พระเยซูเจ้า ผู้เลี้ยงแกะที่ดี
วันอาทิตย์
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา
ปี A
|
กจ 2:14ก, 36-41
1 ปต 2:20ข, 25
ยน 10:1-10
|
บทนำ
มีเรื่องเล่าว่าระหว่างสงครามเกาหลี ทหารคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บใกล้จะตาย
เขาได้ร้องหาพระสงฆ์ แต่แพทย์สนามหาพระสงฆ์ไม่พบ ทหารบาดเจ็บคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ได้ยินเสียงร้องจึงพูดว่า
“ผมเป็นพระสงฆ์” แพทย์สนามหันไปยังเสียงนั้นและพบว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่าอีก
จึงเตือนว่า “อย่าขยับเขยื้อน เพราะอาจทำให้คุณตายได้”
แต่พระสงฆ์ประจำกองทัพองค์นั้นตอบว่า “วิญญาณของมนุษย์คนหนึ่ง
มีค่ายิ่งกว่าเวลาแห่งชีวิตของผม” จากนั้น เขาได้คลานไปยังทหารบาดเจ็บ
ฟังคำสารภาพบาปและยกบาปให้ ก่อนที่ทั้งคู่จะสิ้นใจโดยจับมือกันแน่น
สัปดาห์นี้เราฉลองพระเยซูเจ้านายชุมพาบาลที่ดี
พระศาสนจักรเรียกเราให้ไตร่ตรองถึงความหมายแห่งการเรียกของพระเจ้าและภาวนาเพื่อกระแสเรียกเป็นพิเศษ
อีกทั้งเตือนใจเราว่า ในฐานะคริสตชนเรามีหน้าที่และความรับผิดชอบในการส่งเสริมกระแสเรียก
พระคัมภีร์ได้ใช้ภาพพจน์ของ “นายชุมพา” หรือ “ผู้เลี้ยงแกะ”
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพระเจ้ากับประชากรอิสราแอล
อาชีพเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งในปาเลสไตน์
ชาวยิวเลี้ยงแกะเพื่อตัดขนมากกว่าเป็นอาหาร
แกะแต่ละตัวมีอายุยืนและอยู่กับคนเลี้ยงนานจนจำชื่อได้ทุกตัว ปกติคนเลี้ยงจะเดินนำหน้าฝูงแกะเพื่อดูให้แน่ใจว่าทางข้างหน้าปลอดภัย
และคอยส่งเสียงเป็นครั้งคราวให้แกะรู้ตำแหน่งที่อยู่ของตน ลักษณะพิเศษของแกะคือฟังเสียงและติดตามคนเลี้ยงเสมอ หากได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยจะหยุด และจะหันหลังวิ่งหนีทันทีหากได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง
1.
พระเยซูเจ้า ผู้เลี้ยงแกะที่ดี
ภาพพจน์เรื่องนายชุมพาและฝูงแกะ
เป็นภาพพจน์ที่รู้จักแพร่หลายในพระคัมภีร์ ตั้งแต่แรกเริ่มชาวยิวมองว่า พระเจ้าคือนายชุมพาที่ทรงเลี้ยงดูพวกเขาดุจลูกแกะ
(สดด 23) ในเวลาต่อมาคำว่า “นายชุมพา” หรือ “ผู้เลี้ยงแกะ”
ได้ใช้หมายถึงผู้นำชาวยิว ซึ่งเป็นตัวแทนของพระเจ้าในโลก แต่ในความเป็นจริง ผู้เลี้ยงแกะเหล่านี้ไม่ได้เป็นผู้เลี้ยงที่ดีสมกับเป็นตัวแทนของพระองค์
ในพันธสัญญาใหม่
พระเยซูเจ้าทรงเรียกผู้ติดตามและฟังพระองค์ว่า “ฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง” (มก 6:34) และได้เปิดเผยว่าพระองค์เป็น “ผู้เลี้ยงแกะที่ดี”
(ยน 10:11)
พระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าได้เปรียบเทียบให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นทั้ง “ผู้เลี้ยงแกะ”
และ “ประตูคอกแกะ” การเป็นผู้เลี้ยงแกะแสดงถึงความเป็นเจ้าของแกะที่ต่างจากคนรับจ้างทั่วไป
ทรงเรียกชื่อแกะแต่ละตัว แกะเหล่านั้นจำเสียงพระองค์ได้ ประการสำคัญ พระองค์ทรงยอมตายเพื่อฝูงแกะ
ส่วนการเป็น “ประตูคอกแกะ” แสดงถึงความเป็นผู้นำของพระองค์ที่นำฝูงแกะมาหาพระบิดาเจ้า
และปกป้องคุ้มครองแกะให้ได้รับความปลอดภัย
“เราเป็นประตู ผู้ที่เข้ามาทางเราก็จะรอดพ้น” (ยน 10:9) นั่นหมายความว่า
พระเยซูเจ้าทรงเป็นหนทาง เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ และเชื้อเชิญเราให้เดินตรงไปยังพระองค์
ผ่านทางพระองค์เราจะได้รับการช่วยให้รอด เพราะพระองค์คือหนทางที่นำไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ครบครัน
ผ่านทางพระองค์เท่านั้นที่เราจะเป็นหนึ่งเดียวกับฝูงแกะคือพระศาสนจักร
ที่จะได้รับการพิทักษ์คุ้มครองให้ได้รับความรอด
2.
บทเรียนสำหรับเรา
พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ได้ให้บทเรียนสำคัญสำหรับเราคริสตชนหลายประการ ในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ประการแรก เราต้องเป็นผู้เลี้ยงและผู้นำที่ดี เราจะกลายเป็นผู้เลี้ยงที่ดีได้ในความรักที่เรามีต่อเพื่อนพี่น้อง
ภาวนาเพื่อเขา ให้เวลาและใช้พระพรพิเศษต่างๆ ที่เรามีเพื่อผู้อื่น ดูแลและปกป้องเขาให้ได้รับความปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
บิดามารดาจะต้องดำเนินชีวิตเป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุตรหลานและเลี้ยงดูพวกเขาให้เติบโตในความเชื่อคริสตชน
ส่งเสริมความรักและความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในครอบครัว
สังคมหรือหมู่คณะที่เราสังกัดอยู่
ประการที่สอง เราต้องเป็นแกะที่ดีในฝูงแกะของพระเยซูเจ้า ด้วยการฟังเสียงผู้เลี้ยงของเรา อย่างบิดามารดา ครูบาอาจารย์
เจ้าอาวาส หรือพระสังฆราช ปฏิบัติตามคำแนะนำและร่วมมือกับท่านในงานหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายด้วยความรับผิดชอบ
มิใช่หลงไปตามเสียงอื่น เช่น เสียงของความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง ความมักได้เห็นแก่ตัว
หรือความสะดวกสบายฝ่ายโลก
ประการที่สาม เราต้องภาวนาเพื่อกระแสเรียกและชีวิตผู้อภิบาล พระศาสนจักรกำหนดให้สัปดาห์นี้ เป็นเวลาของการภาวนาเพื่อกระแสเรียกการเป็นพระสงฆ์
และชีวิตแห่งการอุทิศตนเพื่อพระเจ้า คริสตชนแต่ละคนมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนกระแสเรียก
“แม้เราจะเป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ไม่ได้
แต่เราสามารถสนับสนุนใครบางคนให้เป็นนักบวชหรือพระสงฆ์ที่ดีได้”
บทสรุป
พี่น้องที่รัก
พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ทรงรักและรู้จักแกะทุกตัว
ทรงดูแลเอาใจใส่แกะแต่ละตัวอย่างดี และทรงปกป้องฝูงแกะจากสุนัขป่าและอันตรายต่างๆ
ด้วยชีวิตของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทิ้งฝูงแกะ ปล่อยให้แกะอยู่ตามยถากรรม
หรือทิ้งให้เผชิญกับอันตรายตามลำพังเหมือนผู้รับจ้างทั่วไป
แต่พระองค์ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แกะทุกตัวปลอดภัยและไม่กระจัดกระจายไป เพื่อว่า “จะมีแกะเพียงฝูงเดียว
และผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว” (ยน 10:16)
ใครที่มาหาพระเยซูเจ้าและฟังเสียงของพระองค์จะไม่หลงทาง และจะได้รับชีวิตนิรันดร
ให้เราเลียนแบบความรักของผู้เลี้ยงแกะที่ดีในการปฏิบัติต่อผู้อื่น
ดำรงตนในความรักของพระองค์ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักซึ่งกันและกัน “ถ้าท่านมีความรักต่อกัน
ทุกคนจะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา” (ยน 13:35) อีกทั้ง มีชีวิตที่สนิทสัมพันธ์กับพระองค์
ในการภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ และการร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
คุณพ่อขวัญ
ถิ่นวัลย์
khuanthinwan@gmail.com
San Tomasso Ashram, วัดป่าพนาวัลย์
5 พฤษภาคม 2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น