิ่งเล็กน้อยที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ดังคำพูดที่ว่า “พระเจ้าไม่ได้เรียกเราให้ทำสิ่งใหญ่โตในชีวิต แต่เรียกเราให้ทำสิ่งธรรมดาด้วยวิธีพิเศษ”

ในกรณีของเมล็ดพืชและเมล็ดมัสตาร์ด การเติบโตเป็นไปอย่างช้า ๆ จนเราสังเกตไม่เห็น มันเติบโตเกิดขึ้นแบบเงียบ ๆ และช้า แต่มั่นคงสม่ำเสมอ เราต้องอดทนและเฝ้าคอยด้วยความหวัง เป็นธรรมดาอยู่เองที่ดอกและผลจะไม่ออกพร้อมกับการเพาะปลูก ทุกอย่างย่อมมีเวลาของมัน บางครั้งยาวนานเกิดกว่าที่เราคาดเอาไว้ ที่สุด มันจะผลิดอกออกผล หรือสุกปลั่งจนเราสามารถเก็บเกี่ยวหรือใช้ประโยชน์ได้ งานของพระเจ้าเริ่มจากสิ่งเล็กน้อยเช่นนี้เสมอ

2.        บทเรียนสำหรับเรา

พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิต

ประการแรก เราต้องไม่มองข้ามสิ่งเล็กน้อย แม้เมล็ดมัสตาร์ดเป็นเพียงเมล็ดเล็ก ๆ แต่สามารถเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงาและที่อาศัยแก่นกและสิ่งมีชีวิต คริสตชนแต่ละคนต้องพยายามทำหน้าที่ธรรมดาที่ตนเองรับผิดชอบอย่างเต็มที่ งานที่เรากำลังทำอยู่แม้เป็นงานเล็ก ๆ แต่เป็นงานที่สำคัญ อัศจรรย์ที่ยืนยันความจริงข้อนี้คือ ความเจริญเติบโตและเป็นปึกแผ่นมั่นคงของพระศาสนจักรในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มต้นจากคนเพียงหยิบมือเดียว (ประมาณ 120 คน)

ประการที่สอง เราต้องทำส่วนของเราให้ดีที่สุด อาณาจักรของพระเจ้าเติบโตในใจมนุษย์ เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อหยั่งรากในตัวเราแต่ละคน เมื่อเราร่วมมือพระจิตเจ้าในการพรวนดินรดน้ำ ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด มันเติบโตขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ เราต้องเรียนรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยการนำพระวาจาของพระองค์มาปฏิบัติในชีวิต เราต้องหว่านเมล็ดพันธุ์ด้วยความรัก ความหวัง ความเมตตากรุณา และการให้อภัย นี่คือการมีส่วนทำให้อาณาจักรของพระเจ้าเติบโตในโลกนี้ และบรรลุถึงความสมบูรณ์ในอาณาจักรสวรรค์

ประการที่สาม เราต้องมีความอดทนไม่หมดหวัง การเจริญเติบโตของเมล็ดพืชและเมล็ดมัสตาร์ดเป็นไปอย่างช้า เราต้องมีความอดทนสูง ไม่หมดกำลังใจง่าย ๆ เมื่อเห็นงานที่เราลงทุนลงแรงไปไม่เกิดผลทันตาเห็น หรือไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง ต้องไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” เราต้องวางใจในพระจิตเจ้า เพราะการเจริญเติบโตของอาณาจักรของพระเจ้าเป็นงานของพระจิตเจ้า ดังคำกล่าวของนักบุญเปาโลที่ว่า “ทั้งผู้ปลูกและผู้รดน้ำก็ไม่สำคัญ แต่ผู้มีความสำคัญแท้จริงคือพระเจ้าผู้บันดาลให้เติบโตขึ้น” (1 คร 3:7)

บทสรุป

พี่น้องที่รัก อุปมาเรื่องเมล็ดพืชแสดงให้เห็นวิธีปฏิบัติงานของพระเจ้าซึ่งแตกต่างจากการทำงานของมนุษย์ เหมือนเมล็ดพืชที่งอกทั้งกลางวันกลางคืนอย่างเงียบ ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวและคาดไม่ถึง บ่อยครั้งเรามนุษย์ต้องการเห็นความสำเร็จแบบทันตา ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน เราต้องเรียนรู้ด้วยความอดทนและการรอคอย ประการสำคัญ เป็นพระเจ้าที่ทำให้เติบโตและเกิดผล เราเป็นหนี้บุญคุณพระเจ้าในทุกสิ่ง

อุปมาเรื่องเมล็ดมัสตาร์ดสอนเราว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่มักเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อยเสมอ” เราต้องไม่มองข้ามสิ่งเล็กน้อย หรือสิ่งธรรมดาทั่วไปในชีวิตประจำวัน เราอาจพบพระเจ้าได้จากสิ่งธรรมดาเหล่านี้ ศิษย์พระคริสต์ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด มีความอดทนไม่หมดหวัง และต้องไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” เพราะพระจิตเจ้าคือผู้ทำให้งานทุกอย่างสำเร็จและเป็นไปได้ เราต้องเป็นเครื่องมือที่ดีในพระหัตถ์ของพระองค์ ร่วมมือกับพระหรรษทานและทำตามพระประสงค์ของพระองค์

คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์

ID LINE : dondaniele

วัดนักบุญยอแซฟ ดอนทอย-หนองสนุก, สกลนคร

15 มิถุนายน 2024

ที่มาภาพ : https://i0.wp.com/stillromancatholicafteralltheseyears.com/wp-content/uploads/2020/08/THE-SOWER.jpg?ssl=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น